บทคัดย่อ
การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารวิชาการโรงเรียนบัวน้อยวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารวิชาการของโรงเรียนบัวน้อยวิทยา ผู้วิจัยนำเสนอผลการวิจัยเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ด้วยการศึกษาเอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารวิชาการโรงเรียนบัวน้อยวิทยา ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงร่างรูปแบบการบริหารวิชาการให้สอดคล้องกับข้อมูลพื้นฐาน องค์ประกอบ ความต้องการ และความจำเป็น และยกร่างรูปแบบ และประเมินความเหมาะสม โดยผู้เชี่ยวชาญ ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการบริหารวิชาการโรงเรียนบัวน้อยวิทยากับกลุ่มเป้าหมายนักเรียน 89 คน ขั้นตอนที่ 4 การประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารวิชาการโรงเรียนบัวน้อย และความพึงพอใจของครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองและนักเรียน
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และ นักเรียนโรงเรียนบัวน้อยวิทยา ปีการศึกษา 2559 จำนวน 32 คน โดยการจำแนกกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 3 กลุ่ม 1) ครูที่ปฏิบัติหน้าที่การสอน ในปีการศึกษา 2560 จำนวน 12 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 12 คน 2 ) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบัวน้อยวิทยา ปีการศึกษา 2560 จำนวน 89 คน โดยการสุ่มอย่างง่าย จำนวน 12 คน 3) คณะกรรมการสถานศึกษาจำนวน 9 คน และผู้ปกครองนักเรียนจำนวน 89 คน รวม 110 คน โดยการเลือกสุ่มอย่างง่าย จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบประเมินความพึงพอใจของครูที่มีต่อการใช้รูปแบบการบริหารวิชาการของโรงเรียนบัวน้อยวิทยา เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.63 - 0.85 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.96 2) แบบประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการบริหารวิชาการของโรงเรียนบัวน้อยวิทยา เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.63 - 0.85 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.84 3) แบบรายงานผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน4) แบบรายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1) ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการบริหารวิชาการโรงเรียนบัวน้อยวิทยา โดยรวม อยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.71, S.D. = 0.49) โดยด้านปัจจัยนำ อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.58, S.D. = 0.54) ด้านกระบวนการอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.57, S.D. = 0.53) และด้านผลผลิต อยู่ในระดับมากที่สุด
2) ผลการประเมินความพึงพอใจของครูที่มีต่อการบริหารวิชาการของโรงเรียนบัวน้อยวิทยา โดยใช้ BUANOI TEAM Model โดยรวมอยู่ในระดับ มาก ( = 4.47 ,SD.= 0.66)
3) ผลการใช้รูปแบบการบริหารวิชาการของโรงเรียนบัวน้อยวิทยาโดยใช้ BUANOI TEAM Model ปรากฏดังนี้
3.1) ความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการบริหารวิชาการของโรงเรียนบัวน้อยวิทยา ในภาพรวม อยู่ในระดับ มาก ( = 4.50 ,SD. = 0.68)
3.2) ผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน(O-net) ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2560 เฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศ จำนวน 2 วิชา
3.3 ) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ระดับดีขึ้นไปคิดเป็นร้อยละ สูงกว่าค่าเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา