ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านบาเละฮิเล) เทศบาลเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียน

เป็นฐานของโรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านบาเละฮิเล) เทศบาลเมือง

นราธิวาส จังหวัดนราธิวาส

ผู้วิจัย วรนุช แซ่เดี่ยว ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา

โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านบาเละฮิเล) เทศบาลเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส

ปีที่ศึกษา ๒๕๖๐

บทคัดย่อ

ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนเทศบาล 2 (บ้านบาเละฮิเล) โดยมีกลุ่มเป้าหมายในการนำเสนอผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านบาเละฮิเล) ได้แก่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษา จำนวน 47 คน ประกอบด้วย คณะผู้บริหารเทศบาลเมือง นราธิวาส ครูปฏิบัติการสอนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 12 คน คณะกรรมการสถานศึกษาจำนวน 15 คน ผู้ปกครองนักเรียนจำนวน 12 คน และนักวิชาการศึกษานิเทศก์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันและความต้องการการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการ

โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน แบบสัมภาษณ์เกี่ยวกับความต้องการและแนวทางการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน คู่มือรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน

แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานด้วยการทดสอบค่าที (t-test) จากการวิจัยสรุปผลการวิจัยได้ต่อไปนี้

1 ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันความต้องการและแนวทางของการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ของโรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านบาเละฮิเล) พบว่า สภาพปัจจุบันของการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ตามความคิดเห็นของครูผู้สอนอยู่ในระดับปานกลาง (π =2.92) ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนรู้จากแหล่งการเรียนรู้ รองลงมาคือ การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนรู้จากเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนรู้จากกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ และการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนรู้จากหลักสูตรสถานศึกษา ส่วนความต้องการในการพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (π =4.54) โดยที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนรู้จากแหล่งการเรียนรู้ รองลงมาคือ การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนรู้จากเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนรู้จากกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ และการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนรู้จากหลักสูตรสถานศึกษา ความต้องการและแนวทางในการจัดการเรียนรู้จากการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ สรุปได้ว่า การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานเป็นการจัดการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และสอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552 - 2561) การเรียนรู้ตลอดชีวิตเกิดจากการผสมผสานระหว่างการศึกษาในระบบการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย แนวทางที่ควรจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิตในโรงเรียนต้องเป็นแนวทางที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามความสนใจและจะต้องให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองมากที่สุด โดยโรงเรียนจะจัดแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย จัดสภาพแวดล้อมห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ ห้องสมุดที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ให้ผู้เรียน และควรกำหนดไว้ในโครงสร้างหลักสูตรหรือแผนปฏิบัติการของโรงเรียน

จากการสังเคราะห์องค์ประกอบหลักเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ผู้วิจัยได้นำข้อมูลจากการศึกษาในขั้นที่ 1-3 มาสังเคราะห์รูปแบบการจัดการเรียนรู้ใน

การบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ของโรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านบาเละฮิเล) ดังนี้

องค์ประกอบที่ 1 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนรู้จากหลักสูตรสถานศึกษา

องค์ประกอบที่ 2 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนจากเทคโนโลยีสารสนเทศ

องค์ประกอบที่ 3 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนจากกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ และ

องค์ประกอบที่ 4 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนจากแหล่งเรียนรู้

2. ผลการสร้างรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านบาเละฮิเล) ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ 8 แนวทาง 48 รายการ ดังนี้ องค์ประกอบที่ 1 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนรู้จากหลักสูตรสถานศึกษา แนวทางที่ 1 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยรายวิชาเพิ่มเติมมี 6 รายการแนวทางที่ 2 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยกิจกรรมชุมนุมกลุ่มสนใจมี 13 รายการองค์ประกอบที่ 2 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนจากเทคโนโลยีสารสนเทศ แนวทางที่ 1 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ตมี 2 รายการ

แนวทางที่ 2 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานจากสื่อเทคโนโลยีทางการศึกษามี 2 รายการองค์ประกอบที่ 3 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้แนวทางที่ 1 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานจากกิจกรรมการอบรมระยะสั้นมี 7 รายการ แนวทางที่ 2 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานจากกิจกรรมค่ายวิชาการมี 4 รายการแนวทางที่ 3 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานจากกิจกรรมเสริมหลักสูตรมี 5 รายการองค์ประกอบที่ 4 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการเรียนจากแหล่งเรียนรู้ แนวทางที่ 1 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานจากแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนมี 5 รายการแนวทางที่ 2 การจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานจากแหล่งเรียนรู้นอกโรงเรียนมี 4 รายการ การสร้างคู่มือการดำเนินการตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนเทศบาล 2 บ้านบาเละฮิเลประกอบด้วยส่วนสำคัญดังต่อไปนี้ 1 หลักการและเหตุผล 2 วัตถุประสงค์ 3 ข้อจำกัดในการนำคู่มือไปใช้ 4 วิธีดำเนินการตามรูปแบบ 5 เงื่อนไขความสำเร็จของรูปแบบ 6 บรรณานุกรม 7 ภาคผนวก ผลการประเมินคู่มือการดำเนินการตามรูปแบบจากการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อพิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียน เป็นฐาน ของโรงเรียนเทศบาล 2 บ้านบาเละฮีเลสรุปได้ดังนี้ 1 คู่มือรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนเทศบาล 2 บ้านบาเละฮีเลที่สร้างขึ้นมีความสอดคล้องกับหลักการแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาตลอดชีวิตและพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542

2 โครงร่างของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนเทศบาล 2 บ้านบาเละฮิเลมีความเหมาะสมชัดเจนแต่ควรลดกิจกรรมในแต่ละรูปแบบและเขียนคำอธิบายการดำเนินการให้ชัดเจน 3 โครงร่างรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนเทศบาล 2 บ้านบาเละฮิเลสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับนักเรียนได้เนื่องจาก เป็นรูปแบบที่ได้เรียนรู้กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริง เรียนรู้จากการปฏิบัติด้วยตนเองมีกิจกรรมหรือการเรียนรู้ ให้นักเรียนเลือกเรียนหลากหลายและมีประโยชน์กับครูเนื่องจากครูได้มีแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายส่วนประสิทธิภาพในการดำเนินงานขึ้นอยู่กับบริบทและการบริหารของโรงเรียน 4 องค์ประกอบและกิจกรรมในรูปแบบนั้นมีเพียงพอต่อการจัดกิจกรรมไม่ควรมีมากกว่านี้เพราะจะทำให้เป็นภาระในการจัดการเรียนการสอนของครูและนักเรียน

3 ผลการทดลองใช้รูปแบบจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนเทศบาล 2 บ้านบาเละฮิเลมีดังนี้ 3.1 ผลการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของครูปฏิบัติการ 2 ระดับ ชั้นมัธยม ศึกษา ปีที่ 1-3 ของโรงเรียน เทศบาล 2 บ้านบาเละฮิเลพบว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานโดยภาพรวมมีการปฏิบัติ/ เห็นด้วยอยู่ในระดับมากที่สุด (π =4.53) 3.2 ผลการศึกษาความพึงพอใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 (บ้านบาเละฮิเล)พบว่าความพึงพอใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 บ้านบาเละฮิเลโดยภาพรวมมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานอยู่ในระดับมากที่สุด(π=4.55)

4 ผลการนำเสนอผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของโรงเรียนเทศบาล 2 (บ้านบาเละฮิเล)ผู้วิจัยได้ดำเนินการประชาพิจารณ์ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนและศึกษาความคิดเห็นผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาโรงเรียนเทศบาล 2 บ้านบาเละฮิเลพบว่าโดยภาพรวมเห็นด้วยกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในการจัดบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานอยู่ในระดับมากที่สุด (π=4.70)

โพสต์โดย วรนุช : [2 มี.ค. 2562 เวลา 18:17 น.]
อ่าน [3217] ไอพี : 182.232.41.44
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 37,755 ครั้ง
สูตรลับการคูณแม่ 9 โดยใช้นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว(สุดยอดครับ)
สูตรลับการคูณแม่ 9 โดยใช้นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว(สุดยอดครับ)

เปิดอ่าน 14,052 ครั้ง
ADSL ทำงานอย่างไร?
ADSL ทำงานอย่างไร?

เปิดอ่าน 11,495 ครั้ง
วัคซีน"หวัด09"เข็มเดียวอยู่
วัคซีน"หวัด09"เข็มเดียวอยู่

เปิดอ่าน 21,601 ครั้ง
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน
สมุนไพร"บัวบก"คุณค่าที่มากกว่าแก้ช้ำใน

เปิดอ่าน 7,790 ครั้ง
สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตของสัตว์
สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตของสัตว์

เปิดอ่าน 24,807 ครั้ง
สรภัญตารางธาตุ
สรภัญตารางธาตุ

เปิดอ่าน 12,217 ครั้ง
สูตรการเรียนเก่ง จากท่าน ว.วชิรเมธี
สูตรการเรียนเก่ง จากท่าน ว.วชิรเมธี

เปิดอ่าน 110,034 ครั้ง
วิธีการปลูกพืชผัก
วิธีการปลูกพืชผัก

เปิดอ่าน 19,498 ครั้ง
แคะกระปุกเช็กด่วน! ใครมีเหรียญ 5 บาทผลิตปี 2540 ขายได้เหรียญละ 1,500 บาท
แคะกระปุกเช็กด่วน! ใครมีเหรียญ 5 บาทผลิตปี 2540 ขายได้เหรียญละ 1,500 บาท

เปิดอ่าน 7,813 ครั้ง
การศึกษาในศตวรรษที่ 21 รร.ต้องร่างหลักสูตรให้เด็กเป็นผู้บริหาร
การศึกษาในศตวรรษที่ 21 รร.ต้องร่างหลักสูตรให้เด็กเป็นผู้บริหาร

เปิดอ่าน 9,932 ครั้ง
แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม อีกหนึ่งอาการที่ไม่ควรมองข้าม
แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม อีกหนึ่งอาการที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 26,949 ครั้ง
ลอการิทมิกธรรมชาติ
ลอการิทมิกธรรมชาติ

เปิดอ่าน 12,648 ครั้ง
กรมอุตุฯเตือนภัยพายุฤดูร้อนในประเทศไทย
กรมอุตุฯเตือนภัยพายุฤดูร้อนในประเทศไทย

เปิดอ่าน 28,765 ครั้ง
ชมกันหรือยัง? เทคนิคการสอน ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom)
ชมกันหรือยัง? เทคนิคการสอน ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom)

เปิดอ่าน 20,298 ครั้ง
ประวัติจังหวัดอำนาจเจริญ
ประวัติจังหวัดอำนาจเจริญ

เปิดอ่าน 26,425 ครั้ง
กิจกรรมไขปริศนาทางวิทยาศาสตร์ตรงตามกลุ่มสาระ
กิจกรรมไขปริศนาทางวิทยาศาสตร์ตรงตามกลุ่มสาระ
เปิดอ่าน 21,044 ครั้ง
การใช้ใบเสร็จรับเงินจากช่องทางการให้บริการด้านอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักฐานในการประกอบการเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ว 34)
การใช้ใบเสร็จรับเงินจากช่องทางการให้บริการด้านอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักฐานในการประกอบการเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ว 34)
เปิดอ่าน 17,094 ครั้ง
กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?
กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?
เปิดอ่าน 12,405 ครั้ง
ว่านชักมดลูก
ว่านชักมดลูก
เปิดอ่าน 14,685 ครั้ง
ภาพหาชมยาก! "ลูกเพียงพอน" ขี่หลัง "นกหัวขวาน"
ภาพหาชมยาก! "ลูกเพียงพอน" ขี่หลัง "นกหัวขวาน"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ