ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางการสร้างองค์ความรู้ ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระศาสนา ศีลธรรม และจริ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางการสร้างองค์ความรู้

ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระศาสนา

ศีลธรรม และจริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย นายถาวร สารการ

ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนประทาย

ปีการศึกษา 2561

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางการสร้างองค์ความรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางการสร้างองค์ความรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางการสร้างองค์ความรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางการสร้างองค์ความรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางการสร้างองค์ความรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน คือ หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนประทาย การจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม แนวคิดทฤษฎีทักษะการคิดวิเคราะห์ การสนทนากลุ่มของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนประทาย แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนประทาย แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาผลการทดลองใช้และประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/11 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนประทาย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางการสร้างองค์ความรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) แผนการจัดการเรียนรู้ ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ และ 5) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางการสร้างองค์ความรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบค่าที (t-test dependent)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ข้อมูลสภาพปัจจุบันและความต้องการในการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนประทาย มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 เน้นกระบวนการปฏิบัติงาน การลงมือทำ ทักษะการคิด โดยเฉพาะการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาที่ได้มาจากกระบวนการเรียนรู้โดยการสร้างองค์ความรู้ด้วยตัวเอง และกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางการสร้างองค์ความรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีองค์ประกอบ 5 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 หลักการ องค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์ องค์ประกอบที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนรู้ องค์ประกอบที่ 4 สาระและประเด็นสำคัญ องค์ประกอบที่ 5 การนำไปใช้ โดยมีกระบวนการหรือขั้นตอนที่สำคัญในการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1. ขั้นตระหนัก วิเคราะห์ ออกแบบ และวางแผน (Realize, analyze, design and plan : R) 2. ขั้นปฏิบัติการโดยเทคโนโลยี (Action by technology : A) 3.ขั้นสะท้อนความคิดกับประสบการณ์เดิม (Reflections on the original experience : R) 4. ขั้นสร้างความรู้ใหม่(Construction : C) 5. ขั้นประเมินผลและประยุกต์ใช้ (Evaluate and apply : E) เมื่อนำไปทดลองใช้กับกลุ่มทดลองแบบภาคสนาม พบว่ามีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.20/82.08 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางการสร้างองค์ความรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางการสร้างองค์ความรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.71 , S.D. = 1.41)

โพสต์โดย ครูถา : [27 ส.ค. 2562 เวลา 09:43 น.]
อ่าน [3324] ไอพี : 49.48.71.104
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,527 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)การศึกษาตัวแปรที่สัมพันธ์กับความสำเร็จในการประกอบวิชาชีพครู
(ก.ค.ศ.)การศึกษาตัวแปรที่สัมพันธ์กับความสำเร็จในการประกอบวิชาชีพครู

เปิดอ่าน 23,158 ครั้ง
เผย 14 รอยเลื่อนมีพลังในไทย ที่อาจทำให้เกิดแผ่นดินไหว
เผย 14 รอยเลื่อนมีพลังในไทย ที่อาจทำให้เกิดแผ่นดินไหว

เปิดอ่าน 18,029 ครั้ง
ฮือฮา เปิดภาพลับ"สตีฟ จ็อบส์"คิดค้น"ไอแพด"ได้ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน
ฮือฮา เปิดภาพลับ"สตีฟ จ็อบส์"คิดค้น"ไอแพด"ได้ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน

เปิดอ่าน 10,505 ครั้ง
ทำความรู้จัก Education3.0 เทคโนโลยี เพื่อการศึกษายุคใหม่
ทำความรู้จัก Education3.0 เทคโนโลยี เพื่อการศึกษายุคใหม่

เปิดอ่าน 12,469 ครั้ง
อ้วนลงพุงกินอย่างไรให้เหมาะสม
อ้วนลงพุงกินอย่างไรให้เหมาะสม

เปิดอ่าน 12,197 ครั้ง
ท็อป 10 ยอดศิลปินของตลาดโลก
ท็อป 10 ยอดศิลปินของตลาดโลก

เปิดอ่าน 17,040 ครั้ง
7 วิธี"เอื้อเฟื้อ"เพื่อนบ้านอย่างง่าย พลิกให้ชุมชนน่าอยู่
7 วิธี"เอื้อเฟื้อ"เพื่อนบ้านอย่างง่าย พลิกให้ชุมชนน่าอยู่

เปิดอ่าน 15,322 ครั้ง
การเลือกโต๊ะสำหรับการเขียนหนังสือ
การเลือกโต๊ะสำหรับการเขียนหนังสือ

เปิดอ่าน 10,298 ครั้ง
ครูโซ่สอนตรีโกณมิติ ชิล ๆ ในแบบบอดี้สแลม !
ครูโซ่สอนตรีโกณมิติ ชิล ๆ ในแบบบอดี้สแลม !

เปิดอ่าน 30,478 ครั้ง
PPT ประกอบการอบรมการนำกระบวนการ PLC เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของโรงเรียนขยายโอกาสในเขตภาคเหนือ
PPT ประกอบการอบรมการนำกระบวนการ PLC เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของโรงเรียนขยายโอกาสในเขตภาคเหนือ

เปิดอ่าน 8,752 ครั้ง
คุณคิดว่าคอมพิวเตอร์เร็วขนาดไหน?
คุณคิดว่าคอมพิวเตอร์เร็วขนาดไหน?

เปิดอ่าน 62,769 ครั้ง
สมุนไพรช่วยลดไตรกลีเซอไรด์
สมุนไพรช่วยลดไตรกลีเซอไรด์

เปิดอ่าน 29,788 ครั้ง
แฟลช และเทคนิคการถ่ายภาพด้วยแสงแฟลช
แฟลช และเทคนิคการถ่ายภาพด้วยแสงแฟลช

เปิดอ่าน 16,152 ครั้ง
งานนมัสการองค์พระธาตุพนม
งานนมัสการองค์พระธาตุพนม

เปิดอ่าน 64,962 ครั้ง
ฟื้นความทรงจำ  ลำนำบทอาขยานย้อนยุค
ฟื้นความทรงจำ ลำนำบทอาขยานย้อนยุค

เปิดอ่าน 6,381 ครั้ง
โครงการ DifferSheet ออกฟีเจอร์ใหม่ WorkSheet (สื่อการเรียนการสอนดิจิทัล) ให้ครูใช้ฟรีช่วงโควิด
โครงการ DifferSheet ออกฟีเจอร์ใหม่ WorkSheet (สื่อการเรียนการสอนดิจิทัล) ให้ครูใช้ฟรีช่วงโควิด
เปิดอ่าน 12,887 ครั้ง
มุมกล้องที่ดี..ช่วยคุณได้ขนาดไหน..ไปดูคลิปนี้กันครับ
มุมกล้องที่ดี..ช่วยคุณได้ขนาดไหน..ไปดูคลิปนี้กันครับ
เปิดอ่าน 29,430 ครั้ง
8 ตัวอย่างภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย
8 ตัวอย่างภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย
เปิดอ่าน 11,819 ครั้ง
กาแฟเย็นทำให้อ้วน ให้แคลอรีมากเท่ากับข้าวมื้อใดมื้อหนึ่ง
กาแฟเย็นทำให้อ้วน ให้แคลอรีมากเท่ากับข้าวมื้อใดมื้อหนึ่ง
เปิดอ่าน 239,210 ครั้ง
10 บุคคลสำคัญ ผู้ทรงอิทธิพลของโลก
10 บุคคลสำคัญ ผู้ทรงอิทธิพลของโลก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ