ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ผสานกับการจัดกิจกรรมแบบร่วมมือทีมเกมแข่งขัน (TGT) ร่วมกับแบบฝึกทัก

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ผสานกับการจัดกิจกรรมแบบร่วมมือทีมเกมแข่งขัน (TGT) ร่วมกับแบบฝึกทักษะกีฬา ชุด เซปักตะกร้อพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ผสานกับการจัดกิจกรรมแบบร่วมมือทีมเกมแข่งขัน (TGT) ร่วมกับแบบฝึกทักษะกีฬา ชุด เซปักตะกร้อพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ผสานกับการจัดกิจกรรมแบบร่วมมือทีมเกมแข่งขัน (TGT) ร่วมกับแบบฝึกทักษะกีฬา ชุด เซปักตะกร้อพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ผสานกับการจัดกิจกรรมแบบร่วมมือทีมเกมแข่งขัน (TGT) ร่วมกับแบบฝึกทักษะกีฬา ชุด เซปักตะกร้อพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 จำนวน 30 คน ปีการศึกษา 2560 ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย ด้วยการจับสลาก ใช้ห้องเรียนในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ผสานกับการจัดกิจกรรมแบบร่วมมือทีมเกมแข่งขัน (TGT) ร่วมกับแบบฝึกทักษะกีฬา ชุด เซปักตะกร้อพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบวัดทักษะปฏิบัติด้านกีฬา และแบบสอบถามความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทีแบบไม่อิสระ (t-test แบบ Dependent Samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. การศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ผสานกับการจัดกิจกรรมแบบร่วมมือทีมเกมแข่งขัน (TGT) ร่วมกับแบบฝึกทักษะกีฬา ชุด เซปักตะกร้อพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีความรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และมีทักษะชีวิต มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีสุขนิสัย และรักการออกกำลังกาย มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิตสาธารณะที่มุ่งทำประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงามในสังคม และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข โดยกำหนดให้ผู้เรียนเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และในกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา มีสาระสำคัญ 5 สาระ คือ 1) การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ 2) ชีวิตและครอบครัว 3) การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล 4) การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค 5) ความปลอดภัยในชีวิต และจากการสัมภาษณ์ครู ผู้เชี่ยวชาญ และผู้บริหารสถานศึกษา พบว่า ควรเป็นรูปแบบกิจกรรมการเรียนการสอนที่เป็นขั้นตอนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ มีการบูรณาการด้านการอ่าน มีแบบฝึก และเกม ที่หลากหลายจะช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีโดยเฉพาะได้ความสนุกสนานจากกิจกรรมที่น่าสนใจ ส่งเสริมทักษะปฏิบัติ และได้ฝึกบ่อย ๆ จากการทำแบบทดสอบ ผสมผสานกันอย่างลงตัวในรูปแบบการเรียนรู้ที่เป็นระบบ

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า 7SS Plus TGT2Games Model มีองค์ประกอบ คือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนการสอน 4) สาระหลัก 5) ระบบสังคม 6) หลักการตอบสนอง 7) สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ 8) เงื่อนไขในการนำรูปแบบไปใช้ 9) การประเมินผล กระบวนการจัดการเรียนการสอน 7SS Plus TGT2Games Model ประกอบด้วย 7 ขั้นตอน ผสานกับกิจกรรมแบบร่วมมือทีมเกมแข่งขัน ในขั้นที่ 2 และขั้นที่ 6 เพื่อวัดทักษะปฏิบัติด้านกีฬา ดังนี้ 1. ขั้นการรับรู้ (Perception) 2. ขั้นการเตรียมความพร้อม (Readiness) ผสาน TGT 1 เกม 3. ขั้นสนองตอบภายใต้การควบคุม (Guided Response) 4. ขั้นการลงมือกระทำจนกลายเป็นกลไกที่สามารถกระทำได้เอง (Mechanism) 5. ขั้นกระทำอย่างชำนาญ (Complex Overt Response) 6. ขั้นการปรับปรุงและประยุกต์ใช้ (Adaptation) ผสาน TGT 1 เกม 7. ขั้นการคิดริเริ่ม (Origination) และรูปแบบการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ผสานกับการจัดกิจกรรมแบบร่วมมือทีมเกมแข่งขัน (TGT) ร่วมกับแบบฝึกทักษะกีฬา ชุด เซปักตะกร้อพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.15/82.56 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบ พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 2) นักเรียนที่เรียนรู้ตามแนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ผสานกับการจัดกิจกรรมแบบร่วมมือทีมเกมแข่งขัน (TGT) ร่วมกับแบบฝึกทักษะกีฬา มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนรู้รูปแบบการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะปฏิบัติ ตามแนวคิดของซิมพ์ซัน (Simpson) ผสานกับการจัดกิจกรรมแบบร่วมมือทีมเกมแข่งขัน (TGT) ร่วมกับแบบฝึกทักษะกีฬา ชุด เซปักตะกร้อพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ครูเดี่ยว : [10 มี.ค. 2563 เวลา 15:34 น.]
อ่าน [3497] ไอพี : 180.183.21.157
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 31,861 ครั้ง
ประโยชน์ของ "ขมิ้นต้น"
ประโยชน์ของ "ขมิ้นต้น"

เปิดอ่าน 874 ครั้ง
7 พิกัดที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวง่ายๆ เที่ยวได้ทั้งปี
7 พิกัดที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวง่ายๆ เที่ยวได้ทั้งปี

เปิดอ่าน 10,714 ครั้ง
รับมือปัญหาการนอน
รับมือปัญหาการนอน

เปิดอ่าน 9,229 ครั้ง
เพราะเหตุใด? หนุ่มญี่ปุ่นจึงโพสต์เตือนคนไทย อาจแห้วงานเพราะเฟซบุ๊ก!
เพราะเหตุใด? หนุ่มญี่ปุ่นจึงโพสต์เตือนคนไทย อาจแห้วงานเพราะเฟซบุ๊ก!

เปิดอ่าน 10,792 ครั้ง
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ชุด "หลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี" ของสำนักงาน ก.พ.ร.
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ชุด "หลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี" ของสำนักงาน ก.พ.ร.

เปิดอ่าน 51,517 ครั้ง
อารมณ์(ดี-เสีย)
อารมณ์(ดี-เสีย)

เปิดอ่าน 41,666 ครั้ง
วิจัยและสถิติ
วิจัยและสถิติ

เปิดอ่าน 1,001 ครั้ง
อานิสงค์ของการถวายเทียนพรรษา
อานิสงค์ของการถวายเทียนพรรษา

เปิดอ่าน 23,890 ครั้ง
10 กิจกรรม กระตุ้นสมองให้แอคทีฟสุด ๆ
10 กิจกรรม กระตุ้นสมองให้แอคทีฟสุด ๆ

เปิดอ่าน 8,844 ครั้ง
เชื้อโควิดอยู่ในร่างกายได้กี่วัน หายป่วยแล้วยังแพร่เชื้อได้อีกหรือไม่
เชื้อโควิดอยู่ในร่างกายได้กี่วัน หายป่วยแล้วยังแพร่เชื้อได้อีกหรือไม่

เปิดอ่าน 14,051 ครั้ง
ร่วมแชร์ คลิปสุดแนว ครูเต้นเกาหลีรับเปิดเทอม
ร่วมแชร์ คลิปสุดแนว ครูเต้นเกาหลีรับเปิดเทอม

เปิดอ่าน 11,669 ครั้ง
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)
โลกต้องให้ความสำคัญกับครู (1)

เปิดอ่าน 19,085 ครั้ง
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 14,903 ครั้ง
เทคนิคการแต่งหน้าเสริมจุดเด่น-กลบจุดด้อย ให้เข้ากับรูปหน้า
เทคนิคการแต่งหน้าเสริมจุดเด่น-กลบจุดด้อย ให้เข้ากับรูปหน้า

เปิดอ่าน 15,083 ครั้ง
อาหารมื้อเช้า...แค่คิดใหม่ก็ช่วยได้
อาหารมื้อเช้า...แค่คิดใหม่ก็ช่วยได้

เปิดอ่าน 33,695 ครั้ง
รูปแบบการสอน 7 ประการ
รูปแบบการสอน 7 ประการ
เปิดอ่าน 16,371 ครั้ง
สุขภาพเป็นยังไง...ลิ้นบอกได้
สุขภาพเป็นยังไง...ลิ้นบอกได้
เปิดอ่าน 17,762 ครั้ง
เคาน์เตอร์ต้อนรับในโรงเรียน มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด
เคาน์เตอร์ต้อนรับในโรงเรียน มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด
เปิดอ่าน 13,923 ครั้ง
เนียนจริง มุขเด็ดสำหรับการหาที่จอดรถ ดูซิ เจ๊แกใช้มุขไหน?
เนียนจริง มุขเด็ดสำหรับการหาที่จอดรถ ดูซิ เจ๊แกใช้มุขไหน?
เปิดอ่าน 14,351 ครั้ง
แนะ5 ขั้นตอนใช้นิทานกล่อมลูกนอนหลับ
แนะ5 ขั้นตอนใช้นิทานกล่อมลูกนอนหลับ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ