ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของ นักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของ

นักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3

ผู้วิจัย : นางกรชนก สุตะพาหะ

ตำแหน่ง : ผู้อำนวยการโรงเรียนราษฎร์นิยม

วิทยฐานะ : ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ

สถานที่ทำงาน : โรงเรียนราษฎร์นิยม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 สพฐ.

ปีที่พิมพ์ : พ.ศ. 2563

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 2) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 3) เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 ซึ่งมีขั้นตอนการวิจัย 3 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 พัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 ซึ่งเป็นการพัฒนาและตรวจสอบรูปแบบ (Develop and Verification) โดยศึกษาจากเอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการร่างรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์นักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม และสร้างคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมฯ เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาตรวจสอบยืนยันความถูกต้อง ความเหมาะสม ของรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมฯ โดยการสนทนากลุ่ม จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 12 คน ขั้นตอนที่ 2 ทดลองใช้ (Try out) รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 กับโรงเรียนที่มีสภาพบริบทใกล้เคียงกับโรงเรียนราษฎร์นิยม จำนวน 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนโพธินิมิตวิทยาคม โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) นนทบุรี และโรงเรียนราชวินิต นนทบุรี เครื่องมือที่ใช้ คือ รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมฯ และคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม ขั้นตอนที่ 3 การนำรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 ที่พัฒนาขึ้นไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพนักเรียน โดยเก็บข้อมูลจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน หัวหน้ากลุ่มการบริหารงานของโรงเรียน คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนราษฎร์นิยม เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบประเมินรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมฯ แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมฯ คู่มือการใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม สถิติที่ใช้ คือ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

1. รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 ประกอบด้วย 3 ส่วน ดังนี้

ส่วนที่ 1 ส่วนนำ ประกอบด้วย หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม วัตถุประสงค์ของรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม และคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3

ส่วนที่ 2 แนวทางการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม ซึ่งประกอบด้วย 1) ปัจจัยนำเข้า (Input) ได้แก่ นโยบาย ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง งบประมาณ สื่อเทคโนโลยี นวัตกรรม ทรัพยากรและแหล่งเรียนรู้ 2) กระบวนการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม (Process) มี 6 ขั้นตอน ดังนี้ 2.1) ร่วมสร้างความต้องการในการพัฒนา (Needs) 2.2) ร่วมสร้างทีมงาน (Team working building) 2.3) ร่วมตั้งเป้าหมายความสำเร็จ (Goal setting) 2.4) ร่วมนำแผนงานสู่การปฏิบัติให้บรรลุวัตถุประสงค์ (Implementation) 2.5) ร่วมประเมินและแลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (Evaluate and exchange opinions) 2.6) ร่วมปรับปรุงมุ่งสู่ผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ (Action reflect work results) 3) ผลผลิต (Output) คือ การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องใน การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งได้ผลลัพธ์ (outcome) คือ นักเรียนมีคุณธรรมอัตลักษณ์ ทั้ง 3 คุณลักษณะ ได้แก่ รับผิดชอบ ซื่อสัตย์ และอยู่อย่างพอเพียง 4) ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) คือ การรายงานผลการปฏิบัติงาน และ การปรับปรุงแก้ไข พัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม

ส่วนที่ 3 เงื่อนไขความสำเร็จของรูปแบบ ประกอบด้วย ความตระหนักและเห็นความสำคัญของการบริหารแบบมีส่วนร่วม การมีภาวะผู้นำ ความรักผูกพันต่อองค์กร วัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกัน

2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม ตามความคิดเห็นของโรงเรียนกลุ่มตัวอย่างทั้ง 3 โรงเรียน ในภาพรวม พบว่า มีรูปแบบมีความเหมาะสมในระดับคุณภาพ มากที่สุด สามารถนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม ส่งผล คือ 3.1 ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน หัวหน้ากลุ่มการบริหารงานของโรงเรียน และคณะครู พบว่ารูปแบบการการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.58, S.D. = 0.57) และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์นิยม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.62, S.D. = 0.61) 3.2 นักเรียนมีคุณธรรมอัตลักษณ์ ในระดับการพัฒนาที่สูงขึ้น ดังนี้ ด้านรับผิดชอบ ก่อนการใช้รูปแบบ ผลการประเมินนักเรียนอยู่ในระดับดี (x̄ = 2.32, S.D. = 0.24) หลังการใช้รูปแบบ มีผลการประเมินนักเรียนอยู่ในระดับดีเยี่ยม (x̄ = 2.70, S.D. = 0.20) ด้าน ซื่อสัตย์สุจริต ก่อนการใช้รูปแบบ มีผลการประเมินนักเรียนอยู่ในระดับดี (x̄= 2.32, S.D. = 0.23) หลังการใช้รูปแบบ มีผลการประเมินนักเรียนอยู่ในระดับดีเยี่ยม (x̄ = 2.64, S.D. = 0.19) ด้าน อยู่อย่างพอเพียง ก่อนการใช้รูปแบบ มีผลการประเมินนักเรียนอยู่ในระดับดีเยี่ยม (x̄ = 2.72, S.D. = 0.21) หลังการใช้รูปแบบ มีผลการประเมินนักเรียนอยู่ในระดับดีเยี่ยม (x̄ = 2.81, S.D. = 0.21) และผลการประเมินในภาพรวมทั้ง 3 ด้าน พบว่า ก่อนการใช้รูปแบบ มีผลการประเมินนักเรียนอยู่ในระดับดีเยี่ยม (x̄ = 2.47, S.D. = 0.21) หลังการใช้รูปแบบ มีผลการประเมินนักเรียนอยู่ในระดับดีเยี่ยม (x̄ = 2.71, S.D. = 0.20) และผลการประเมินใน แสดงให้เห็นถึงการดำเนินงานมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ

โดยสรุป การนำรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมฯ ที่พัฒนาขึ้นไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลนั้น ผู้บริหารจำเป็นที่ต้องมีภาวะผู้นำ และวิสัยทัศน์ในพัฒนาองค์กร เพื่อมุ่งไปสู่ผลผลิตที่ต้องการ คือ คุณภาพนักเรียนเป็นสำคัญ โดยอาศัยหลักการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนผู้เกี่ยวข้องและ มีการปรับปรุงคุณภาพของรูปแบบการบริหารอย่างต่อเนื่อง และให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

โพสต์โดย อรปวีณ์ : [27 พ.ค. 2563 เวลา 12:53 น.]
อ่าน [3347] ไอพี : 182.52.50.167
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 28,978 ครั้ง
6 ปัญหาที่เด็กม.ปลายต้องเจอและผ่านไปให้ได้
6 ปัญหาที่เด็กม.ปลายต้องเจอและผ่านไปให้ได้

เปิดอ่าน 44,185 ครั้ง
ห.ร.ม. และ ค.ร.น.
ห.ร.ม. และ ค.ร.น.

เปิดอ่าน 38,810 ครั้ง
การคิดเลขในใจ
การคิดเลขในใจ

เปิดอ่าน 12,890 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง การประชุมชี้แจงการดำเนินงานโครงการโรงเรียนประชารัฐ วันที่ 17 สิงหาคม 2559
รับชมย้อนหลัง การประชุมชี้แจงการดำเนินงานโครงการโรงเรียนประชารัฐ วันที่ 17 สิงหาคม 2559

เปิดอ่าน 7,699 ครั้ง
ร้อนตับแตก มีที่มาอย่างไร
ร้อนตับแตก มีที่มาอย่างไร

เปิดอ่าน 19,358 ครั้ง
เรื่องของกราฟ
เรื่องของกราฟ

เปิดอ่าน 29,855 ครั้ง
เคล็ดลับการทอดไข่ดาวให้ฟองใหญ่น่ากิน
เคล็ดลับการทอดไข่ดาวให้ฟองใหญ่น่ากิน

เปิดอ่าน 61,102 ครั้ง
กำจัดแก๊สในร่างกายด้วยท่าง่าย ๆ
กำจัดแก๊สในร่างกายด้วยท่าง่าย ๆ

เปิดอ่าน 15,907 ครั้ง
การรักษาโรคตาแห้ง
การรักษาโรคตาแห้ง

เปิดอ่าน 140,327 ครั้ง
การทำงานของเอนไซม์
การทำงานของเอนไซม์

เปิดอ่าน 151,525 ครั้ง
คริส ไรท์ โพสต์แฉ"การศึกษาไทยไม่ไปไหน"เพราะใคร
คริส ไรท์ โพสต์แฉ"การศึกษาไทยไม่ไปไหน"เพราะใคร

เปิดอ่าน 19,308 ครั้ง
ประกาศสงกรานต์ 2554 นางสงกรานต์ปี 2554 ชื่อ กิริณีเทวี
ประกาศสงกรานต์ 2554 นางสงกรานต์ปี 2554 ชื่อ กิริณีเทวี

เปิดอ่าน 19,746 ครั้ง
เหมือนอย่างกับแกะ! หุ่นยนต์เหมือนมนุษย์ตัวล่าสุด (มีคลิป)
เหมือนอย่างกับแกะ! หุ่นยนต์เหมือนมนุษย์ตัวล่าสุด (มีคลิป)

เปิดอ่าน 16,078 ครั้ง
การพิจารณาค่าความจริง (Truth value)
การพิจารณาค่าความจริง (Truth value)

เปิดอ่าน 11,826 ครั้ง
คลิปบรรยากาศพบกันระหว่าง สพฐ.และสภาการศึกษาทางเลือกไทยกรณียุบ ร.ร.ขนาดเล็ก
คลิปบรรยากาศพบกันระหว่าง สพฐ.และสภาการศึกษาทางเลือกไทยกรณียุบ ร.ร.ขนาดเล็ก

เปิดอ่าน 13,739 ครั้ง
ปลูกถ่ายเซลล์กระดูกอ่อนผิวข้อ จากสุนัขมุ่งเน้นใช้ กับคนในอนาคต
ปลูกถ่ายเซลล์กระดูกอ่อนผิวข้อ จากสุนัขมุ่งเน้นใช้ กับคนในอนาคต
เปิดอ่าน 13,401 ครั้ง
ประวัติความเป็นมาของยางพารา
ประวัติความเป็นมาของยางพารา
เปิดอ่าน 24,673 ครั้ง
ไขข้อข้องใจ การบ้านยังจำเป็นสำหรับเด็กยุคใหม่หรือไม่?
ไขข้อข้องใจ การบ้านยังจำเป็นสำหรับเด็กยุคใหม่หรือไม่?
เปิดอ่าน 12,119 ครั้ง
โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ
โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ
เปิดอ่าน 20,920 ครั้ง
การวัดความเร็วและทิศทางของลม
การวัดความเร็วและทิศทางของลม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ