ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่องการอ่านคิดวิเคราะห์เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

บทคัดย่อ

ในการดำเนินการวิจัยการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาระที่ 1 การอ่าน และสาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม ครั้งนี้เป็นการวิจัยและการพัฒนา (Research and Development) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ (4) เพื่อประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 ที่กำลังเรียนภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ เทศบาลเมืองวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จำนวน 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย (1) แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 9 เรื่อง (2) แผนการจัดการเรียนรู้ใช้ประกอบแบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 9 แผน ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.80-1.00 (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เป็นข้อสอบแบบเลือกตอบ (Multiple Choice) ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีความยากง่ายตั้งแต่ 0.46 ถึง 0.76 มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ ค่าอำนาจจำแนก (r) อยู่ระหว่าง 0.38 ถึง 0.69 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.86 และ (4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบมาตรการประเมิน 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ ได้ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.37 ถึง 0.88 ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ 0.88 การเก็บรวบรวมข้อมูล ดำเนินการดังนี้ (1) เริ่มทดลองในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โดยก่อนการทดลอง ได้แนะนำชี้แจงให้นักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างทราบจุดประสงค์ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ถึงวิธีการเรียนว่า ต้องเรียนเนื้อหาให้เข้าใจก่อน แล้วให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด และแบบทดสอบย่อยในแบบฝึกทักษะ (2) นำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนแบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ไปทดสอบกับนักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง แล้วบันทึกคะแนนที่ได้จากการทดสอบเป็นคะแนนทดสอบก่อนเรียน (Pretest) (3) ดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ โดยสอนเนื้อหาก่อนแล้วให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด และแบบทดสอบย่อยในแบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เวลาในการทดลองเรื่องละ 1 ชั่วโมง ดังนี้ เรื่องที่ 1 การอ่านคิดวิเคราะห์เพลงพื้นบ้าน เรื่องที่ 2 การอ่านคิดวิเคราะห์นิทานพื้นบ้าน เรื่องที่ 3 การอ่านคิดวิเคราะห์ข่าว เรื่องที่ 4 การอ่านคิดวิเคราะห์บทความ เรื่องที่ 5 การอ่านคิดวิเคราะห์เรื่องสั้น เรื่องที่ 6 การอ่านคิดวิเคราะห์บทร้อยกรอง เรื่องที่ 7 การอ่านคิดวิเคราะห์สำนวนไทย เรื่องที่ 8 การอ่านคิดวิเคราะห์สุภาษิต คำพังเพย และเรื่องที่ 9 การอ่านคิดวิเคราะห์สารคดี (4) หลังการทดลองสิ้นสุดแล้ววัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนแบบฝึกทักษะ แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ไปทดสอบอีกครั้ง แล้วบันทึกคะแนนที่ได้จากการทดสอบ ซึ่งคะแนนที่ได้เป็นคะแนนทดสอบหลังเรียน (Posttest) และ (5) ให้นักเรียนตอบแบบสอบถามความพึงพอใจมีต่อการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 การวิเคราะห์ข้อมูลครั้งนี้ ใช้สถิติพื้นฐานในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อตอบวัตถุประสงค์ของการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t (Dependent-Sample)

สรุปผลการวิจัย

1. ผลการวิเคราะห์ความต้องการเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากการสัมภาษณ์ผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ และครูผู้สอนสาระภาษาไทย มีดังนี้ ด้านความต้องการเกี่ยวกับการพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยตระหนักถึงความสำคัญของแบบฝึกทักษะ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่สำคัญในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยนำข้อมูลจากการอ่านคิดวิเคราะห์มาใช้ในการจัดการเรียนรู้และเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แก้ปัญหาจากข้อมูลใกล้ตัวช่วยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะกระบวนการคิดไปพร้อม ๆ กันและเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ข้อมูลจากการอ่านคิดวิเคราะห์มาสร้างเป็นนวัตกรรม โดยภาพรวมพบว่า ควรมีการดำเนินการร่วมกันระหว่างครูผู้สอนและผู้เชี่ยวชาญทางด้านการอ่านคิดวิเคราะห์ ซึ่งข้อมูลที่ต้องการเรียนรู้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการอ่าน การคิดวิเคราะห์ สุภาษิตและสำนวนไทย แล้วนำมาผูกเป็นเรื่องราวให้สอดคล้องกับเนื้อหาสาระและกิจกรรมการเรียนรู้

2. ผลการหาประสิทธิภาพการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ E1 ได้ค่าประสิทธิภาพ 86.32 และผลการประเมินผลลัพธ์ E2 ได้ค่าประสิทธิภาพ 84.29 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80

3. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าแบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งมีคะแนนหลังการใช้แบบฝึกทักษะ ( =33.71, S.D = 0.93 ) และก่อนใช้แบบฝึกทักษะ ( = 20.14, S.D = 1.99 )

4. ผลการประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะเรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์ เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะ พบว่า โดยภาพรวมนักเรียนส่วนใหญ่มีความเห็นด้วยมาก ( = 4.36, S.D = 0.52 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย พบว่า ลำดับที่ 1 ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ( = 4.38, S.D = 0.50) ลำดับที่ 2 ด้านประโยชน์ของแบบฝึกทักษะ ( = 4.37, S.D = 0.54) และลำดับที่ 3 ด้านการจัดบรรยากาศการเรียนการสอน ( = 4.32, S.D = 0.52)

โพสต์โดย นารี ขันธวัฒน์ : [2 ส.ค. 2562 เวลา 09:15 น.]
อ่าน [3246] ไอพี : 180.183.192.43
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,359 ครั้ง
ประกาศแล้ว..ผลประกวดคำขวัญกรุงเทพ​ฯ
ประกาศแล้ว..ผลประกวดคำขวัญกรุงเทพ​ฯ

เปิดอ่าน 11,053 ครั้ง
ปลาชะลอสมองเสื่อม
ปลาชะลอสมองเสื่อม

เปิดอ่าน 13,414 ครั้ง
กฎเหล็กที่ควรรู้ หากอยากมีหุ่นสุดเป๊ะ
กฎเหล็กที่ควรรู้ หากอยากมีหุ่นสุดเป๊ะ

เปิดอ่าน 24,667 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาแล้ว ปฏิรูปการลูกเสือด้วยครับ โดย จารึก อะยะวงศ์
ปฏิรูปการศึกษาแล้ว ปฏิรูปการลูกเสือด้วยครับ โดย จารึก อะยะวงศ์

เปิดอ่าน 16,575 ครั้ง
น้ำเปล่า ช่วยให้คุณสวยได้ยังไง
น้ำเปล่า ช่วยให้คุณสวยได้ยังไง

เปิดอ่าน 11,574 ครั้ง
9 สถานที่ท่องเที่ยว สุดประทับใจ คุณไปมารึยัง?
9 สถานที่ท่องเที่ยว สุดประทับใจ คุณไปมารึยัง?

เปิดอ่าน 24,421 ครั้ง
12 เทคโนโลยี (ไม่) พร้อมใช้ใน Web 3.0
12 เทคโนโลยี (ไม่) พร้อมใช้ใน Web 3.0

เปิดอ่าน 12,000 ครั้ง
เห็ดหลินจือ มีดีเช่นไร?
เห็ดหลินจือ มีดีเช่นไร?

เปิดอ่าน 85,047 ครั้ง
วิธีทำ  น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ
วิธีทำ น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ

เปิดอ่าน 20,239 ครั้ง
พระสงฆ์กับความเป็นครู
พระสงฆ์กับความเป็นครู

เปิดอ่าน 41,693 ครั้ง
Animation สอนภาษาอังกฤษ (การทักทาย)
Animation สอนภาษาอังกฤษ (การทักทาย)

เปิดอ่าน 21,354 ครั้ง
วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม วันพ่อ
วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม วันพ่อ

เปิดอ่าน 13,709 ครั้ง
ชมคลิป น้องปุ๊ กุลปรียา นักเรียนบุรีรัมย์ โชว์เล่านิทานไข่ทองคำยุคอาเซียน
ชมคลิป น้องปุ๊ กุลปรียา นักเรียนบุรีรัมย์ โชว์เล่านิทานไข่ทองคำยุคอาเซียน

เปิดอ่าน 9,870 ครั้ง
สิ่งที่ลูกได้จากน้ำนมแม่
สิ่งที่ลูกได้จากน้ำนมแม่

เปิดอ่าน 14,589 ครั้ง
ปรุง...ต้านมะเร็ง ด้วยเมนูโฮมเมด
ปรุง...ต้านมะเร็ง ด้วยเมนูโฮมเมด

เปิดอ่าน 3,354 ครั้ง
จัดอาหารกลางวันมีคุณภาพ กระตุ้นพัฒนาการเด็กวัยเรียน
จัดอาหารกลางวันมีคุณภาพ กระตุ้นพัฒนาการเด็กวัยเรียน
เปิดอ่าน 57,046 ครั้ง
เกลือ
เกลือ
เปิดอ่าน 13,980 ครั้ง
อาหาร 10 อย่างที่ควรมีไว้ในตู้เย็น
อาหาร 10 อย่างที่ควรมีไว้ในตู้เย็น
เปิดอ่าน 13,220 ครั้ง
เลี้ยงลูกรักให้มีพัฒนาการสมวัย
เลี้ยงลูกรักให้มีพัฒนาการสมวัย
เปิดอ่าน 18,565 ครั้ง
1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่
1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ