ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นการเรียนรู้แบบนำตนเองโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประ

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นการเรียนรู้แบบนำตนเอง โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป

เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย นางพรพิมล ยอดสิงห์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

สถานศึกษา โรงเรียนทีโอเอวิทยา (เทศบาล 1 วัดคำสายทอง) กองการศึกษาเทศบาลเมืองมุกดาหาร

จังหวัดมุกดาหาร

ปีที่วิจัย พ.ศ. 2562

วิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นการเรียนรู้แบบนำตนเอง โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (2) เพื่อสร้างและผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนที่เน้นการเรียนรู้แบบนำตนเอง โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (3) เพื่อศึกษาผลการพัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นการเรียนรู้แบบนำตนเอง โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่องสารในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นการเรียนรู้แบบนำตนเอง โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการวิจัย คือ (1) สภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนา คือ เอกสารที่เกี่ยวข้อง ด้วยการสัมภาษณ์นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 79 คน ครูโรงเรียนทีโอเอวิทยา (เทศบาล 1 วัดคำสายทอง) จำนวน 12 คน เครื่องมือสำหรับการวิจัย คือ แบบบันทึกเอกสารและสรุปความ แบบสัมภาษณ์นักเรียนและครูผู้สอน (2) แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการสร้างและการทดลองใช้รูปแบบการสอน คือ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน นักเรียนที่ใช้ในการสร้างและทดลองใช้ทั้งแบบรายบุคคล แบบกลุ่มเล็ก และแบบกลุ่มใหญ่ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รวม 36 คน ใช้เครื่องมือ คือ แผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการเรียนรู้แบบนำตนเอง จำนวน 8 แผน บทเรียนสำเร็จรูป 8 เล่ม และแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ (3) แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบการสอนจริง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 จำนวน 29 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม ใช้เครื่องมือเหมือนกับขั้นการทดลองใช้ เรื่องละ 2 ชั่วโมง เวลาเรียน 16 ชั่วโมง (4) แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน คือ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน เพื่อตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 จำนวน 29 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม ใช้เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพ และการทดสอบค่า t (Dependent samples) ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้

1. สภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนา พบว่า เนื้อหาที่เป็นปัญหามากที่สุดคือ เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน มากที่สุด ผู้เรียนส่วนใหญ่ไม่ชอบเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ขาดความใส่ใจจากผู้ปกครอง ความรู้ความสามารถตรงกับวิชาเอกที่สอนของครูส่วนใหญ่สอนตรงสาขากับวิชาเอก ร้อยละ 90 แต่คาบสอนมากเกิน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และมีงานพิเศษค่อนข้างมาก แนวทางแก้ไขปัญหา คือ ครูวิทยาศาสตร์ควรมีการพัฒนาการเรียนการสอน โดยนำทฤษฎีการเรียนแบบนำตนเอง และบทเรียนสำเร็จรูปมาใช้ เพราะเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยผู้เรียนรับผิดชอบในการวางแผนการปฏิบัติและประเมินผลการเรียนรู้ของตนเอง

2. การสร้างและทดลองใช้รูปแบบการสอน โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป มีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ หลักการของรูปแบบ วัตถุประสงค์ของรูปแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ และการประเมินผลการเรียนรู้ เมื่อนำไปทดลองใช้ด้วยรูปแบบการสอน พบว่า (1) การทดลองใช้แบบรายบุคคล มีประสิทธิภาพเท่ากับ 77.08/76.67 ต่ำกว่าเกณฑ์ 80/80 จึงควรนำไปปรับปรุงแก้ไข รูปแบบการสอน (2) การทดลองใช้แบบกลุ่มเล็ก มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.81/80.56 ต่ำกว่าเกณฑ์ 80/80 ควรปรับปรุงแก้ไขอีกครั้ง และ (3) การทดลองใช้แบบกลุ่มใหญ่หรือภาคสนาม มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.01/82.87 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 แสดงว่า สามารถนำรูปแบบการสอนและบทเรียนสำเร็จรูป ไปใช้สอนจริงได้อย่างมีคุณภาพ

3. ผลการพัฒนารูปแบบการสอน โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป พบว่า (1) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.57/85.26 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 (2) มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7608 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 76.08 สูงกว่าเกณฑ์ 70 และประสิทธิผลอยู่ในระดับดี และ (3) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการพัฒนารูปแบบการสอน โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปพบว่า โดยภาพรวมและรายด้าน 4 ด้าน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด รายด้านเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการได้รับความรู้จากรูปแบบการสอน ด้านรูปแบบการสอน ด้านบรรยากาศในการเรียนรู้ของนักเรียน และด้านบทเรียนสำเร็จรูป

โพสต์โดย นางพรพิมล ยอดสิงห์ : [18 ก.ค. 2563 เวลา 06:35 น.]
อ่าน [3570] ไอพี : 223.205.126.157
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,313 ครั้ง
รู้หรือไม่ สิทธิบัตรการออกแบบชิ้นแรก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา คือ...
รู้หรือไม่ สิทธิบัตรการออกแบบชิ้นแรก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา คือ...

เปิดอ่าน 15,401 ครั้ง
เพลงลอยกระทง
เพลงลอยกระทง

เปิดอ่าน 18,602 ครั้ง
ปรบมือให้เลย แชร์ไอเดียเด็ดๆ ของเด็กไทย! เลคเชอร์วิชาประวัติศาสตร์ขั้นเทพของเด็กม.3
ปรบมือให้เลย แชร์ไอเดียเด็ดๆ ของเด็กไทย! เลคเชอร์วิชาประวัติศาสตร์ขั้นเทพของเด็กม.3

เปิดอ่าน 18,842 ครั้ง
ระกำ
ระกำ

เปิดอ่าน 18,104 ครั้ง
อาหารบำรุงผม
อาหารบำรุงผม

เปิดอ่าน 68,726 ครั้ง
รายชื่อและที่อยู่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 175 เขต
รายชื่อและที่อยู่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 175 เขต

เปิดอ่าน 12,775 ครั้ง
รูปหัวใจทำไมเป็นแบบนี้
รูปหัวใจทำไมเป็นแบบนี้

เปิดอ่าน 38,870 ครั้ง
พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่7) พ.ศ.2554 (ประกาศใช้วันที่ 31/05/2554)
พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (ฉบับที่7) พ.ศ.2554 (ประกาศใช้วันที่ 31/05/2554)

เปิดอ่าน 24,511 ครั้ง
เป็ดบาบารี่
เป็ดบาบารี่

เปิดอ่าน 9,923 ครั้ง
ราชภัฏมหาวิทยาลัยในศตวรรษที่ 21
ราชภัฏมหาวิทยาลัยในศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 35,328 ครั้ง
ราคากลางอาคารเรียน , อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้างอื่นๆ
ราคากลางอาคารเรียน , อาคารประกอบและสิ่งก่อสร้างอื่นๆ

เปิดอ่าน 11,889 ครั้ง
วันแม่แห่งชาติกับ คำสอนของแม่
วันแม่แห่งชาติกับ คำสอนของแม่

เปิดอ่าน 4,332 ครั้ง
ภาษาอีสานน่ารู้
ภาษาอีสานน่ารู้

เปิดอ่าน 16,061 ครั้ง
ข่าวดีของคนอ้วน รูปร่างอวบตอนหลังกลับยืดอายุให้ยืน
ข่าวดีของคนอ้วน รูปร่างอวบตอนหลังกลับยืดอายุให้ยืน

เปิดอ่าน 10,636 ครั้ง
เดิน...ลดโรค
เดิน...ลดโรค

เปิดอ่าน 58,204 ครั้ง
รู้ไว้ใช้ว่า!! สรรพคุณ 12 อย่างของ "วิคส์ วาโปรับ"
รู้ไว้ใช้ว่า!! สรรพคุณ 12 อย่างของ "วิคส์ วาโปรับ"
เปิดอ่าน 21,796 ครั้ง
ชาญี่ปุ่น หรือชาอังกฤษใครมีประโยชน์กว่ากัน
ชาญี่ปุ่น หรือชาอังกฤษใครมีประโยชน์กว่ากัน
เปิดอ่าน 14,072 ครั้ง
มหกรรม "ติว" สนองตัณหาใคร เด็กได้อะไร
มหกรรม "ติว" สนองตัณหาใคร เด็กได้อะไร
เปิดอ่าน 8,477 ครั้ง
บทบาทผู้นำองค์กร 2020
บทบาทผู้นำองค์กร 2020
เปิดอ่าน 18,423 ครั้ง
คลิปประทับใจความผูกพันระหว่างครูกับศิษย์ นักเรียนเซอร์ไพรส์คุณครู ก่อนจะย้าย เชื่อว่าหลายท่านเคย..
คลิปประทับใจความผูกพันระหว่างครูกับศิษย์ นักเรียนเซอร์ไพรส์คุณครู ก่อนจะย้าย เชื่อว่าหลายท่านเคย..

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ