ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงสร้างทักษะกระบวนการคิด (GPAS) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) เรื่

หัวข้องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงสร้างทักษะกระบวนการคิด (GPAS) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ

(Active Learning) เรื่อง สิ่งมีชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

ผู้วิจัย นพวรรณ ดวงดี

ปีการศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงสร้างทักษะกระบวนการคิด (GPAS) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) เรื่อง สิ่งมีชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 (2) สร้างและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงสร้างทักษะกระบวนการคิด (GPAS) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) เรื่อง สิ่งมีชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 (3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงสร้างทักษะกระบวนการคิด (GPAS) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) เรื่อง สิ่งมีชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และ (4) ประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงสร้างทักษะกระบวนการคิด (GPAS) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) เรื่อง สิ่งมีชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการเก็บข้อมูลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาลวัดโชค (ธรรมเสนานีวรคุณ) สังกัดเทศบาลเมืองโพธาราม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นด้านเนื้อหาในการพัฒนารูปแบบของผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับงานวิจัยและการจัดทำนวัตกรรมทางการศึกษา แบบสอบถามนักเรียนเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนารูปแบบ 2) เครื่องมือในการประเมินผลรูปแบบ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินทักษะกระบวนการของนักเรียน แบบประเมินจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ผู้วิจัยสร้างเครื่องมือแล้วให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ จากนั้นนำมาปรับปรุงแก้ไข ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเองทุกขั้นตอน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) การทดสอบที (t-test) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. เนื้อหาสาระที่เหมาะสมเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงสร้างทักษะกระบวนการคิด (GPAS) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) ควรเป็นเนื้อหาตามหลักวิชาการที่มีประโยชน์ต่อผู้เรียน และครูผู้สอน เนื้อหาสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันให้เกิดประโยชน์ได้ โดยเน้นเนื้อหาให้เหมาะสมกับระดับชั้น และเขียนเนื้อหาให้ละเอียดครอบคลุมจุดประสงค์ที่กำหนดในแต่ละเรื่อง การนำไปใช้จัดการเรียนการสอน เป็นการสอนแบบใช้เป็นแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ควรแยกเนื้อหาออกเป็นเรื่อง ๆ มีชุดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นสื่อประกอบการสอน การวัดผลและประเมินผล ควรมีทั้งแบบทดสอบ และแบบสังเกตพฤติกรรม โดยออกแบบให้เหมาะสมสอดคล้องกับเนื้อหาแต่ละเรื่อง ควรคำนึงถึงเรื่องงบประมาณในการจัดทำให้พอเหมาะ การเขียนเนื้อหาควรสืบค้นข้อมูลทางวิชาการให้ครบถ้วน ควรจัดทั้งในเวลาเรียนปกติ และมอบหมายให้นักเรียนศึกษานอกเวลาเรียน

2. ผลการพัฒนาและประเมินประสิทธิภาพเบื้องต้นของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงสร้างทักษะกระบวนการคิด (GPAS) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) เรื่อง สิ่งมีชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่า รูปแบบมีความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อนำรูปแบบไปหาประสิทธิภาพรายบุคคลแบบกลุ่มเล็ก และแบบภาคสนามได้ประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 61.11/62.50 , 70.37/71.94 และ 84.50/82.67 ตามลำดับ

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบ พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สิ่งมีชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 หลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงสร้างทักษะกระบวนการคิด (GPAS) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) สูงกว่าก่อนใช้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการประเมินทักษะกระบวนการของนักเรียน หลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ ในภาพรวม นักเรียนมีทักษะกระบวนการอยู่ในระดับสูง และคะแนนระดับจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

4. การประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบ พบว่า ประสิทธิภาพ (E1/E2) ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงสร้างทักษะกระบวนการคิด (GPAS) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) เรื่อง สิ่งมีชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 86.49/88.33 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 และความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงสร้างทักษะกระบวนการคิด (GPAS) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) เรื่อง สิ่งมีชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ในภาพรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมาก

โพสต์โดย นกยูง : [1 ก.ย. 2563 เวลา 11:49 น.]
อ่าน [2976] ไอพี : 180.180.192.123
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 31,955 ครั้ง
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ

เปิดอ่าน 22,364 ครั้ง
ประวัติของทุเรียนในประเทศไทย
ประวัติของทุเรียนในประเทศไทย

เปิดอ่าน 18,474 ครั้ง
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง

เปิดอ่าน 31,399 ครั้ง
กราฟิกไฟล์สำหรับอินเทอร์เน็ต
กราฟิกไฟล์สำหรับอินเทอร์เน็ต

เปิดอ่าน 24,702 ครั้ง
เรื่องของเหรียญบาท
เรื่องของเหรียญบาท

เปิดอ่าน 8,139 ครั้ง
Google Me เตรียมชนขาใหญ่ Facebook
Google Me เตรียมชนขาใหญ่ Facebook

เปิดอ่าน 2,358 ครั้ง
ยางนา
ยางนา

เปิดอ่าน 27,951 ครั้ง
พระพิฆเนศ
พระพิฆเนศ

เปิดอ่าน 58,445 ครั้ง
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล

เปิดอ่าน 11,951 ครั้ง
9 อาการ ป่วยเพราะน้ำ(ในตัว) ขึ้น-ลง
9 อาการ ป่วยเพราะน้ำ(ในตัว) ขึ้น-ลง

เปิดอ่าน 46,113 ครั้ง
พืชสมุนไพรพื้นบ้าน
พืชสมุนไพรพื้นบ้าน

เปิดอ่าน 24,795 ครั้ง
นางสงกรานต์ ปี 2559 "มณฑาเทวี" ทำนายฝนตกไม่ทั่วเมือง ข้าวพัง-ของแพง
นางสงกรานต์ ปี 2559 "มณฑาเทวี" ทำนายฝนตกไม่ทั่วเมือง ข้าวพัง-ของแพง

เปิดอ่าน 44,526 ครั้ง
เช็ดตัวลดไข้ ใช้ "น้ำอุ่น" หรือ"น้ำเย็น"?
เช็ดตัวลดไข้ ใช้ "น้ำอุ่น" หรือ"น้ำเย็น"?

เปิดอ่าน 30,177 ครั้ง
ดร.ไพฑูรย์ ศรีฟ้า
ดร.ไพฑูรย์ ศรีฟ้า

เปิดอ่าน 19,911 ครั้ง
ประโยชน์จากฟักเขียว
ประโยชน์จากฟักเขียว

เปิดอ่าน 31,783 ครั้ง
10 สมุนไพรไทย ประโยชน์เยอะ ช่วยบรรเทา "โรคความดันสูง"
10 สมุนไพรไทย ประโยชน์เยอะ ช่วยบรรเทา "โรคความดันสูง"
เปิดอ่าน 23,915 ครั้ง
PowerPoint ประกอบการประชุมชี้แจงการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของ กศจ.
PowerPoint ประกอบการประชุมชี้แจงการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของ กศจ.
เปิดอ่าน 16,436 ครั้ง
จระเข้เขมือบครูฝึกทั้งเป็น ที่เป็นข่าว
จระเข้เขมือบครูฝึกทั้งเป็น ที่เป็นข่าว
เปิดอ่าน 9,870 ครั้ง
“จ๊อบไทย” ชี้ 5 คุณสมบัติที่องค์กรต้องการจากคนทำงานรุ่นใหม่
“จ๊อบไทย” ชี้ 5 คุณสมบัติที่องค์กรต้องการจากคนทำงานรุ่นใหม่
เปิดอ่าน 70,903 ครั้ง
คลื่นความร้อนหรือ "ฮีทเวฟ" (Heat wave)
คลื่นความร้อนหรือ "ฮีทเวฟ" (Heat wave)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ