ชื่อรายงานทางวิชาการ รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาพลศึกษา (กีฬาเซปักตะกร้อ)
รหัสวิชา พ32202 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ชื่อผู้รายงาน กุลยุทธ คะเรียงรัมย์
ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาพลศึกษา (กีฬาเซปักตะกร้อ) รหัสวิชา พ32202
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้าเพื่อ (1) พัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาพลศึกษา (กีฬาเซปักตะกร้อ) รหัสวิชา พ32202 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะวิชาพลศึกษา (กีฬาเซปักตะกร้อ) รหัสวิชา
พ32202 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะวิชาพลศึกษา (กีฬาเซปักตะกร้อ) รหัสวิชา พ32202 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
และ (4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะวิชาพลศึกษา (กีฬาเซปักตะกร้อ) รหัสวิชา พ32202 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/12 โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 43 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้มี 5 ชนิด คือ (1) แบบฝึกทักษะวิชาพลศึกษา (กีฬาเซปักตะกร้อ) รหัสวิชา พ32202 จำนวน 8 เล่ม (2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 แผน (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฉบับรวมก่อนเรียนและหลังเรียน เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ
(4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฉบับย่อยก่อนและหลังเรียน เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 8 เล่ม ๆ ละ 10 ข้อ รวม 80 ข้อ และ (5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะวิชาพลศึกษา (กีฬาเซปักตะกร้อ) รหัสวิชา พ32202 กลุ่มสาระ
การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ ที่ผู้รายงานได้สร้างขึ้นเอง ซึ่งผ่านการทดลองใช้จนมีประสิทธิภาพ และผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติใช้ค่าร้อยละ (Percentages) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation) และทดสอบสมมติฐานของการศึกษาใช้ ttest (Dependent Samples) ผลการศึกษาพบว่า
1. การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะวิชาพลศึกษา (กีฬาเซปักตะกร้อ)
รหัสวิชา พ32202 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า
แบบฝึกทักษะวิชาพลศึกษา (กีฬาเซปักตะกร้อ) รหัสวิชา พ32202 มีประสิทธิภาพ 84.59/83.49 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
2. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะวิชาพลศึกษา (กีฬาเซปักตะกร้อ) รหัสวิชา พ32202 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเท่ากับ 0.6909 แสดงว่านักเรียนได้รับความรู้เพิ่มขึ้นจากเดิมหลังจากเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ คิดเป็นร้อยละ 69.09
3. เมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะวิชาพลศึกษา (กีฬาเซปักตะกร้อ) รหัสวิชา พ32202 กลุ่มสาระการเรียนรู้
สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียน
มีค่าสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. การวิเคราะห์แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะวิชาพลศึกษา (กีฬาเซปักตะกร้อ) รหัสวิชา พ32202 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ
พลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.54 (S.D. = 0.75)