บทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินโครงการส่งเสริมสุขภาพนักเรียน และบุคลากรโรงเรียนบ้านเขาตาอิ๋น จังหวัดระยอง โดยประยุกต์ใช้การประเมินตามรูปแบบซิปโมเดล (CIPP Model) กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาจำนวน 59 คน ได้มาโดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) และวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) จากประชากรผู้ปกครองนักเรียนในโรงเรียนบ้านเขาตาอิ๋น จังหวัดระยอง เครื่องมือ ที่ใช้ในการประเมินได้แก่ แบบประเมินโครงการ แบบสอบถามความพึงพอใจ และแบบสอบถาม ความคิดเห็น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการประเมินปรากฏดังนี้
1. ผลการประเมินโครงการ โดยรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก
2. ผลการประเมินด้านบริบทโรงเรียน โดยรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก และพบว่า หัวข้อวัตถุประสงค์ของโครงการเข้าใจได้ชัดเจน ทราบนโยบายที่เกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพของโรงเรียน การวางแผนโครงการสอดคล้องกับปัญหาของนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียน โรงเรียนมีการแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมสุขภาพของโรงเรียน และต้องการดำเนินงานโครงการส่งเสริมสุขภาพนักเรียน และบุคลากรในโรงเรียนบ้านเขาตาอิ๋น จังหวัดระยอง มีผลการประเมินในระดับมากที่สุด ส่วนหัวข้ออื่น ๆ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก
3. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ โดยรวมมีผลการประเมินยู่ในระดับมาก และพบว่า หัวข้อนักเรียนแกนนำส่งเสริมสุขภาพมีจำนวนเพียงพอกับการปฏิบัติงานตามโครงการ และผู้บริหารโรงเรียนให้การสนับสนุนโครงการ มีผลการประเมินในระดับมากที่สุด ส่วนหัวข้ออื่น ๆ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ยกเว้นมีงบประมาณในการสนับสนุนโครงการอย่างเพียงพอมีผลการประเมินอยู่ในระดับปานกลาง
4. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินงานโครงการ โดยรวมมีผลการประเมินอยู่ใน
ระดับมาก และพบว่า เรื่องการดำเนินงานทั่วไป และเรื่องการจัดสิ่งแวดล้อมที่ถูกสุขลักษณะมีผลการประเมินในระดับมากที่สุด ส่วนเรื่องอื่น ๆ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก
5. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการ พบว่า
5.1 ผลการดำเนินโครงการส่งเสริมสุขภาพนักเรียนและบุคลากรโรงเรียนบ้านเขาตาอิ๋น จังหวัดระยอง มีความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ในระดับมากที่สุด
5.2 การจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพตามวัตถุประสงค์โครงการ พบว่า โรงเรียนจัดกิจกรรม ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด ร้อยละ 100
6. ผลสำรวจการส่งเสริมสุขภาพอนามัยตามสภาพจริง พบว่า ด้านมาตรฐานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ด้านโภชนาการ ด้านอนามัย ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดร้อยละ 70 ทุกด้าน
7. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และพบว่า เรื่องที่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ โรงเรียนมีสนามกีฬา สนามเด็กเล่นจัดเป็นสัดส่วน มีอ่างล้างมือ สะอาด อยู่ในสภาพดี มีน้ำพอใช้ มีห้องน้ำห้องส้วมสะอาด และเพียงพอต่อนักเรียน มีการประชาสัมพันธ์การป้องกันตนเองเมื่อมีโรคระบาดให้ครู นักเรียน และบุคลากรในโรงเรียนทราบอย่างต่อเนื่อง มีการตรวจร่างกายนักเรียนประจำปีโดยแพทย์ และครูสอนเรื่อง ความปลอดภัยในโรงเรียน ส่วนเรื่องอื่น ๆ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
8. ผลการประเมินความคิดเห็นของผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษา พบว่า มีความเห็นว่าโรงเรียนมีการปฏิบัติผ่านเกณฑ์ที่กำหนดร้อยละ 70 ทุกหัวข้อ โดยกิจกรรมที่โรงเรียนปฏิบัติผ่านเกณฑ์และมีการปฏิบัติ ร้อยละ100 คือ โรงเรียนมีศูนย์บริการข่าวสารทางด้านสุขภาพให้กับนักเรียนและชุมชน โรงเรียนได้ส่งเสริมนักเรียนเป็นแบบอย่างที่ดีด้านสุขภาพให้กับชุมชน โรงเรียนอนุญาตให้นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนใช้สถานที่ สนามกีฬาเพื่อการออกกำลังกายและการแข่งขันกีฬา โรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันด้านสุขภาพในระดับต่าง ๆ ส่วนเรื่องในวันประชุมผู้ปกครองทางโรงเรียนแจ้งข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพให้ทราบ พบว่ามีการปฏิบัติเป็นอันดับต่ำสุด
9. สรุปปัญหาและอุปสรรค เรียงตามความต้องการโดยให้โรงเรียนดำเนินการตามความถี่จากมากไปน้อย ดังนี้ โรงเรียนควรดำเนินการโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง นักเรียนยังปฏิบัติไม่สม่ำเสมอในการรักษาความสะอาด มีการประชาสัมพันธ์โครงการน้อยเกินไป ควรแบ่งเขตพื้นที่ความรับผิดชอบให้ชัดเจน ควรจัดเสียงตามสายเรื่องสุขภาพอนามัย ควรมีการประกวดห้องเรียนสะอาดและให้รางวัลทุก ๆ เดือน ควรจ้างบริษัททำความสะอาดห้องน้ำห้องส้วมโดยเฉพาะ ครูควรเป็นต้นแบบที่ดีและฝึกให้นักเรียนรักษาความสะอาด ควรเผยแพร่ผลงานสู่ชุมชน ควรมีการจัดกิจกรรมด้านส่งเสริมสุขภาพร่วมกับชุมชนให้มากขึ้น ครูควรไปเยี่ยมบ้านเพื่อศึกษาปัญหาด้านสุขภาพนักเรียนให้มากขึ้น ควรหาบุคลากรที่มารับผิดชอบการจัดกิจกรรมทำอาหารกลางวันโดยเฉพาะ ควรจัดหางบประมาณให้เพียงพอสำหรับแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารกลางวันของนักเรียนยากจน เพื่อลดปัญหาการขาดสารอาหารในเด็กนักเรียน ควรมีการประชุมเกี่ยวกับการดูแลและส่งเสริมสุขภาพ ระหว่างครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา อย่างน้อยภาคเรียนละ 2 ครั้ง และควรให้ขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน