ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการการใช้สมองเป็นฐานและเทคนิคหมวก ความคิดหกใบ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับ

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนนครนนท์วิทยา 4 วัดบางแพรกเหนือ สำนักการศึกษา เทศบาลนครนนทบุรี มีวัตถุประสงค์การวิจัย คือ 1) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการการใช้สมองเป็นฐานและเทคนิคหมวกความคิดหกใบ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ให้มีประสิทธิภาพ 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการการใช้สมองเป็นฐานและเทคนิคหมวกความคิดหกใบ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ให้มีประสิทธิผล 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยบูรณาการการใช้สมองเป็นฐานและเทคนิคหมวกความคิดหกใบ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการการใช้สมองเป็นฐานและเทคนิคหมวกความคิดหกใบ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และ 5) เพื่อวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยมีประชากรและกลุ่มตัวอย่างใน การวิจัย ได้แก่ 1) ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ คณะครูผู้สอนประจำกลุ่มสาระและนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนนครนนท์วิทยา 4 วัดบางแพรกเหนือ สำนักการศึกษา เทศบาลนครนนทบุรี ปีการศึกษา 2560 – 2561 รวมทั้งสิ้น จำนวน 126 คน 2) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ คณะครูผู้สอนประจำกลุ่มสาระ ปีการศึกษา 2561 จำนวน 8 คน โดยทำการสุ่มคัดเลือกจากกลุ่มสาระ การเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่ม กลุ่มละ 1 คน ด้วยการจับสลาก และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนนครนนท์วิทยา 4 วัดบางแพรกเหนือ สำนักการศึกษา เทศบาลนครนนทบุรี ปีการศึกษา 2561 จำนวน 26 คน โดยทำการสุ่มคัดเลือกแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ด้วยการจับสลาก

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างสำหรับสัมภาษณ์ แบบสอบถามความคิดเห็น คู่มือสำหรับครูประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ จำนวน 20 แผน ใช้เวลา 20 ชั่วโมง ซึ่งไม่รวมกับการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบแบบ 4 ตัวเลือก คือ ก. ข. ค. และ ง. จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยาก (P) อยู่ระหว่าง 0.46 – 0.75 ค่าอำนาจจำแนก (B) อยู่ระหว่าง 0.50 – 0.98 และมีค่าความเชื่อมั่น (KR – 20) ทั้งฉบับ เท่ากับ 0.647 แบบสอบถามความพึงพอใจ มีค่าความเที่ยง ( ) เท่ากับ 0.74 และแบบวัดเจตคติ มีค่าความเที่ยง ( ) เท่ากับ 0.74 ซึ่งเครื่องมือในการวิจัยทั้งหมดนี้ ได้ผ่านการตรวจสอบหาคุณภาพความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (IOC) จากผู้เชี่ยวชาญเรียบร้อยแล้ว และมีสถิติที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ ร้อยละ (P) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่า t-test และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาประสิทธิภาพ (E1/E2) ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการการใช้สมองเป็นฐานและเทคนิคหมวกความคิดหกใบ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สรุปได้ว่า มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.76/85.85

2. ผลการศึกษาดัชนีประสิทธิผล (E.I.) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการการใช้สมองเป็นฐานและเทคนิคหมวกความคิดหกใบ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สรุปได้ว่า มีดัชนีประสิทธิผล (E.I.) เท่ากับ 0.8185 หรือคิดเป็นร้อยละ 81.85

3. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยบูรณาการการใช้สมองเป็นฐานและเทคนิคหมวกความคิดหกใบ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย พบว่า หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการการใช้สมองเป็นฐานและเทคนิคหมวกความคิดหกใบ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของคณะครูผู้สอน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.31 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.54 และของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.48 และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.59

5. ผลการศึกษาเจตคติของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.50 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.59

สรุปได้ว่า การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ โดยบูรณาการการใช้สมองเป็นฐานและเทคนิคหมวกความคิดหกใบ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีส่วนช่วยให้มีรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ดีและมีคุณภาพเหมาะสมที่จะนำไปใช้ในการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่อไป

โพสต์โดย หลอด : [21 ส.ค. 2562 เวลา 14:47 น.]
อ่าน [3344] ไอพี : 125.25.0.233
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,730 ครั้ง
ลดน้ำหนักได้ด้วยกาแฟ
ลดน้ำหนักได้ด้วยกาแฟ

เปิดอ่าน 14,408 ครั้ง
แผ่นดินไหว
แผ่นดินไหว

เปิดอ่าน 8,251 ครั้ง
หลากวิธีกำจัด จุดอ่อน ที่หัวใจ
หลากวิธีกำจัด จุดอ่อน ที่หัวใจ

เปิดอ่าน 29,905 ครั้ง
ทำไมหน้าธนาคารถึงต้องมีครุฑ
ทำไมหน้าธนาคารถึงต้องมีครุฑ

เปิดอ่าน 15,448 ครั้ง
แอปเปิ้ลแต่ละสีมีประโยชน์ต่างกัน
แอปเปิ้ลแต่ละสีมีประโยชน์ต่างกัน

เปิดอ่าน 15,066 ครั้ง
เตือนภัย : ฝนตก ยุงลายชุกชุม ระวังไข้เลือดออกคุกคามเด็กๆ
เตือนภัย : ฝนตก ยุงลายชุกชุม ระวังไข้เลือดออกคุกคามเด็กๆ

เปิดอ่าน 790 ครั้ง
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38

เปิดอ่าน 14,859 ครั้ง
คำวิจารณ์การศึกษาไทย โดยพระราชญาณกวี โซเชียลแชร์ที่อ่านแล้วต้องคิดตาม
คำวิจารณ์การศึกษาไทย โดยพระราชญาณกวี โซเชียลแชร์ที่อ่านแล้วต้องคิดตาม

เปิดอ่าน 18,719 ครั้ง
คู่มือการปฏิบัติงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
คู่มือการปฏิบัติงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา

เปิดอ่าน 10,899 ครั้ง
อาหารขยะ...ทานได้แต่ต้องฉลาดเลือก
อาหารขยะ...ทานได้แต่ต้องฉลาดเลือก

เปิดอ่าน 86,478 ครั้ง
การปลูกผักหวานป่าเชิงระบบ
การปลูกผักหวานป่าเชิงระบบ

เปิดอ่าน 12,241 ครั้ง
6 วิธีแก้เครียด
6 วิธีแก้เครียด

เปิดอ่าน 19,765 ครั้ง
รู้หรือไม่ ที่ฟินแลนด์ ยกระดับการศึกษา ต้องเริ่มที่พัฒนาครูผู้สอน
รู้หรือไม่ ที่ฟินแลนด์ ยกระดับการศึกษา ต้องเริ่มที่พัฒนาครูผู้สอน

เปิดอ่าน 24,582 ครั้ง
รู้จักภาษาอังกฤษดีพอหรือยัง
รู้จักภาษาอังกฤษดีพอหรือยัง

เปิดอ่าน 9,069 ครั้ง
โอเน็ต!ยัง โอเค?
โอเน็ต!ยัง โอเค?

เปิดอ่าน 16,008 ครั้ง
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า
เปิดอ่าน 10,828 ครั้ง
จากปลานิลพระราชทาน
จากปลานิลพระราชทาน
เปิดอ่าน 15,516 ครั้ง
"ลูกชายคนกวาดขยะ" โฆษณาขยี้ใจ น้ำตาไหลอิ่มใจไม่รู้ตัว
"ลูกชายคนกวาดขยะ" โฆษณาขยี้ใจ น้ำตาไหลอิ่มใจไม่รู้ตัว
เปิดอ่าน 52,105 ครั้ง
แนวโน้มของเทคโนโลยีการศึกษาของไทย
แนวโน้มของเทคโนโลยีการศึกษาของไทย
เปิดอ่าน 13,192 ครั้ง
บารัค โอบามา (Barack Obama)
บารัค โอบามา (Barack Obama)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ