ชื่อเรื่อง ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism)
และเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดีและธำรง
รักษาศาสนาที่ตนนับถือ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นิภาพร เดชศิริ
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) และเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดีและธำรงรักษาศาสนาที่ตนนับถือ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) และเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดีและธำรงรักษาศาสนาที่ตนนับถือ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) และเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดีและธำรงรักษาศาสนาที่ตนนับถือ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Design) ที่มีกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียวและมีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (One Group Pretest Posttest Design) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
เขต 33 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวนนักเรียน 42 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดีและธำรงรักษาศาสนาที่ตนนับถือ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศึกษา (ส23102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) เรื่อง การปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดีและธำรงรักษาศาสนาที่ตนนับถือ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม รายวิชาสังคมศึกษา (ส23102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ที่มีค่าความยากง่าย (p) ระหว่าง 0.28 ถึง 0.73 ค่าอำนาจจำแนก (B) ระหว่าง 0.20 ถึง 0.69 และค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.84 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ
ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.86 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที t - test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. การจัดการเรียนรู้โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) และเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดีและธำรงรักษาศาสนาที่ตนนับถือ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 86.34/84.35 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) และเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดีและธำรงรักษาศาสนาที่ตนนับถือ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) และเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดีและธำรงรักษาศาสนาที่ตนนับถือ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.53 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.55