ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนโดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD)

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและข้อมูลพื้นฐาน แล้วนำมาสังเคราะห์ความต้องการรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะกับ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม 2. เพื่อสร้างรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม 3. เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม 3.1 เพื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม 3.2 เพื่อศึกษาความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม และ 4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ แบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ได้แก่ ครูที่สอนในรายวิชาศิลปะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 36 โรงเรียน โรงเรียนละ 1 คน รวมทั้งสิ้น 36 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม ตำบลไพรบึง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 158 คน ระยะที่ 2 ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม ตำบลไพรบึง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ระยะที่ 3 และ 4 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม ตำบลไพรบึง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 40 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) คู่มือการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) แผนการจัดการเรียนรู้ เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน แบบประเมินความคิดสร้างสรรค์ และแบบประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐาน โดยการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลคะแนนทางการเรียนภายในกลุ่ม โดยใช้ t - test (Dependent Samples)

ผลการรายงาน พบว่า

1. สภาพปัญหาการเรียนการสอนของครูและสภาพปัญหาการเรียนรู้ของนักเรียน

1.1. สภาพปัญหาการเรียนการสอนของครูการปฏิบัติของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของครูผู้สอนโดยภาพรวมแล้วมีระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง แต่มีประเด็นที่ยังมีระดับการปฏิบัติอยู่ระดับปานกลาง

1.2. สภาพปัญหาการเรียนรู้ของนักเรียนพบว่า ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง

2. การสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่พัฒนาขึ้นการกำหนดองค์ประกอบ ได้แก่ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและแหล่งการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผล รวมทั้งการนำไปใช้ในขั้นตอนกิจกรรมการเรียนรู้ที่ประกอบด้วย ได้แก่ ขั้นที่ 1 ขั้นรู้จากจิตคิดด้วยใจ (Mind Set) ขั้นที่ 2 ขั้นแพลนนิ่งแพลนเนอร์ (Plan) เป็นขั้นตอนของการสำรวจชุมชน สำรวจตนเอง ขั้นที่ 3 ขั้นเส้นสายลายแบบ (Design) ขั้นที่ 4 ขั้นศิลป์สร้างสรรค์ (Creative) ขั้นที่ 5 ขั้นพูดคุยภาษาศิลป์ (Presentation) และการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ร่วมกันด้วยการทำกิจกรรมต่างจะทำให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นในการเรียน ซึ่งนำไปสู่การคิดขั้นสูงได้

2.1 ผลการประเมินความเหมาะสมของคู่มือรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 ท่านมีความคิดเห็นในภาพรวมทั้งหมดพบว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีความเหมาะสมด้วยการประเมินระดับคุณภาพอยู่ในระดับมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าข้อมูลความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน

2.2 ผลการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า โดยรวมผลการประเมินอยู่ในระดับมาก

2.3 ผลการทดสอบร่างรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นไปหาประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 นำไปปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดสร้างสรรค์ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.48/86.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80

3. การทดลองใช้และศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า

3.1 ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียนของผู้เรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนพัฒนาการเพิ่มขึ้นทุกองค์ประกอบ 3.2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนผลที่ได้นี้สอดคล้องกับผลการวิจัยของศราวุฒิ ขันคำหมื่น (2553 : 109-110) ได้ศึกษาการประยุกต์ใช้รูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกวิชาฟิสิกส์เรื่อง สภาพสมดุลสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาเพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยเปรียบเทียบความคงทนการเรียนรู้วิชาฟิสิกส์เรื่องสภาพสมดุลระหว่างการเรียนรู้เชิงรุกกับการเรียนรู้แบบปกติ กลุ่มตัวอย่างที่ในการวิจัยเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 74 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 39 คน และกลุ่มควบคุม จำนวน 35 คน โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้เชิงรุกแบบจับคู่ร่วมคิดและห้องปฏิบัติการแห่งการค้นพบด้วยวงจรการเรียนรู้แบบ PODS เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุกและแบบวัดผลการเรียน ผลการวิจัยพบว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกนี้ทำให้นักเรียนมีความสนใจในการเรียนมากขึ้นและพบว่า กลุ่มนักเรียนที่ได้เรียนรู้เชิงรุกมีความคงทนในการเรียนรู้สูงกว่า นักเรียนที่เรียนแบบปกติแสดงให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้เชิงรุกช่วยพัฒนาผลสัมฤทธิ์

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

โดยสรุป การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้แผนศิลป์โมเดล (2PMCD) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม มีประสิทธิภาพ และมีดัชนีประสิทธิผลเหมาะสม สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในเนื้อหาเป็นอย่างดี มีความคิดสร้างสรรค์และสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างเหมาะสม ตรงกับความต้องการของผู้เรียน เป็นรูปแบบการจัดการเรียนรู้ให้กับครูผู้สอนและนักเรียนสามารถนำไปปฏิบัติตามให้บรรลุผลตามผลการเรียนรู้ เป็นตัวอย่างในการพัฒนาในรายวิชาอื่น ๆ ต่อไป

โพสต์โดย โพด : [29 ส.ค. 2563 เวลา 22:17 น.]
อ่าน [3435] ไอพี : 125.25.182.176
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 8,687 ครั้ง
การประเมินเพื่อเรียนรู้ การตั้งคำถามและการให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้
การประเมินเพื่อเรียนรู้ การตั้งคำถามและการให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้

เปิดอ่าน 17,305 ครั้ง
กาฬโรคปอด Pneumonic Plague
กาฬโรคปอด Pneumonic Plague

เปิดอ่าน 15,800 ครั้ง
ดูกันหรือยัง? เกือบจะ 40 ล้านวิวแล้ว โฆษณาน้ำแร่ดังยี่ห้อหนึ่ง
ดูกันหรือยัง? เกือบจะ 40 ล้านวิวแล้ว โฆษณาน้ำแร่ดังยี่ห้อหนึ่ง

เปิดอ่าน 33,261 ครั้ง
ดอกไม้ประจำชาติอาเซียน
ดอกไม้ประจำชาติอาเซียน

เปิดอ่าน 11,760 ครั้ง
"เสือจับค้างคาว" ของขวัญพระราชทานปี
"เสือจับค้างคาว" ของขวัญพระราชทานปี '53

เปิดอ่าน 35,143 ครั้ง
ว1/2559 การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสพผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ฯ
ว1/2559 การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสพผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ฯ

เปิดอ่าน 8,963 ครั้ง
เดนมาร์ก แชมป์โลกความสุข
เดนมาร์ก แชมป์โลกความสุข

เปิดอ่าน 58,328 ครั้ง
ลมเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ลมเกิดขึ้นได้อย่างไร?

เปิดอ่าน 7,846 ครั้ง
9 เคล็ดกับการใช้เงิน สำหรับคนอายุเริ่มต้นด้วยเลข 2
9 เคล็ดกับการใช้เงิน สำหรับคนอายุเริ่มต้นด้วยเลข 2

เปิดอ่าน 10,303 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น
ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น

เปิดอ่าน 21,819 ครั้ง
ลายมือเช่นไร คือคนที่จะได้ดีบั้นปลายของชีวิต
ลายมือเช่นไร คือคนที่จะได้ดีบั้นปลายของชีวิต

เปิดอ่าน 15,327 ครั้ง
การดูแลรถเมื่อน้ำท่วม
การดูแลรถเมื่อน้ำท่วม

เปิดอ่าน 5,614 ครั้ง
สรุปสาระสำคัญเกณฑ์ย้ายครู ไม่ต้องรอ 4 ปี
สรุปสาระสำคัญเกณฑ์ย้ายครู ไม่ต้องรอ 4 ปี

เปิดอ่าน 20,449 ครั้ง
"แก่นตะวัน" สุดยอดพืชมหัศจรรย์สารพัดประโยชน์
"แก่นตะวัน" สุดยอดพืชมหัศจรรย์สารพัดประโยชน์

เปิดอ่าน 11,474 ครั้ง
5 พฤติกรรมทำร้ายดวงตา
5 พฤติกรรมทำร้ายดวงตา

เปิดอ่าน 13,966 ครั้ง
ประตูบ้าน คือ ปากแห่งโชคลาภ
ประตูบ้าน คือ ปากแห่งโชคลาภ
เปิดอ่าน 11,411 ครั้ง
5 ทริคประหยัดเงินค่าอาหารในช่วงใกล้สิ้นเดือน
5 ทริคประหยัดเงินค่าอาหารในช่วงใกล้สิ้นเดือน
เปิดอ่าน 4,002 ครั้ง
พฤติกรรมที่ทำให้หน้าแก่เร็ว
พฤติกรรมที่ทำให้หน้าแก่เร็ว
เปิดอ่าน 20,179 ครั้ง
การวัดระยะบนผิวทรงกลม
การวัดระยะบนผิวทรงกลม
เปิดอ่าน 76,951 ครั้ง
ความสำคัญของงานกราฟิก
ความสำคัญของงานกราฟิก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ