ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ของโรงเรียนเทศบาลอินทปัญญา วัดใหญ่อินทาราม สังกัดเทศบาลเมืองชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ของโรงเรียนเทศบาลอินทปัญญา

วัดใหญ่อินทาราม สังกัดเทศบาลเมืองชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี

ผู้ประเมิน นางนฤมล คล้ายริน รองผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะรองผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การประเมินครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อการประเมินโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ของโรงเรียนเทศบาลอินทปัญญา วัดใหญ่อินทาราม สังกัดเทศบาลเมืองชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ใน 4 ด้าน คือ 1) เพื่อประเมินบริบทของโครงการ 2) เพื่อประเมินปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ 3) เพื่อประเมินกระบวนการดำเนินงานตามโครงการ 4) เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการ ในด้านผลกระทบ ประสิทธิผล ความยั่งยืน และการถ่ายโยงการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินโครงการครั้งนี้ ได้มาโดยใช้วิธีการเปิดตารางของเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan, 1970 : 607-610 อ้างถึงใน ขวัญตา เกื้อกูลรัฐ, 2554 : 7) และใช้การสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ยึดค่าความเชื่อมั่นที่ 95 เปอร์เซ็นต์ เพื่อกำหนดผู้ให้ข้อมูล ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 637 คน จำแนกได้ ดังนี้ 1) ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 2 คน (ไม่นับรวมผู้ประเมิน) 2) ครูผู้สอนระดับประถมศึกษาถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 40 คน 3) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน (ไม่นับรวมผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้แทนครู) 4) ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 291 คน 5) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 291 คน ในการประเมินครั้งนี้ ผู้ประเมินใช้รูปแบบการประเมินของ Stufflebeam ที่มีชื่อว่า CIPP Model และต่อมาขยายผลที่ผลผลิตเป็น IEST อีก (Stufflebeam, 2008; Stufflebeam & Shinkfield, 2007 : 325-352) จึงเป็น CIPPIEST Model ประกอบด้วย ด้านบริบท (Context Evaluation) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ด้านกระบวนการ (Process Evaluation) ด้านผลผลิต (Product Evaluation) ของโครงการในด้านผลกระทบ ประสิทธิผล ความยั่งยืน และการถ่ายโยงการเรียนรู้มาเป็นรูปแบบในการประเมินโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ของโรงเรียนเทศบาลอินทปัญญา วัดใหญ่อินทาราม สังกัดเทศบาลเมืองชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี

ผลการประเมินพบว่า

1. ด้านบริบท (Context) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ หลักการ วัตถุประสงค์ และเป้าหมายของโครงการมีความเหมาะสม และสอดคล้องกัน รองลงมามีค่าเฉลี่ยเท่ากัน คือ วัตถุประสงค์สอดคล้องกับนโยบายและแผนพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษา และกำหนดบทบาทหน้าที่ของบุคลากรก่อให้เกิดความร่วมมือในการดำเนินงาน ส่วนข้อที่ค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ การประสานงานระหว่างบุคลากรทำให้เกิดความร่วมมือในการดำเนินโครงการ

2. ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ สถานศึกษามีเอกสารสรุป และรายงานผลการดำเนินการ รองลงมา คือ มีการตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ จัดให้มีการประสานงานกับชุมชนให้มาร่วมบริหาร จัดการด้านแหล่งเรียนรู้ภายนอก และภูมิปัญญาต่างๆ เพื่อมาร่วมในการบริหารจัดการ เวลาเรียน การจัดการเรียนรู้ และการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ด้วย 4H

3. ด้านกระบวนการ (Process) พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ บุคลากรในสถานศึกษาได้ทำความเข้าใจนโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ด้วย 4H ได้ถูกต้อง รองลงมา คือ กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มุ่งให้นักเรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้มากกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ มีการจัดทำรายงานผลการเรียนรู้ของนักเรียนเพื่อแจ้งผลการดำเนินกิจกรรม

4. ด้านผลผลิต (Product) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ การปฏิบัติกิจกรรม ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมด้วยความกระตือรือร้น รองลงมา คือ การปฏิบัติกิจกรรม ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ นักเรียนได้มีการทำงานร่วมกันเป็นทีม ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ นักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์ มีทักษะชีวิต และเรียนรู้ด้วยตนเองตามความถนัด ความสนใจ

4.1 ด้านผลกระทบ (Impact) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ผู้ปกครองพึงพอใจต่อการจัดการศึกษาของสถานศึกษาตามนโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ด้วย 4H รองลงมา นักเรียนมีความสุขกับการเข้าร่วมกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

4.2 ด้านประสิทธิผล (Effective) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ส่งเสริม สนับสนุน ปัจจัยให้เอื้อต่อการจัดกิจกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ รองลงมา คือ มีการทบทวนผลหลังการปฏิบัติเพื่อเป็นการทบทวนผลการจัดกิจกรรมตามโครงการทั้งข้อมูลที่ได้ผลสะท้อนจากนักเรียน ในการจัดกิจกรรมทั้ง 4H ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ กำกับ ติดตามการจัดกิจกรรมอย่างอย่างเป็นระบบ

4.3 ด้านความยั่งยืน (Sustainability) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมจริงและเกิดผลผลิตจากการปฏิบัติ สามารถเห็นผล เช่น ปลูกผักสวนครัว รองลงมา คือ กิจกรรมเพิ่มโอกาสให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ นักเรียนและชุมชนมีส่วนร่วมในการกำหนดกิจกรรม

4.4 ด้านการถ่ายโยงการเรียนรู้ (Transportability) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด เป็นโครงการที่ฝึกทำงาน ทักษะทางอาชีพ ทรัพย์สินทางปัญญา อยู่อย่างพอเพียงและมีวินัยทางการเงิน รองลงมา คือ เป็นโครงการที่ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม (มีวินัย ซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ อดทน มุ่งมั่นในการทำงาน กตัญญู) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ เป็นโครงการที่ตอบสนองความสนใจ ความถนัด และความต้องการของผู้เรียนตามความแตกต่างระหว่างบุคคล

ส่วนด้านความพึงพอใจของนักเรียน พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ได้ฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่น รองลงมา ได้เรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมรอบตัว ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ ได้ฝึกการคิดของตนเอง

โพสต์โดย นฤมล คล้ายริน : [1 ก.ย. 2562 เวลา 08:48 น.]
อ่าน [3482] ไอพี : 101.109.30.117
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,244 ครั้ง
ความรู้ ความเชื่อ และการปฏิบัติ
ความรู้ ความเชื่อ และการปฏิบัติ

เปิดอ่าน 8,216 ครั้ง
เทคนิคนวดผมพาเพลิน
เทคนิคนวดผมพาเพลิน

เปิดอ่าน 13,511 ครั้ง
ไม่กินข้าวเช้า เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
ไม่กินข้าวเช้า เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน

เปิดอ่าน 11,263 ครั้ง
10 ขั้นตอน ก่อนซื้อ Notebook มือสอง
10 ขั้นตอน ก่อนซื้อ Notebook มือสอง

เปิดอ่าน 15,320 ครั้ง
"ข่า" แก้ไอเจ็บคอเสมหะผู้ใหญ่
"ข่า" แก้ไอเจ็บคอเสมหะผู้ใหญ่

เปิดอ่าน 17,218 ครั้ง
จำได้ไหม ย้อนวันวานของอาจารย์ "กาญจนา นาคสกุล" ราชบัณฑิต
จำได้ไหม ย้อนวันวานของอาจารย์ "กาญจนา นาคสกุล" ราชบัณฑิต

เปิดอ่าน 15,372 ครั้ง
วิจัยพบ"ตำลึงทอง"รักษากระดูกพรุน
วิจัยพบ"ตำลึงทอง"รักษากระดูกพรุน

เปิดอ่าน 10,550 ครั้ง
กินโป๊ยกั้กใส่"พะโล้"สู้ไข้หวัด
กินโป๊ยกั้กใส่"พะโล้"สู้ไข้หวัด

เปิดอ่าน 120,537 ครั้ง
เนื้อเพลง อิ่มอุ่น
เนื้อเพลง อิ่มอุ่น

เปิดอ่าน 10,765 ครั้ง
8 นิสัยการทานอาหารที่คุณสาว ๆ มักทำพลาด
8 นิสัยการทานอาหารที่คุณสาว ๆ มักทำพลาด

เปิดอ่าน 33,801 ครั้ง
ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ว่าด้วยการกำหนดเครื่องแบบผู้อำนวยการ ครู และบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2561
ระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ว่าด้วยการกำหนดเครื่องแบบผู้อำนวยการ ครู และบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2561

เปิดอ่าน 15,694 ครั้ง
โทรภาพ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7
โทรภาพ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7

เปิดอ่าน 28,143 ครั้ง
วิธียืดเส้นก่อนออกกำลังกาย
วิธียืดเส้นก่อนออกกำลังกาย

เปิดอ่าน 30,368 ครั้ง
8 วิธีสุดฮิต พิชิตความรวยบนโลกออนไลน์
8 วิธีสุดฮิต พิชิตความรวยบนโลกออนไลน์

เปิดอ่าน 128,408 ครั้ง
น้ำค้างเกิดขึ้นจากอะไร
น้ำค้างเกิดขึ้นจากอะไร

เปิดอ่าน 19,021 ครั้ง
พระศิวะ
พระศิวะ
เปิดอ่าน 15,487 ครั้ง
อาจารย์เฉลิมชัย "ระบบการศึกษาประเทศไทย"
อาจารย์เฉลิมชัย "ระบบการศึกษาประเทศไทย"
เปิดอ่าน 10,899 ครั้ง
สีเขียว ช่วยให้คุณครีเอทีฟ
สีเขียว ช่วยให้คุณครีเอทีฟ
เปิดอ่าน 15,286 ครั้ง
กินถั่วฝักยาวเยอะๆดีต่อสุขภาพ
กินถั่วฝักยาวเยอะๆดีต่อสุขภาพ
เปิดอ่าน 179,869 ครั้ง
การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม
การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ