วรรธนะ ศรีบุ่งง้าว. (2560). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิด
แก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 5
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) ทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 4) ประเมินและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยเปรียบเทียบผลการเรียนทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และ 5)ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดมหาธาตุวรวิหาร) สังกัดเทศบาลเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 2 ห้องเรียน รวม 75 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จานวน 1 ห้องเรียน 38 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ แบบประเมินผลการเรียนทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบวัดทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบวัดเจตคติต่อการเรียนวิทยาศาสตร์ และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (
X
) ร้อยละ (%) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) การทดสอบค่าที t-test for dependent และ การวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความสอดคล้องกับนโยบายการจัดการศึกษาในปัจจุบัน เป็นการจัดการเรียน การสอนที่สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียน สามารถพัฒนานักเรียน ให้เกิดทักษะในตนเอง นักเรียนได้มีบทบาทสาคัญในการฝึกฝนทักษะการคิด ได้เรียนรู้จากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวไปสู่สิ่งที่อยู่
ไกลตัว ได้ลงมือปฏิบัติจริง การนาสถานการณ์ในชีวิตจริงมาบูรณาการในการจัดการเรียนการสอน ช่วยให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์
2. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่ารูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น มีองค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ สาระความรู้ และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการเรียนการสอน ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน ซึ่งมีกระบวนการเรียนการสอน 6 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1) ขั้นเตรียมความพร้อมและกระตุ้นจูงใจในการเรียน2) ขั้นเรียนรู้กระบวนการคิดโดยฝึกปฏิบัติ 3) ขั้นจัดระเบียบความรู้ 4) ขั้นประยุกต์ใช้กระบวนการคิด 5) ขั้นสรุป และ 6) ขั้นประเมินผล รูปแบบ การเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ 7 ท่าน มีค่าดัชนีความสอดคล้องของรูปแบบการเรียนการสอน เท่ากับ 0.71-1.00 ค่าประสิทธิภาพแบบรายบุคคล (Individual Tryout) มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 67.95/66.66 ค่าประสิทธิภาพแบบกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 70.70/70.98 ค่าประสิทธิภาพแบบภาคสนาม (Field Tryout) มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 74.85/75.00
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 นาไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดมหาธาตุวรวิหาร) สังกัดเทศบาลเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี จานวน 38 คน รวมระยะเวลาในการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนทั้งหมด 6 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง รวม 18 ชั่วโมง ในการทดลองนั้นผู้วิจัยเป็นผู้ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามแผนการจัดการเรียนรู้ และเมื่อทดสอบหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ ได้ค่าประสิทธิภาพจากการทดลองกับ กลุ่มตัวอย่าง มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 77.59/76.07 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 75/75 ปรากฏว่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กาหนดไว้ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 1
4. ผลการประเมินและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งผลการประเมิน ผลการเรียนทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วย ค่าเฉลี่ยคะแนน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ค่าเฉลี่ยคะแนนด้านทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ จาแนกตามขั้นตอนการคิด หลังเรียน พบว่า นักเรียนมีความสามารถในทักษะการคิดหลังเรียนอยู่ในระดับสูง ค่าเฉลี่ยคะแนนด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01และค่าเฉลี่ยคะแนนเจตคติต่อการเรียนวิทยาศาสตร์หลังเรียนอยู่ในระดับสูงและความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ ผลการเรียน พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนการสอน เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ อยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อแยกเป็นรายข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ บรรยากาศในการ
เรียน ไม่ตึงเครียด รูปแบบการเรียน การสอนนี้ ทาให้นักเรียนเรียนรู้ได้ตลอดเวลา รูปแบบการเรียนการสอนนี้ สามารถพัฒนาวิธีการแสวงหาความรู้ เพิ่มเติมได้ และนักเรียนชอบเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนนี้