ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะทางภาษาแบบองค์รวม สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาด้านการจัดประสบการณ์ทางภาษาแบบองค์รวม สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 2) พัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะทางภาษาแบบองค์รวม สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะทางภาษาแบบองค์รวม สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 การวิจัยเป็นการวิจัยและพัฒนา แบ่งการวิจัยออกเป็น 3 ระยะ คือ

ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพปัญหาด้านการจัดประสบการณ์ทักษะทางภาษาแบบองค์รวม สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยคือ ครูผู้สอนระดับชั้นอนุบาล จำนวน 36 คน ได้มาโดยใช้ตารางของเครจซีและมอร์แกน กลุ่มเป้าหมายคือ ครูผู้สอนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 8 คน และนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 24 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาล 3 ห้าธันวาคม สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองยโสธร

ระยะที่ 2 การสร้างและทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้าง ทักษะทางภาษาแบบองค์รวม สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน และผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง

ระยะที่ 3 ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะทางภาษาแบบองค์รวม สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนอนุบาลปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาล 3 ห้าธันวาคม สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองยโสธร จำนวน 31 คนซึ่งกลุ่มตัวอย่างได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น 2) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ จำนวน 20 แผน ๆ ละ 1 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดทักษะทางภาษาแบบองค์รวม จำนวน 32 ข้อ ค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.37 – 0.77 ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.21 – 0.68 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.87 4) แบบวัดความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบด้วย t-test (Dependent Sample)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาด้านการจัดประสบการณ์ทางภาษาแบบองค์รวม สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 พบว่า การจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาแบบองค์รวมยังไม่ประสบผลสำเร็จและต้องพัฒนาเพิ่มขึ้น แนวทางการพัฒนา คือ ควรพัฒนาทักษะทางภาษาตามความสามารถ ตามวัยของนักเรียน ใช้วิธีการที่สอดคล้องกับความต้องการและความสนใจ ควรจัดประสบการณ์ทางภาษาที่หลากหลายเน้นการลงมือปฏิบัติจริง และแนวทางการพัฒนาทักษะทางภาษาแบบองค์รวม คือ ควรจัดประสบการณ์ที่เน้นทักษะทางภาษาแบบองค์รวมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักเรียนมีพัฒนาการทางภาษาในแต่ละด้านสูงขึ้น การพัฒนาทักษะทางภาษาขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และสภาพแวดล้อม ให้สอดคล้องกับธรรมชาติการเรียนรู้ภาษาของนักเรียนชั้นอนุบาลในแต่ละช่วงอายุ โดยสามารถนำแนวคิด ทฤษฎีการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องมาประยุกต์ใช้สนับสนุนได้

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะทางภาษาแบบองค์รวม สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 พบว่า รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ มีชื่อว่า REAEA Model มีองค์ประกอบดังนี้ 1) หลักการของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) ขั้นตอนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 4) ระบบสังคม 5) หลักการตอบสนอง และ 6) ระบบสนับสนุน โดยมีขั้นตอนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 5 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมความพร้อม (Readiness : R) ขั้นที่ 2 ขั้นจัดประสบการณ์ (Experience : E) ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติ (Action : A)

ขั้นที่ 4 ขั้นแลกเปลี่ยนและสรุป (Exchanging and conclusion : E) และ ขั้นที่ 5 ขั้นนำความรู้ไปใช้และประเมินผล (Application and evaluation : A) ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ มีความเหมาะสมระดับมากที่สุด

3. การศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะทางภาษาแบบองค์รวม สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 พบว่า 1) ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะทางภาษาแบบองค์รวมที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 84.29/83.97 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ 2) นักเรียนที่ได้รับการจัดประสบการณ์ด้วยรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น มีทักษะทางภาษาแบบองค์รวมหลังได้รับการจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนได้รับการจัดประสบการณ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทั้งโดยรวมและรายด้าน และ 3) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่มีต่อรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะทางภาษาแบบองค์รวม มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ครูปู : [3 ส.ค. 2563 เวลา 11:52 น.]
อ่าน [3315] ไอพี : 223.204.16.43
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,344 ครั้ง
ผักที่ห้ามในเทศกาลกินเจ
ผักที่ห้ามในเทศกาลกินเจ

เปิดอ่าน 23,425 ครั้ง
การเขียนกราฟ
การเขียนกราฟ

เปิดอ่าน 17,851 ครั้ง
อ.เจษฎา ชี้พระนั่งในน้ำเดือด เป็นแค่กลทางวิทยาศาสตร์
อ.เจษฎา ชี้พระนั่งในน้ำเดือด เป็นแค่กลทางวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 10,539 ครั้ง
หนุ่มๆ ควรเลือกใส่สีเสื้อ สีไหนดี?
หนุ่มๆ ควรเลือกใส่สีเสื้อ สีไหนดี?

เปิดอ่าน 19,766 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู

เปิดอ่าน 19,170 ครั้ง
ว28/2555 การปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ว28/2555 การปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

เปิดอ่าน 11,499 ครั้ง
ระวังนะ "ความร้อน" สามารถทำลายข้อมูลใน SSD ได้
ระวังนะ "ความร้อน" สามารถทำลายข้อมูลใน SSD ได้

เปิดอ่าน 12,120 ครั้ง
"บรมครูอินเตอร์เน็ต" ชี้อีก 50 ปี จะไม่มีหนังสือพิมพ์กระดาษ
"บรมครูอินเตอร์เน็ต" ชี้อีก 50 ปี จะไม่มีหนังสือพิมพ์กระดาษ

เปิดอ่าน 22,393 ครั้ง
ที่มาของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ที่มาของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

เปิดอ่าน 19,615 ครั้ง
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน นอกเหนือจากเงินเดือน (2)
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน นอกเหนือจากเงินเดือน (2)

เปิดอ่าน 12,261 ครั้ง
แนะปรับกระจก-ท่านั่งเหมาะสม ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ
แนะปรับกระจก-ท่านั่งเหมาะสม ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ

เปิดอ่าน 9,483 ครั้ง
เครื่องมือเทคโนโลยีขั้นสูง ตอบโจทย์การศึกษาโลกในอนาคต
เครื่องมือเทคโนโลยีขั้นสูง ตอบโจทย์การศึกษาโลกในอนาคต

เปิดอ่าน 26,198 ครั้ง
ดอกไม้ ประจำวันเกิด
ดอกไม้ ประจำวันเกิด

เปิดอ่าน 20,455 ครั้ง
รายงานผลการวิจัยเรื่อง การศึกษาแนวทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก
รายงานผลการวิจัยเรื่อง การศึกษาแนวทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก

เปิดอ่าน 29,860 ครั้ง
ย้อนรอยสายราชสกุล…ในพระบรมราชจักรีวงศ์ (จบ)
ย้อนรอยสายราชสกุล…ในพระบรมราชจักรีวงศ์ (จบ)

เปิดอ่าน 9,582 ครั้ง
ล้างพิษลำไส้ใหญ่ กากใยอาหารจากธรรมชาติช่วยคุณได้
ล้างพิษลำไส้ใหญ่ กากใยอาหารจากธรรมชาติช่วยคุณได้
เปิดอ่าน 29,015 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2553
ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2553
เปิดอ่าน 24,588 ครั้ง
รู้จักภาษาอังกฤษดีพอหรือยัง
รู้จักภาษาอังกฤษดีพอหรือยัง
เปิดอ่าน 21,000 ครั้ง
"ท่าออกกำลัง" ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
"ท่าออกกำลัง" ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
เปิดอ่าน 26,652 ครั้ง
ระบบสี Subtractive
ระบบสี Subtractive

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ