ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

บทที่ 1

บทนำ

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การดำเนินชีวิต ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาสาระตามหลักสูตรควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะใหม่ๆ ที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 (ไสว ฟักขาว, มปป.: 1) ซึ่งการศึกษายังคงเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตมนุษย์และการพัฒนาประเทศที่เชื่อมโยงกันทั่วโลกให้สามารถดำรงชีวิตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างยั่งยืน (สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน, 2557: 6)

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาษาอังกฤษเขามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษยมากขึ้น ตัวอย่างจากเครื่องใช อุปโภค บริโภคต่าง ๆ เชน อุปกรณไฟฟาทุกชนิด เครื่องสําอาง ยา เปนสินคาที่นำเขาจากต่างประเทศทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่าขอแนะนำการใชอุปกรณและผลิตภัณฑดังกลาวลวนเปนภาษาอังกฤษ ประกอบกับประเทศไทยเปนประเทศที่เปดเสรีทางดานการคา มีชาวตางประเทศเขามาลงทุน การที่ประชากรในประเทศมีความรู ความสามารถดานภาษาอังกฤษ สามารถใชภาษาอังกฤษในการติดตอ สื่อสารเกี่ยวกับการศึกษา การแสวงหาขอมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบอาชีพ ตลอดจนเพื่อใหสามารถนำประเทศไปสู่การแขงขันดานเศรษฐกิจ เขาใจความแตกตางทางการเมือง และวัฒนธรรมในฐานะที่เปน

พลเมืองยุคโลกาภิวัฒน ดังนั้นการเรียนรู ทักษะการฟง พูด อานและเขียนภาษาอังกฤษ จะชวยให้นักเรียนมีวิสัยทัศนกวางไกล สามารถใชภาษาอังกฤษสื่อสารกับชาวต่างประเทศได้อย่างถูกตอง เหมาะสมและมั่นใจ พรอมทั้งสามารถถายทอดวัฒนธรรมที่ดีงามของคนไทยและเอกลักษณไทยไปสูสังคมโลกไดอยางภาคภูมิใจ (ดําริ บุญชู, 2546: 19 อ้างถึงจาก ณัฐธิดา รัตนสุภา, 2551: 1)

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะ สำคัญ คือ ความสามารถในการสื่อสารซึ่งเป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร และประสบการณ์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551: 4) โดยกำหนดให้ภาษาอังกฤษอยู่ในกลุ่มสาระ

การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ประกอบด้วย 4 สาระ ได้แก่ ภาษาเพื่อการสื่อสาร ภาษาและวัฒนธรรม ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก ซึ่งการเรียนภาษาต่างประเทศจะแตกต่างจากการเรียนสาระการเรียนรู้อื่น เนื่องจากผู้เรียนไม่ได้เรียนภาษาเพื่อความรู้เกี่ยวกับภาษาเท่านั้น แต่เรียนภาษาเพื่อให้สามารถใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นได้ตามความต้องการในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในชีวิตประจำวันและการงานอาชีพ

จากการจัดการเรียนการสอนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) เทศบาลนครตรัง ในปีการศึกษา 2559 และ 2560 พบว่า มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 68.92 และ 71.15 ตามลำดับ ซึ่งไม่เป็นไปตามเป้าหมายตามแผนพัฒนาภาษาอังกฤษของโรงเรียนที่กำหนดไว้ ร้อยละ 75 เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดจะเห็นได้ว่า มาตรฐาน 1.1 ตัวชี้วัด ป 3/4 บอกใจความสำคัญ และตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา และนิทานง่ายๆ หรือ เรื่องสั้นๆ มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับน้อยที่สุด ซึ่งอาจเป็นผลเนื่องมาจาก นักเรียนได้รับการฝึกทักษะการอ่านนอกเวลาเรียนน้อยมาก ผู้ปกครองไม่สามารถช่วยแนะนำเพิ่มเติมให้ได้เพราะส่วนใหญ่ทำงานรับจ้างและค้าขาย อีกทั้งห้องสมุดของโรงเรียนมีหนังสือส่งเสริมการอ่านที่เป็นภาษาอังกฤษน้อยมาก ไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาทักษะการอ่านซึ่งส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนอีกด้วย

ผู้รายงานจึงค้นคว้าศึกษาเอกสารและงานวิจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ พบว่า พัชรี ตองตาสี และคณะ (2559: 133) ได้ศึกษาการพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง Welcome to the Wonderful Land of Nongkhai โดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 29 คน พบว่า ความสามารถทางการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนที่เรียนภาษาอังกฤษโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง Welcome to the Wonderful Land of Nongkhai โดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และ อุไรวรรณ อนุรักษ์ (2560: ออนไลน์) ศึกษาการพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด Hello Nakhon Si Thammarat เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สำนักการศึกษา เทศบาลนครนครศรีธรรมราชซึ่งการพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด Hello Nakhon Si Thammarat เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผลการวิจัยพบว่า ทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการสอน โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด Hello Nakhon Si Thammarat กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งสอดคล้องกับที่ เอื้อสุภา ส่องสว่าง (2551: 14) ได้ให้ความหมายไว้ว่า หนังสือส่งเสริมการอ่านเป็นหนังสือที่เขียนขึ้นเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับเด็ก ช่วยฝึกทักษะและพัฒนาการอ่าน

ดังนั้น ผู้รายงานซึ่งเป็นครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

จึงสร้างหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับจังหวัดตรังซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวและเหมาะสมกับวัยของนักเรียน เพื่อจะช่วยให้มีทักษะการอ่านภาษาอังกฤษและเข้าใจเนื้อเรื่องที่อ่าน รวมทั้งเป็นการสร้างความตระหนักแก่นักเรียนให้รักและหวงแหนท้องถิ่นของตน ตลอดจนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

วัตถุประสงค์การศึกษา

การพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์ ดังนี้

1. ศึกษาประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง กลุ่มสาระ

การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ 80/80

2. เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

3. ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

สมมุติฐานการศึกษา

การพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีสมมติฐานการศึกษา ดังนี้

1. หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80

2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนเฉลี่ย

หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

อยู่ในระดับมาก

ขอบเขตของการศึกษา

1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

1.1 ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) เทศบาลนครตรัง ที่ศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 65 คน

1.2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) เทศบาลนครตรัง ที่ศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่ายเป็นการเลือกแบบเจาะจง จำนวน...33...คน

2. ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา

2.1 ตัวแปรต้น ได้แก่ หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง กลุ่มสาระ

การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

2.2 ตัวแปรตาม ได้แก่

2.2.1 ประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

2.2.2 คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

2.2.3 ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

3. ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 ใช้เวลา 22 ชั่วโมง (รวมการทดสอบก่อนเรียน

และหลังเรียน) ครั้งละ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 17 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2561 ถึงวันที่ 21 เดือนกันยายน พ.ศ. 2561

4. เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา

4.1 หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 เล่ม

4.2 แบบทดสอบ เรื่อง Trang Story ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ จำนวน 30 ข้อ

4.3 แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 1 ฉบับ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ

จำนวน 10 ข้อ

5. เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษา

เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ตามสาระการเรียนรู้ มาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ประกอบด้วย

เล่มที่ 1 Trang Story

เล่มที่ 2 Trang Morning

เล่มที่ 3 Trang Menu

เล่มที่ 4 Trang Tour

เล่มที่ 5 Trang Andaman Gateway

นิยามศัพท์เฉพาะ

1. หนังสือส่งเสริมการอ่าน หมายถึง หนังสือที่เขียนและเรียบเรียงเนื้อหาประกอบภาพเพิ่มเติมจากหนังสือเรียน

2. หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง หมายถึง หนังสือที่เขียนและเรียบเรียงเนื้อหาประกอบภาพเพิ่มเติมจากหนังสือเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 เล่ม ประกอบด้วย เล่มที่ 1 Trang Story เล่มที่ 2 Trang Morning เล่มที่ 3 Trang Menu เล่มที่ 4 Trang Tour และเล่มที่ 5 Trang Andaman Gateway ซึ่งในแต่ละเล่มหนังสือส่งเสริมการอ่านประกอบด้วย แบบทดสอบก่อนเรียน คำศัพท์ใหม่ เนื้อเรื่อง ใบความรู้ แบบฝึกหัด เฉลยแบบฝึกหัด แบบทดสอบหลังเรียน และแหล่งค้นคว้าเพิ่มเติม

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนที่ได้จากทักษะ ความรู้ มวลประสบการณ์โดยใช้แบบทดสอบ

4. ความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้สึกทางบวกของบุคคลที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ในที่นี้เป็นความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง โดยวัดจากแบบสอบถามความพึงพอใจ แบบประมาณค่า 5 อันดับ ได้แก่

มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด

5. ประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่าน หมายถึง คุณภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่านเมื่อนำไปใช้แล้วทำให้นักเรียนบรรลุตามที่กำหนดไว้ ตามเกณฑ์ 80/80 ซึ่งมีความหมายดังนี้

80 ตัวแรก หมายถึง คะแนนเฉลี่ยที่คิดเป็นร้อยละของคะแนนที่ได้จากการทำ

แบบทดสอบท้ายบทเรียนของนักเรียนทั้งหมด ที่ได้จากระหว่างเรียนของแต่ละเล่มของหนังสือส่งเสริมการอ่าน คิดเป็นร้อยละ 80 ของนักเรียนทั้งหมด

80 ตัวหลัง หมายถึง คะแนนเฉลี่ยที่คิดเป็นร้อยละของคะแนนที่ได้จากการทำ

แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนทั้งหมด ได้ถูกต้องร้อยละ 80

6. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ข้อสอบที่ใช้วัดผลการเรียนรู้

ของนักเรียน เรื่อง Trang Story กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ซึ่งเป็นข้อสอบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. ได้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด เล่าเรื่องเมืองตรัง ที่มีประสิทธิภาพและสามารถนำไปใช้จัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) เพิ่มขึ้น

3. เป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอนในการผลิตนวัตกรรมการเรียนการสอนเพื่อแก้ปัญหา

วิจัยชั้นเรียน สำหรับนักเรียนชั้นอื่น ๆ หรือกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น

โพสต์โดย แอ้ : [24 มิ.ย. 2562 เวลา 13:07 น.]
อ่าน [3488] ไอพี : 49.230.105.154
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 44,724 ครั้ง
มาแล้ว "ตารางสอบครูผู้ช่วย" สพฐ. 2/2558 (อย่างเป็นทางการ)
มาแล้ว "ตารางสอบครูผู้ช่วย" สพฐ. 2/2558 (อย่างเป็นทางการ)

เปิดอ่าน 15,538 ครั้ง
ทานหมูยอให้ปลอดภัย จากสารกันบูด
ทานหมูยอให้ปลอดภัย จากสารกันบูด

เปิดอ่าน 11,273 ครั้ง
โยคะดีกับผิว เหมาะกับวัย
โยคะดีกับผิว เหมาะกับวัย

เปิดอ่าน 52,212 ครั้ง
อนาคตของนักเรียน: ทักษะแรงงาน รายได้จากการทำงาน และโอกาสจากหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์
อนาคตของนักเรียน: ทักษะแรงงาน รายได้จากการทำงาน และโอกาสจากหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์

เปิดอ่าน 10,297 ครั้ง
ครูโซ่สอนตรีโกณมิติ ชิล ๆ ในแบบบอดี้สแลม !
ครูโซ่สอนตรีโกณมิติ ชิล ๆ ในแบบบอดี้สแลม !

เปิดอ่าน 22,729 ครั้ง
เทคนิคการคูณแบบญี่ปุ่น ลองฝึกดูครับ
เทคนิคการคูณแบบญี่ปุ่น ลองฝึกดูครับ

เปิดอ่าน 249,408 ครั้ง
การกล่าวแสดงความยินดี : Congratulations
การกล่าวแสดงความยินดี : Congratulations

เปิดอ่าน 8,316 ครั้ง
จริงหรือที่คนมีสมองขนาดใหญ่ฉลาดมากกว่าคนที่มีสมองขนาดเล็ก ? หาคำตอบได้ที่นี่!
จริงหรือที่คนมีสมองขนาดใหญ่ฉลาดมากกว่าคนที่มีสมองขนาดเล็ก ? หาคำตอบได้ที่นี่!

เปิดอ่าน 15,350 ครั้ง
สะกดชื่อเป็นภาษาอังกฤษผ่านทางโทรศัพท์แล้วฟังกันไม่รู้เรื่องใช่มั๊ย เรามีทางช่วย
สะกดชื่อเป็นภาษาอังกฤษผ่านทางโทรศัพท์แล้วฟังกันไม่รู้เรื่องใช่มั๊ย เรามีทางช่วย

เปิดอ่าน 13,527 ครั้ง
วิธีแก้เคราะห์ สะเดาะกรรมให้ร่ำรวย
วิธีแก้เคราะห์ สะเดาะกรรมให้ร่ำรวย

เปิดอ่าน 13,408 ครั้ง
กฎเหล็กที่ควรรู้ หากอยากมีหุ่นสุดเป๊ะ
กฎเหล็กที่ควรรู้ หากอยากมีหุ่นสุดเป๊ะ

เปิดอ่าน 26,705 ครั้ง
การพัฒนาการวิจัยโดยใช้รูปแบบ
การพัฒนาการวิจัยโดยใช้รูปแบบ

เปิดอ่าน 18,692 ครั้ง
แกัวมังกร สุดยอดผลไม้เพื่อสุขภาพ
แกัวมังกร สุดยอดผลไม้เพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 20,480 ครั้ง
"ลัดดา แทมมี่ ดัคเวิร์ธ" ส.ส.หญิงเชื้อสายไทยคนแรกเข้าสภาคองเกรส
"ลัดดา แทมมี่ ดัคเวิร์ธ" ส.ส.หญิงเชื้อสายไทยคนแรกเข้าสภาคองเกรส

เปิดอ่าน 17,958 ครั้ง
ไม้มงคลประจำวันเกิด ปลูกเสริมโชคลาภ
ไม้มงคลประจำวันเกิด ปลูกเสริมโชคลาภ

เปิดอ่าน 12,521 ครั้ง
ยากับน้ำผลไม้ อันตรายกว่าที่คิด
ยากับน้ำผลไม้ อันตรายกว่าที่คิด
เปิดอ่าน 1,944 ครั้ง
บัตรเลือกตั้ง 2566
บัตรเลือกตั้ง 2566
เปิดอ่าน 37,634 ครั้ง
ครม.ตั้ง "จ.บึงกาฬ" จังหวัดที่77 แยกจากหนองคาย
ครม.ตั้ง "จ.บึงกาฬ" จังหวัดที่77 แยกจากหนองคาย
เปิดอ่าน 13,957 ครั้ง
การซักแห้งดีกว่าการซักน้ำอย่างไร
การซักแห้งดีกว่าการซักน้ำอย่างไร
เปิดอ่าน 8,112 ครั้ง
กูเกิลทำแว่นวิเศษ
กูเกิลทำแว่นวิเศษ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ