ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาศักยภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนเพื่อการเรียนรู้ของผู้เรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

การวิจัยครั้งนี้ได้ตั้งวัตถุประสงค์ของการวิจัยไว้ ดังนี้ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาศักยภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน เพื่อการเรียนรู้ของผู้เรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 2) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาศักยภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน เพื่อการเรียนรู้ของผู้เรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 โดยพิจารณาจาก 2.1) ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน 2.2) ความสามารถในการเขียนเค้าโครงวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน 2.3) ความสามารถในการทำรายงานวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อการนิเทศโดยใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาศักยภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน เพื่อการเรียนรู้ของผู้เรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 และ4) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เกิดจากการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ครูผู้สอนที่พิจารณา 1) ความมุ่งมั่นความตั้งใจ 2) สมัครใจเข้าร่วมโครงการและ 3) ผู้บริหารให้การสนับสนุน จํานวน 40 คน ได้มาด้วยการเลือกแบบแบ่งกลุ่มและนักเรียนที่เรียนกับครูผู้สอนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างทุกคน จำนวน 1,566 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลวิจัย และส่วนที่เป็นเครื่องมือตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือวิจัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าที

ผลการศึกษาพบว่า 1) รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาศักยภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน เพื่อการเรียนรู้ของผู้เรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีชื่อว่า เอพีไอดีดับเบิ้ลอี (APIDEE Model) ประกอบด้วย 6 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 A (Assessing) : ตรวจสอบฐานเดิม ขั้นที่ 2 P (Planning) : เสริมการวางแผน ขั้นที่ 3 I (Informing) : สร้างเสริมความรู้ ขั้นที่ 4 D (Doing) : สู่การปฏิบัติ ขั้นที่ 5 E (Evaluating) : ชัดเจนในผลงาน ขั้นที่ 6E (Expand the network) :สานต่อเครือข่าย มีค่าดัชนีความสอดคล้อง ความเหมาะสม 1.00 และผลการประเมินค่ามาตรส่วนประมาณค่าพบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด 2) ผลการใช้รูปแบบการนิเทศเพื่อพัฒนาศักยภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน เพื่อการเรียนรู้ของผู้เรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต16 พบว่า 2.1) ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนพบว่าความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบการนิเทศ แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.5 โดยหลังการใช้รูปแบบการนิเทศ มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงกว่า ก่อนการใช้รูปแบบการนิเทศ 2.2) ผลการประเมินเค้าโครงวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนจำแนกรายบุคคล พบว่าครูผู้สอนที่มีผลการประเมินระดับดีมาก 7 คน คิดเป็นร้อยละ 17.50 คนระดับดี 30 คน คิดเป็นร้อยละ 75.00 ระดับปานกลาง 3 คน คิดเป็นร้อยละ 7.50 และระดับปรับปรุง คิดเป็นร้อยละ 00.00 2.3) ผลการประเมินความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียนฉบับสมบูรณ์ ของครูผู้สอนพบว่า โดยภาพรวมในระดับดีมาก เมื่อพิจารณาแต่ละประเด็นพบว่า เกือบทุกประเด็นอยู่ในระดับดี-ดีมาก 2.4) ผลการประเมินความสามารถในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน จำแนกเป็นรายบุคคลพบว่าครูผู้สอนที่มีผลการประเมินระดับดีมาก 9 คน คิดเป็นร้อยละ 22.50 คนระดับดี 24 คน คิดเป็นร้อยละ 60.00 และระดับปานกลาง 7 คน คิดเป็นร้อยละ 17.50 และระดับปรับปรุงไม่มี 3) ความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อการนิเทศโดยใช้รูปแบบการนิเทศเอพีไอดีดับเบิ้ลอี (APIDEE Model) พบว่าโดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และพบว่าด้านองค์ประกอบของรูปแบบ ด้านกระบวนการนำรูปแบบไปใช้ และด้านผลของรูปแบบที่นำไปใช้ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 4) ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาวิทยาศาสตร์ตามระดับชั้นที่เรียนกับครูผู้สอนที่ทำการวิจัยในชั้นเรียน เพิ่มขึ้นทุกคน หลังจากการนิเทศตามรูปแบบการนิเทศ

โพสต์โดย ธนชพร ตั้งธรรมกุล : [29 ส.ค. 2562 เวลา 13:17 น.]
อ่าน [3518] ไอพี : 122.154.48.30
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 33,685 ครั้ง
การลาศึกษาต่อต่างประเทศ
การลาศึกษาต่อต่างประเทศ

เปิดอ่าน 14,996 ครั้ง
4 ท่าบริหาร เพื่อหน้าท้องเพรียวสวย
4 ท่าบริหาร เพื่อหน้าท้องเพรียวสวย

เปิดอ่าน 3,889 ครั้ง
ทำไมอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นผู้เล่นใหญ่ในเศรษฐกิจของหลายประเทศ
ทำไมอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นผู้เล่นใหญ่ในเศรษฐกิจของหลายประเทศ

เปิดอ่าน 32,797 ครั้ง
ดร.อาจอง เผยหิมะตก ในประเทศไทย ม.ค. ปีหน้า
ดร.อาจอง เผยหิมะตก ในประเทศไทย ม.ค. ปีหน้า

เปิดอ่าน 14,727 ครั้ง
ล้างพิษตับ...ทำเพื่ออะไร?
ล้างพิษตับ...ทำเพื่ออะไร?

เปิดอ่าน 10,799 ครั้ง
ภัยจากการไม่กินผัก
ภัยจากการไม่กินผัก

เปิดอ่าน 11,988 ครั้ง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง

เปิดอ่าน 235,398 ครั้ง
ตอบข้อข้องใจ...เงิน ช.พ.ค. ที่ผู้ตายจะได้รับ
ตอบข้อข้องใจ...เงิน ช.พ.ค. ที่ผู้ตายจะได้รับ

เปิดอ่าน 16,606 ครั้ง
ความหมายตามลายมือ
ความหมายตามลายมือ

เปิดอ่าน 47,139 ครั้ง
หลักเกณฑ์การเขียนคำย่อ (ใหม่)
หลักเกณฑ์การเขียนคำย่อ (ใหม่)

เปิดอ่าน 15,692 ครั้ง
ยาคุมแบบฉีด ทำมวลกระดูกเสื่อมอย่างน้อย 5%
ยาคุมแบบฉีด ทำมวลกระดูกเสื่อมอย่างน้อย 5%

เปิดอ่าน 23,017 ครั้ง
วิธีดูแลรักษา แปรงสีฟัน
วิธีดูแลรักษา แปรงสีฟัน

เปิดอ่าน 12,223 ครั้ง
"7 กรีนส์" วิธีท่องเที่ยว แบบคนรักษ์โลก
"7 กรีนส์" วิธีท่องเที่ยว แบบคนรักษ์โลก

เปิดอ่าน 19,383 ครั้ง
คู่มือและแนวปฏิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย
คู่มือและแนวปฏิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย

เปิดอ่าน 13,642 ครั้ง
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม

เปิดอ่าน 10,040 ครั้ง
เปิดม่านการศึกษา : 3 พ.ค. 59 : โดย...ครูแจ่ม
เปิดม่านการศึกษา : 3 พ.ค. 59 : โดย...ครูแจ่ม
เปิดอ่าน 16,220 ครั้ง
เทคนิคการถ่ายภาพขนมให้ไฉไลน่ากินมันไม่ได้ยาก
เทคนิคการถ่ายภาพขนมให้ไฉไลน่ากินมันไม่ได้ยาก
เปิดอ่าน 11,493 ครั้ง
กูเกิล เผยอันดับคำค้นหายอดนิยมของคนไทย ประจำปี 2014
กูเกิล เผยอันดับคำค้นหายอดนิยมของคนไทย ประจำปี 2014
เปิดอ่าน 15,405 ครั้ง
 สะพานซังฮี้  ซังฮี้แปลว่าอะไร?
สะพานซังฮี้ ซังฮี้แปลว่าอะไร?
เปิดอ่าน 15,535 ครั้ง
มาทำกายบริหารให้สมองกันเถอะ
มาทำกายบริหารให้สมองกันเถอะ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ