ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิซึม ด้วยกิจกรรมสืบเสาะ เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการสร้างองค์ความรู้ ของนักเรียนชั้

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิซึม ด้วยกิจกรรมสืบเสาะ เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการสร้างองค์ความรู้ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ และ (3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบที่พัฒนาขึ้น การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยกำหนดรูปแบบการทดลองแบบหนึ่งกลุ่ม แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญที่ใช้ตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบ จำนวน 5 คน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านใหม่พิทยาคม จำนวน 32 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย (1) แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 6 แผน (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางด้านความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจำนวน 30 ข้อ (3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการสร้างองค์ความรู้ และ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ใช้มาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) มี 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ( t-test Dependent Samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิซึม ด้วยกิจกรรมสืบเสาะ เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการสร้างองค์ความรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีชื่อว่า “PUCSEA Model” จากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญรูปแบบการเรียนการสอนมีความเหมาะสมและสอดคล้องกันทุกองค์ประกอบ มีจำนวน 6 แผนการเรียนรู้ มีการประเมินความเหมาะสมจากผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คนอยู่ในระดับมากที่สุดค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.68 ซึ่งรูปแบบการจัดการเรียนรู้มี 8 องค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน หลักการตอบสนอง สิ่งสนับสนุน ระบบสังคม เงื่อนไขของการนำรูปแบบไปใช้ และผลที่เกิดจากการใช้รูปแบบ กระบวนการเรียนการสอนมี 6 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นเตรียมความพร้อม (Preparing : P) ขั้นใช้คำถาม (Using Questions : U ) ขั้นสร้างองค์ความรู้ด้วยการปฏิบัติจริงด้วยตนเอง (Constructing by Active Learning :C) ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Sharing :S) ขั้นประเมินผล (Evaluating: E) ขั้นประยุกต์ใช้กระบวนการคิด (Applying Thinking Process : A )

2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้พบว่าค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.45/81.15 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ผลสัมฤทธิ์ทางด้านความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการสร้างองค์ความรู้ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. ผลความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิซึม ด้วยกิจกรรมสืบเสาะ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.63, S.D.= 0.63)

โพสต์โดย นอม : [15 ส.ค. 2562 เวลา 06:19 น.]
อ่าน [3330] ไอพี : 223.24.61.18
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,742 ครั้ง
ข้อดี เคี้ยวช้าลง เสริมสุขภาพให้ดีขึ้นได้
ข้อดี เคี้ยวช้าลง เสริมสุขภาพให้ดีขึ้นได้

เปิดอ่าน 11,095 ครั้ง
ลดความอ้วน ก็ไม่ยากซะหน่อย
ลดความอ้วน ก็ไม่ยากซะหน่อย

เปิดอ่าน 28,448 ครั้ง
ที่ไปและที่มาของการชู 2 นิ้ว (สู้ตายค่ะ)
ที่ไปและที่มาของการชู 2 นิ้ว (สู้ตายค่ะ)

เปิดอ่าน 8,079 ครั้ง
เมื่อกล้าปราบคอร์รัปชั่น ก็ลองกล้าเปลี่ยนประเทศ ด้วยการปฏิรูปการศึกษา
เมื่อกล้าปราบคอร์รัปชั่น ก็ลองกล้าเปลี่ยนประเทศ ด้วยการปฏิรูปการศึกษา

เปิดอ่าน 16,404 ครั้ง
ความมืดมีประโยชน์ ช่วยต้านมะเร็ง แถมลดน้ำหนัก
ความมืดมีประโยชน์ ช่วยต้านมะเร็ง แถมลดน้ำหนัก

เปิดอ่าน 29,010 ครั้ง
ประเพณีการบอกหมาก ในงานแต่งงาน
ประเพณีการบอกหมาก ในงานแต่งงาน

เปิดอ่าน 24,016 ครั้ง
AutoPlay Media Studio
AutoPlay Media Studio

เปิดอ่าน 13,738 ครั้ง
ใส่ใจการ "เคี้ยวอาหาร" กันสักนิด
ใส่ใจการ "เคี้ยวอาหาร" กันสักนิด

เปิดอ่าน 20,938 ครั้ง
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2545
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2545

เปิดอ่าน 6,150 ครั้ง
ระบบโทรทัศน์ในประเทศไทย มีระบบใดบ้าง?
ระบบโทรทัศน์ในประเทศไทย มีระบบใดบ้าง?

เปิดอ่าน 17,848 ครั้ง
ชมคลิปฮ็อต เปิดใจ "น้องมันตรา-พริตตี้สาว" คู่กรณีวลีเด็ด "แก่ ใจดี สปอร์ต กทม.-ไม่ช็อต!"
ชมคลิปฮ็อต เปิดใจ "น้องมันตรา-พริตตี้สาว" คู่กรณีวลีเด็ด "แก่ ใจดี สปอร์ต กทม.-ไม่ช็อต!"

เปิดอ่าน 109,717 ครั้ง
การขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียนระดับก่อนประถมศึกษา (อนุบาล)
การขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียนระดับก่อนประถมศึกษา (อนุบาล)

เปิดอ่าน 21,788 ครั้ง
ยุบ สพฐ. จัดตั้งของใหม่ คิดกันดีแล้วเหรอ?? ไม่เหนื่อยต่อการพายเรือในอ่างหรือ?!
ยุบ สพฐ. จัดตั้งของใหม่ คิดกันดีแล้วเหรอ?? ไม่เหนื่อยต่อการพายเรือในอ่างหรือ?!

เปิดอ่าน 95,725 ครั้ง
แนวคิดการจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์
แนวคิดการจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 12,077 ครั้ง
ภัยเงียบของเด็กไทย
ภัยเงียบของเด็กไทย

เปิดอ่าน 7,894 ครั้ง
10 คำฮิตบนโลกโซเชียล ปี 2566
10 คำฮิตบนโลกโซเชียล ปี 2566
เปิดอ่าน 53,990 ครั้ง
พิชิตคณิตให้เป็นเรื่องง่าย
พิชิตคณิตให้เป็นเรื่องง่าย
เปิดอ่าน 11,021 ครั้ง
โซเชียลทำพิษ... 5 โรคฮิตของคนติดจอ
โซเชียลทำพิษ... 5 โรคฮิตของคนติดจอ
เปิดอ่าน 20,339 ครั้ง
ตำนานพระโกศ
ตำนานพระโกศ
เปิดอ่าน 19,603 ครั้ง
วิตามิน บี
วิตามิน บี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ