ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาการเรียนรู้แบบโครงงาน เรื่องการเสริมสร้างสุขภาพและทักษะในการดำรงชีวิต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึ

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาการเรียนรู้เรื่อง การเสริมสร้างสุขภาพและทักษะในการดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทาง

การเรียนเรื่อง การเสริมสร้างสุขภาพและทักษะในการดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ

พลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ ก่อนและหลังเรียน โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน 3) เพื่อศึกษาความรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ เรื่อง การเสริมสร้างสุขภาพและทักษะในการดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ เรื่อง การเสริมสร้างสุขภาพและทักษะในการดำรงชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน

วิธีดำเนินการศึกษา ใช้แบบแผนการศึกษาโดยระเบียบวิธีวิจัยปฏิบัติการ (Action research)

มีวิธีดำเนินการโดย 1) กลุ่มเป้าหมายหลักของการศึกษาในครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ปีการศึกษา 2561 จำนวน 45 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) 2) กลุ่มเป้าหมายร่วมได้แก่ ผู้ปกครองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งมีบทบาทในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักเรียน ออกแบบการศึกษาตามแบบการวิจัยเชิงทดลองอย่างง่าย (Pre -experiment) กับนักเรียนกลุ่มเดียว โดยมีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (one – group pretest-Posttest design) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ นวัตกรรม (การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน) และเครื่องมือ

การประเมินผล การเก็บรวบรวมข้อมูล 3 ระยะ คือระยะก่อนการศึกษา ระหว่างการศึกษา และหลังการศึกษา วิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้คอมพิวเตอร์ โปรแกรม Microsoft Excel ในการคำนวณหาค่าสถิติ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และข้อมูล

เชิงคุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ใช้วิธีการการบรรยาย และใช้ภาพประกอบ

ผลการศึกษาพบว่า

1. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ที่ตั้งไว้ทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100.00

ได้ค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.73 แสดงว่า หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ผู้เรียน

มีพัฒนาการเรียนรู้เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 73.00 และเมื่อพิจารณาจากการประเมินผลการเรียนรู้

คิดเป็นร้อยละ 86.40 ได้ค่าเฉลี่ย 8.64 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.73 พบว่าการพัฒนา

การเรียนรู้ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.40/ 93.69

ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้

2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีคะแนนรวมหลังเรียน 1649 เฉลี่ยก่อนเรียน 37.48

หลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 93.69 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานหลังเรียนที่ 1.49 ( = 37.48, S.D.= 1.49)

3. ผลการศึกษาความรับผิดชอบต่อการเรียน หลังเรียนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

แบบโครงงาน นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อการเรียนในระดับมากทุกด้าน โดยพิจารณาเป็นรายด้าน ได้แก่ การมาเรียนคิดเป็นร้อยละ 96.21 ( = 2.89 ,S.D = 0.32) การทำงานที่มอบหมาย คิดเป็น

ร้อยละ 93.18 ( = 2.80 , S.D = 0.41 ) การแต่งกาย คิดเป็นร้อยละ 93.18 ( = 2.80 , S.D = 0.41)

4. ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียน เมื่อพิจารณาในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

คือ ( = 4.71, S.D. = 0.54) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า นักเรียนมีส่วนร่วมในการนำเสนอผลงาน ( = 4.91, S.D. = 0.29 ) นักเรียนสามารถค้นคว้าความรู้ได้ตามต้องการ ( = 4.89, S.D. = 0.32) และเนื้อหาที่เรียนเป็นเรื่องเข้าใจง่าย ( = 4.82, S.D. = 0.39)

โพสต์โดย รัชชนก นวลพุดซา : [26 ส.ค. 2562 เวลา 19:48 น.]
อ่าน [3385] ไอพี : 223.24.160.91
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 1,437 ครั้ง
5 วิธีปกป้องตนเองไม่ตกเป็นเหยื่อบนโลกออนไลน์
5 วิธีปกป้องตนเองไม่ตกเป็นเหยื่อบนโลกออนไลน์

เปิดอ่าน 22,877 ครั้ง
สารพัดคุณประโยชน์จาก"ผักบุ้ง" เสริมสุขภาพ-กันโรคยิ่งทานยิ่งดี
สารพัดคุณประโยชน์จาก"ผักบุ้ง" เสริมสุขภาพ-กันโรคยิ่งทานยิ่งดี

เปิดอ่าน 22,465 ครั้ง
เคล็ดไม่ลับ!!!วิธีตอน"มะนาว"ด้วย"กะปิ" ได้กิ่งพันธุ์ดี เป็นที่ต้องการ
เคล็ดไม่ลับ!!!วิธีตอน"มะนาว"ด้วย"กะปิ" ได้กิ่งพันธุ์ดี เป็นที่ต้องการ

เปิดอ่าน 636 ครั้ง
ประโยชน์ของการเดิน
ประโยชน์ของการเดิน

เปิดอ่าน 90,138 ครั้ง
ตัวอย่างการแต่งกายของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ
ตัวอย่างการแต่งกายของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ

เปิดอ่าน 14,485 ครั้ง
5 คำถามเพื่อสาขาเรียนที่ใช่ สู่อาชีพที่ชอบ
5 คำถามเพื่อสาขาเรียนที่ใช่ สู่อาชีพที่ชอบ

เปิดอ่าน 22,786 ครั้ง
ตัวหนังสือไทยต่างๆ นอกราชอาณาจักรไทย
ตัวหนังสือไทยต่างๆ นอกราชอาณาจักรไทย

เปิดอ่าน 69,876 ครั้ง
ทฤษฎีความสัมพันธ์เชื่อมโยงของธอร์นไดน์
ทฤษฎีความสัมพันธ์เชื่อมโยงของธอร์นไดน์

เปิดอ่าน 11,094 ครั้ง
เรียนวิทยาศาสตร์อย่างไรให้สนุก
เรียนวิทยาศาสตร์อย่างไรให้สนุก

เปิดอ่าน 18,226 ครั้ง
เงินเดือนมาก-น้อยไม่สำคัญ ทุกเดือนคุณเหลือเงินกี่บาท ?
เงินเดือนมาก-น้อยไม่สำคัญ ทุกเดือนคุณเหลือเงินกี่บาท ?

เปิดอ่าน 18,804 ครั้ง
เปิดประตูบ้านทิศใด เจรจาความจะสำเร็จ
เปิดประตูบ้านทิศใด เจรจาความจะสำเร็จ

เปิดอ่าน 25,741 ครั้ง
"ข้าว" ในสมัยพุทธกาล
"ข้าว" ในสมัยพุทธกาล

เปิดอ่าน 37,603 ครั้ง
วิธีปลูกหอมญี่ปุ่น
วิธีปลูกหอมญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 14,036 ครั้ง
มาอัพเดทดวงของคุณในรอบ 2 สัปดาห์
มาอัพเดทดวงของคุณในรอบ 2 สัปดาห์

เปิดอ่าน 143,435 ครั้ง
8 โรคห้ามรับราชการ
8 โรคห้ามรับราชการ

เปิดอ่าน 26,724 ครั้ง
การพัฒนาการวิจัยโดยใช้รูปแบบ
การพัฒนาการวิจัยโดยใช้รูปแบบ
เปิดอ่าน 8,521 ครั้ง
ตำนานสงกรานต์
ตำนานสงกรานต์
เปิดอ่าน 14,742 ครั้ง
10 เคล็ดลับคลายความเหนื่อยล้า ปลุกพลังกลับมาอีกครั้ง
10 เคล็ดลับคลายความเหนื่อยล้า ปลุกพลังกลับมาอีกครั้ง
เปิดอ่าน 8,498 ครั้ง
"จันผา" ไม้ประดับฟอร์มสวย เลี้ยงง่ายไว้แต่งสวน
"จันผา" ไม้ประดับฟอร์มสวย เลี้ยงง่ายไว้แต่งสวน
เปิดอ่าน 16,277 ครั้ง
เด็กนอนเป็นเวลาปัญญาดี ยิ่งนอนตั้งแต่หัวค่ำยิ่งหัวไวยิ่งกว่าเพื่อน
เด็กนอนเป็นเวลาปัญญาดี ยิ่งนอนตั้งแต่หัวค่ำยิ่งหัวไวยิ่งกว่าเพื่อน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ