ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 4) เพื่อนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายไปขยายผล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/3 โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 45 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการขยายผลรูปแบบ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/9 โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 42 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย คู่มือการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย (X ̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) หาค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัย พบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีชื่อว่า “DEICP Model” มี 5 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการ เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการพัฒนาทักษะกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณด้วยการลงมือปฏิบัติจริงและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยการศึกษาข้อมูลหลักฐานและพิจารณาความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ เกิดกระบวนการเรียนรู้ที่จะค้นคว้าหาคำตอบและแก้ปัญหา ผู้เรียนจึงได้พัฒนาความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณไปพร้อมๆ กับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เน้นพัฒนาทักษะการเรียนรู้มากกว่าเนื้อหาสาระความรู้ 2) วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนควบคู่ไปกับการส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ประกอบด้วย 5 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 กำหนดปัญหา (Defining Problems: D) ขั้นที่ 2 ค้นหาความจริง (Exploring Facts: E) ขั้นที่ 3 สร้างองค์ความรู้ (Implementation: I) ขั้นที่ 4 เรียนรู้ร่วมกัน (Cooperative Learning: C) ขั้นที่ 5 สร้างสรรค์สู่สังคม (Presentation: P) 4) การวัดและประเมินผล มี 2 ด้านคือ ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและด้านความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 5) เงื่อนไขในการนำรูปแบบไปใช้ให้ประสบผลสำเร็จ ประกอบด้วย ผู้บริหารต้องเห็นความสำคัญและส่งเสริมการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพร้อมๆ กับการพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ผู้สอนต้องมีความรู้ความเข้าใจรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎี แนวคิด ผู้เรียนต้องเข้าใจบทบาทของตนเองในการสร้างความรู้ด้วยตนเอง พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 92.75/85.85

2. การเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ในภาพรวม อยู่ในระดับ พึงพอใจมากที่สุด

4. ผลการขยายผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริม ความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ในภาพรวมอยู่ในระดับ พึงพอใจมากที่สุด

โพสต์โดย มยุรี เสนไสย : [4 มี.ค. 2563 เวลา 23:41 น.]
อ่าน [3296] ไอพี : 1.1.236.103
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 26,209 ครั้ง
6 วิธีรับปีใหม่แบบเฮงๆ จัดกระเป๋าสตางค์รับเงินไหล ใส่เสื้อ 5 สีมงคล
6 วิธีรับปีใหม่แบบเฮงๆ จัดกระเป๋าสตางค์รับเงินไหล ใส่เสื้อ 5 สีมงคล

เปิดอ่าน 24,459 ครั้ง
8 วิธี การบริหารสมอง ให้สดชื่น
8 วิธี การบริหารสมอง ให้สดชื่น

เปิดอ่าน 23,421 ครั้ง
การเขียนกราฟ
การเขียนกราฟ

เปิดอ่าน 45,405 ครั้ง
"กระทุ่ม" ดอกหอมเป็นยา
"กระทุ่ม" ดอกหอมเป็นยา

เปิดอ่าน 74,361 ครั้ง
บัญชีเงินเดือนใหม่ 2 มกราคม 2552
บัญชีเงินเดือนใหม่ 2 มกราคม 2552

เปิดอ่าน 788 ครั้ง
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38

เปิดอ่าน 13,579 ครั้ง
เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ในแต่ละปี
เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ในแต่ละปี

เปิดอ่าน 12,552 ครั้ง
เลขท้ายทะเบียนบ้านใด "มีเสนห์ - มีคนช่วยเหลือ"
เลขท้ายทะเบียนบ้านใด "มีเสนห์ - มีคนช่วยเหลือ"

เปิดอ่าน 15,392 ครั้ง
เพลงลอยกระทง
เพลงลอยกระทง

เปิดอ่าน 39,871 ครั้ง
6 ข้อคิดดี ๆ จากนิทานอีสปที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว
6 ข้อคิดดี ๆ จากนิทานอีสปที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว

เปิดอ่าน 60,548 ครั้ง
ริดสีดวงทวารหนักเกิดจากอะไร
ริดสีดวงทวารหนักเกิดจากอะไร

เปิดอ่าน 23,654 ครั้ง
ประวัติ ความเป็นมาของ "วันเด็กแห่งชาติ"
ประวัติ ความเป็นมาของ "วันเด็กแห่งชาติ"

เปิดอ่าน 3,842 ครั้ง
"ไข่มดแดง" โปรตีนสูง-ไขมันต่ำ กรมอนามัยแนะ เลี่ยงกินสุก ๆ ดิบ ๆ เสี่ยงท้องร่วง
"ไข่มดแดง" โปรตีนสูง-ไขมันต่ำ กรมอนามัยแนะ เลี่ยงกินสุก ๆ ดิบ ๆ เสี่ยงท้องร่วง

เปิดอ่าน 17,400 ครั้ง
การจับจอภาพโดยใช้ความสามารถ Clipboard
การจับจอภาพโดยใช้ความสามารถ Clipboard

เปิดอ่าน 10,047 ครั้ง
นาแปลงเดิม ปลูกด้วยวิธีเดิม ผลลัพธ์เหมือนเดิม
นาแปลงเดิม ปลูกด้วยวิธีเดิม ผลลัพธ์เหมือนเดิม

เปิดอ่าน 13,937 ครั้ง
ความหมายของของขวัญ
ความหมายของของขวัญ
เปิดอ่าน 11,179 ครั้ง
เหนือกว่า
เหนือกว่า 'กิมจิฟีเวอร์' 'ศัลยกรรมไทย'
เปิดอ่าน 9,337 ครั้ง
วัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยให้รอดพ้นโรคร้ายได้มากถึง1ใน5
วัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยให้รอดพ้นโรคร้ายได้มากถึง1ใน5
เปิดอ่าน 61,892 ครั้ง
องค์ประกอบของมัลติมีเดีย มีอะไรบ้าง?
องค์ประกอบของมัลติมีเดีย มีอะไรบ้าง?
เปิดอ่าน 7,131 ครั้ง
สอนภาษาอังกฤษแบบไม่ต้องสอนคืออะไร ไขข้อข้องใจได้ที่นี่
สอนภาษาอังกฤษแบบไม่ต้องสอนคืออะไร ไขข้อข้องใจได้ที่นี่

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ