บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาคุณภาพของรูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะครูนักวิจัยด้วยการบูรณาการ กระบวนการเรียนรู้ โรงเรียนเทศบาลบ้านตูม สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น 2) เพื่อศึกษาผลของการใช้รูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะครูนักวิจัยด้วยการบูรณาการกระบวนการเรียนรู้ โรงเรียนเทศบาลบ้านตูม สำนักการศึกษาเทศบาลนครขอนแก่น 3) เพื่อเปรียบเทียบสมรรถนะครูนักวิจัยก่อนและหลังการใช้รูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะครูนักวิจัยด้วยการบูรณาการกระบวนการเรียนรู้ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะครูนักวิจัยการ บูรณาการกระบวนการเรียนรู้
การวิจัยและพัฒนาที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะครูนักวิจัยด้วยการบูรณาการกระบวนการเรียนรู้โรงเรียนเทศบาลบ้านตูม สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น โดยมีการดำเนินการ 3 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 พัฒนารูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะครูนักวิจัยด้วยการบูรณาการกระบวนการเรียนรู้โรงเรียนเทศบาลบ้านตูม โดยศึกษาเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และสอบถามผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน ในประเด็น สมรรถนะครูนักวิจัย การบูรณาการกระบวนการเรียนรู้รูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะครู และสอบถามครูเกี่ยวกับสภาพปัญหา ความต้องการในการพัฒนาตนเองด้วยการวิจัย เพื่อนำมาใช้ในการสังเคราะห์รูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะครูนักวิจัย ด้วยการบูรณาการกระบวนการเรียนรู้โดยได้ผลสรุปดังนี้
สมรรถนะครูนักวิจัยประกอบด้วย 3 ด้าน ด้านความรู้ความเข้าใจการวิจัย ด้านจิตวิจัยและด้านทักษะปฏิบัติการวิจัย ส่วนสร้างเสริมสมรรถนะครูนักวิจัยประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 เต็มใจและเห็นคุณค่า (Willing and Value) ขั้นตอนที่ 2 การมีส่วนร่วมในประสบการณ์จริง หรือขั้นลงมือปฏิบัติจริง (Do) ขั้นตอนที่ 3 การสะท้อนการกระทำ (Review) ขั้นตอนที่ 4 สรุปแนวคิดหลักการ (Learn) ขั้นตอนที่ 5 ประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ใหม่ (Apply) และได้รูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะครูนักวิจัยด้วยการบูรณาการกระบวนการเรียนรู้ มีชื่อเรียกว่า Smart Model มี 5 องค์ประกอบ คือ ความเป็นตัวของตังเอง (Self Autonomy) การสร้างแรงจูงใจ (Motivation Building) เอื้ออำนวยการเรียนรู้ (Access Facilitator) ลงมือปฏิบัติอย่างเป็นระบบ (Respond to authentic System) และการพบกลุ่มและติดตาม (Team meeting and Reflection) รูปแบบดังกล่าวมีสาระประกอบด้วย 8 องค์ประกอบ คือ ความเป็นมา หลักการ ลักษณะสำคัญ วัตถุประสงค์ โครงสร้างเนื้อหา กระบวนการจัดกิจกรรม สภาพบ่งชี้การบรรลุเป้าหมาย และการประเมินผลของรูปแบบ
ขั้นตอนที่ 2 การตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะนักวิจัยด้วยการ บูรณาการกระบวนการเรียนรู้ รูปแบบที่ได้ขั้นตอนที่ 1 โดยตรวจสอบคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ 5 คน เพื่อตรวจสอบความเที่ยงตรงและความเหมาะสมของรูปแบบ และปรับปรุงตามข้อเสนอแนะ พบว่ามีความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (IOC 0.60-1.00) และมีความเหมาะสมขององค์ประกอบต่าง ๆ ของรูปแบบในระดับมากถึงมากที่สุด (x ̅ = 4.80) นอกจากนี้ได้ตรวจสอบคุณภาพโดยศึกษานำร่องกับกลุ่มตัวอย่าง 10 คน เพื่อตรวจสอบความเป็นไปได้ก่อนนำไปใช้จริง พบว่า รูปแบบมีความเป็นไปได้ในการสร้างเสริมสมรรถนะครูนักวิจัยด้วยการบูรณาการกระบวนการเรียนรู้ที่ผ่านกระบวนการในขั้นตอนที่ 2
ขั้นตอนที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบและประเมินคุณภาพรูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะ ครูนักวิจัยด้วยการบูรณาการกระบวนการเรียนรู้ โดยทดลองใช้กลุ่มตัวอย่าง 41 คน ใช้แบบแผนการทดลองแบบ One-Group Pretest-Posttest Design (T_(1 )×T_2) ผลการใช้รูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะครูนักวิจัยด้วยการบรูณาการกระบวนการเรียนรู้ พบว่า
1. ครูผู้ร่วมวิจัยมีคะแนนเฉลี่ยสมรรถนะครูนักวิจัยทุกด้านหลังการทดลองสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2. ครูผู้ร่วมวิจัยมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะครูนักวิจัยด้วยการบูรณาการกระบวนการเรียนรู้โดยการจัดสนทนากลุ่มครูที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ครูผู้ร่วมวิจัยได้รับความรู้ด้านการวิจัยเพิ่มมากขึ้น กิจกรรมส่งเสริมทักษะการวิจัย เนื้อหาตรงความต้องการ และมีความพึงพอใจที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม
จากกระบวนการพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะครูนักวิจัยด้วยการบูรณาการกระบวนการเรียนรู้ ทำให้ได้รูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะครุนักวิจัยด้วยการบูรณาการการเรียนรู้และผู้ร่วมวิจัยเกิดสมรรถนะครูนักวิจัย ทั้งด้านความรู้ความเข้าใจการวิจัย ด้านจิตวิจัยและด้านทักษะปฏิบัติการวิจัย ตลอดจนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการสร้างเสริมสมรรถนะครูนักวิจัยด้วยการบูรณาการกระบวนการเรียนรู้โรงเรียนเทศบาลบ้านตูม สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น