ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การศึกษาภาพความสำเร็จของการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโรงเรียนนาหนังพัฒนศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

ชื่อเรื่อง : การศึกษาภาพความสำเร็จของการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง โรงเรียนนาหนังพัฒนศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21

ชื่อผู้รายงาน : นายสลับ หัดคำหมื่น

ปีที่รายงาน : พ.ศ. 2562

---------------------------------------------------------------------------

การวิจัยนี้เป็นการศึกษาภาพความสำเร็จของการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษาภาพความสำเร็จของการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) เพื่อศึกษา (1) ผลการดำเนินการตามกระบวนการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา (2) ความสำเร็จของการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (3)ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของโรงเรียนนาหนังพัฒนศึกษาที่มีการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย คือ ผู้บริหารและครูบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนนาหนังพัฒนศึกษา ปีการศึกษา 2560 จำนวน 26 คน นักเรียน จำนวน 438 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 438 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนนาหนังพัฒนศึกษา จำนวน 15 คน โดยได้กำหนดจำนวน 100 คน ดังนี้ ผู้บริหารและครูบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 26 คน นักเรียน จำนวน 44 คน แบ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 30 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 14 คน ชุมชน จำนวน 30 คน ผลการเก็บรวบรวมข้อมูล พบว่าได้รับแบบสอบถามกลับคืนจำนวนทั้งสิ้น 100 ชุด คิดเป็นอัตราร้อยละ 100 และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงบรรยายการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) แบบ Enter และแบบ Stepwise

สรุปผลการวิจัย

1. ผลการดำเนินการตามกระบวนการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาจำแนกตามประเภทของโรงเรียน ซึ่งประกอบด้วยปัจจัย 5 ด้าน ได้แก่ (1.1) ด้านการบริหารจัดการ (1.2) ด้านหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน (1.3) ด้านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (1.4) ด้านกิจกรรมพัฒนาบุคลากร และ (1.5) ด้านการสร้างเครือข่ายและขยายผล โดยภาพรวม พบว่า ผลการดำเนินการตามกระบวนการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาในภาพรวมมีความคิดเห็นในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน

2. ระดับความสำเร็จของการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนที่มีการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยพิจารณาจาก (1) คุณภาพของผู้เรียน โดยดูจาก (1.1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ได้แก่ คะแนน O-NET และ คะแนน GPA (1.2)สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (1.3) คุณลักษณะของผู้เรียน (2) การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนและ (3) การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในชุมชน มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

(1) คุณภาพของผู้เรียน

(1.1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ก. คะแนน O-NET

เมื่อพิจารณาคะแนน O-NET เฉลี่ยของนักเรียนระดับชั้น ม.3 พบว่า คะแนนเฉลี่ย O-NET ของนักเรียนระดับชั้น ม.3 ปีการศึกษา 2560 มีคะแนนเฉลี่ย(x̄ = 32.06) น้อยกว่าปีการศึกษา 2557 ที่มีคะแนนเฉลี่ย(x̄ = 34.70)โดยมีผลต่างเท่ากับมีคะแนนเฉลี่ย( x̄= -2.63) และเมื่อเทียบกับคะแนนเฉลี่ยระดับเขตพื้นที่ พบว่า ปีการศึกษา 2560 มีคะแนนเฉลี่ย( x̄= 34.48) น้อยกว่าปีการศึกษา 2557 ที่มีคะแนนเฉลี่ย(x̄ = 39.58)โดยมีผลต่างเท่ากับมีคะแนนเฉลี่ย(x̄ = -5.10) เมื่อพิจารณาคะแนน O-NET เฉลี่ยของนักเรียนระดับชั้น ม.6 พบว่า คะแนนเฉลี่ย O-NET ของนักเรียนระดับชั้น ม.6 ปีการศึกษา 2560 มีคะแนนเฉลี่ย( x̄= 28.42 ) น้อยกว่าปีการศึกษา 2557 ที่มีคะแนนเฉลี่ย(x̄ =29.97) โดยมีผลต่างเท่ากับมีคะแนนเฉลี่ย( x̄= -1.54)และเมื่อเทียบกับคะแนนเฉลี่ยระดับเขตพื้นที่ พบว่า ปีการศึกษา 2560 มีคะแนนเฉลี่ย(x̄ =33.41) น้อยกว่าปีการศึกษา 2557 ที่มีคะแนนเฉลี่ย(x̄ = 36.37)โดยมีผลต่างเท่ากับมีคะแนนเฉลี่ย(x̄ = -2.96)

ข. คะแนน GPA

เมื่อพิจารณาคะแนน GPA เฉลี่ยของนักเรียนระดับชั้น ม.3 พบว่า คะแนนเฉลี่ย GPA ของนักเรียนระดับชั้น ม.3 ปีการศึกษา 2560 มีคะแนนเฉลี่ย( x̄= 2.37 ) น้อยกว่าปีการศึกษา 2557 ที่มีคะแนนเฉลี่ย(x̄ = 2.52)โดยมีผลต่างเท่ากับมีคะแนนเฉลี่ย( x̄= -0.15) และคะแนนเฉลี่ย GPA ของนักเรียนระดับชั้น ม.6 พบว่า ปีการศึกษา 2560 มีคะแนนเฉลี่ย(x̄ = 2.68 ) น้อยกว่าปีการศึกษา 2557 ที่มีคะแนนเฉลี่ย(x̄ = 2.75)โดยมีผลต่างเท่ากับมีคะแนนเฉลี่ย( x̄= -0.07)

(1.2) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

โดยภาพรวมคะแนนสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนทั้ง 5 ด้าน อยู่ในระดับมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ย(x̄ = 4.33 ) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุดคือ ด้านการใช้เทคโนโลยี(x̄ = 4.60 ) รองลงมา คือ ด้านการแก้ปัญหา(x̄ = 4.54 ) ด้านการใช้ทักษะชีวิต( x̄= 4.50) ด้านการคิด ( x̄= 4.44 ) และ ด้านการสื่อสารมีคะแนนเฉลี่ย(x̄ =4.33)ตามลำดับ

(1.3) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน

โดยภาพรวมผลการวิเคราะห์คะแนนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนทั้ง 9 ด้านโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ย( x̄= 4.45 ) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุดคือ ด้านมีวินัย( x̄= 4.53) รองลงมา คือด้านใฝ่รู้ใฝ่เรียน (x̄ = 4.51 ) ด้านซื่อสัตย์ สุจริต ( x̄= 4.48 ) ด้านอยู่อย่างพอเพียง ( x̄= 4.46 ) ด้านมุ่งมั่นในการทำงาน (x̄ = 4.46 ) ด้านการมีสุขภาพกายสุขภาพจิตที่ดี ( x̄= 4.41 ) ด้านการมีจิตสาธารณะ (x̄ = 4.41 )ด้านรักความเป็นไทย ( x̄= 4.40 ) และด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์มีคะแนนเฉลี่ย( x̄= 4.30 ) ตามลำดับ

(2) การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน พบว่า ผลการวิเคราะห์คะแนนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน ซึ่งพิจารณาจากพฤติกรรมของผู้บริหารและครู ในการเข้าร่วมการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีคะแนนเฉลี่ย( x̄= 4.58 ) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุดคือ คุณลักษณะของบุคลากรภายในโรงเรียน( x̄= 4.65 )รองลงมา คือ คุณลักษณะของผู้บริหาร มีคะแนนเฉลี่ย(x̄ = 4.50 ) ตามลำดับ

(3) การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับชุมชน

(3.1) การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสมาชิกในชุมชนโดยภาพรวม พบว่า ผลการวิเคราะห์คะแนนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในชุมชน ในการเข้าร่วมการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ย(x̄ = 4.18 )

(3.2) ความพึงพอใจของชุมชน พบว่า ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของชุมชนต่อผลของการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาใน 5 ด้าน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ย(x̄ = 3.90 ) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุดคือ ด้านสภาพแวดล้อมโรงเรียน (x̄ = 4.57 ) รองลงมา คือ ด้านการจัดกิจกรรมบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ( x̄= 4.20 )ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน มีคะแนนเฉลี่ย(x̄ = 3.83 ) ด้านพฤติกรรมและคุณลักษณะของนักเรียน ( x̄= 3.60 ) และด้านความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน (x̄ = 3.30 )ตามลำดับ

3. ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการจัดการศึกษาของโรงเรียนนาหนังพัฒนศึกษาที่มีการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผู้วิจัยได้ใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ(Multiple regression analysis) แบบ enterและแบบ stepwise โดยใช้กระบวนการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา ซึ่งประกอบด้วยปัจจัย 5 ด้าน ได้แก่ด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา ด้านหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน ด้านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ด้านกิจกรรมพัฒนาบุคลากร และด้านการสร้างเครือข่ายและการขยายผล เป็นตัวแปรทำนาย พบว่า

(1) ด้านคุณภาพของผู้เรียน

(1.1) ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

(1.1.1) ตัวแปรค่าความแตกต่างของคะแนน O-NET ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างปีการศึกษา 2557 และ 2560 เป็นตัวแปรตาม ผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ แบบ Enter พบว่า ชุดของตัวแปรทำนายสามารถร่วมกันทำนายได้ร้อย48.6 ( x̄=.486)อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05

(1.1.2) ตัวแปรค่าความแตกต่างของคะแนน GPA ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างปีการศึกษา 2557 และ 2560 เป็นตัวแปรตามผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ แบบ Enter พบว่า ชุดของตัวแปรทำนายสามารถร่วมกันทำนายได้ร้อย 40.6 ( x̄=.406)อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 และเมื่อวิเคราะห์ด้วยการถดถอยพหุคูณ แบบ Stepwise พบว่า ตัวแปรด้านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนสามารถทำนายตัวแปรค่าความแตกต่างของคะแนน GPA ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างปีการศึกษา 2557 และ 2560 ได้ 34.5 (x̄ =.345)อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05

(1.1.3) ตัวแปรค่าความแตกต่างของคะแนน O-NET ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างปีการศึกษา 2557 และ 2560 เป็นตัวแปรตาม ผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ แบบ Enter พบว่า ชุดของตัวแปรทำนายสามารถร่วมกันทำนายได้ร้อย 69.6 (x̄ =.696)อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ

(1.1.4) ตัวแปรค่าความแตกต่างของคะแนน GPA ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างปีการศึกษา 2557 และ 2560 เป็นตัวแปรตามผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ แบบ Enter พบว่า ชุดของตัวแปรทำนายสามารถร่วมกันทำนายได้ร้อย 22.8 ( x̄=.228)อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ

(1.2) ด้านสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน

(1.2.1) ตัวแปรสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นตัวแปรตาม ผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ แบบ Enter พบว่า ชุดของตัวแปรทำนายสามารถร่วมกันทำนายได้ร้อยละ25.4 (x̄ = .254) อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ

(1.2.2) ตัวแปรสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นตัวแปรตาม ผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ แบบ Enter พบว่า ชุดของตัวแปรทำนายสามารถร่วมกันทำนายได้ร้อยละ58.8

( x̄= .588)อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติและเมื่อวิเคราะห์ด้วยการถดถอยพหุคูณ แบบ Stepwise พบว่า ตัวแปรด้านการบริหารจัดการสามารถทำนายตัวแปรค่าความแตกต่างของสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างปีการศึกษา 2557 และ 2560 ได้ 29.4 (x̄ =.294)อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 และ ตัวแปรด้านหลักสูตรและการสอนสามารถทำนายตัวแปรค่าความแตกต่างของสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างปีการศึกษา 2557 และ 2560 ได้ 55.4 (x̄ =.554)อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05

(1.3) ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน

(1.3.1) ตัวแปรคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นตัวแปรตาม ผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ แบบ Enter พบว่า ชุดของตัวแปรทำนายสามารถร่วมกันทำนายได้ร้อยละ24.1 ( x̄= .241) อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ

(1.3.2) ตัวแปรคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นตัวแปรตาม ผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ แบบ Enter พบว่า ชุดของตัวแปรทำนายสามารถร่วมกันทำนายได้ร้อยละ55.5 ( x̄= .555) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

(2) ด้านการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับบุคลากรของโรงเรียน พบว่า ตัวแปรด้านการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับบุคลากรของโรงเรียนเป็นตัวแปรตาม ผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ แบบ Enter พบว่า ชุดของตัวแปรทำนายสามารถร่วมกันทำนายได้ร้อยละ9.9 ( x̄= .099) อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ

(3) ด้านการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับชุมชน

(3.1) ตัวแปรการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสมาชิกในชุมชนเป็นตัวแปรตาม ผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ แบบ Enter พบว่า ชุดของตัวแปรทำนายสามารถร่วมกันทำนายได้ร้อยละ6.9 ( x̄= .069) อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ

(3.2) ตัวแปรความพึงพอใจของชุมชนเป็นตัวแปรตาม ผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ แบบ Enter พบว่า ชุดของตัวแปรทำนายสามารถร่วมกันทำนายได้ร้อยละ4.1 (x̄ = .041) อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ

ข้อเสนอแนะ

จากผลการวิจัยในการศึกษาภาพความสำเร็จของการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนนาหนังพัฒนศึกษา มีข้อค้นพบในกระบวนการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในด้านต่างๆ ดังนี้

1. สถานศึกษาควรจัดทำแผนการดำเนินงานในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา เพราะเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ โดยนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักคิดและหลักปฏิบัติในการทำงานและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (Whole School Approach)นำมาสู่การขับเคลื่อนเป็น“สถานศึกษาพอเพียงที่มีผลการปฏิบัติที่เป็นเลิศ”(สปล.)เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการดำรงชีวิตอย่างพอเพียงและการจัดการศึกษาที่ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจนสามารถเป็นแบบอย่างให้แก่สถานสถานศึกษาพอเพียงอื่นๆ รวมถึงชุมชนและสังคมในวงกว้างได้

2. ผู้บริหารสถานศึกษา ควรให้การส่งเสริม สนับสนุนกระบวนการและปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา ในสถานศึกษาโดยการบูรณาการเข้าสู่การเรียนการสอนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เป็นที่ทราบกันดีว่า การจัดการศึกษาเพื่อปลูกฝังค่านิยมและบ่มเพาะอุปนิสัยและคุณลักษณะ(Cultivating mindset and building character) ให้สัมฤทธิผลนั้น นอกเหนือจากการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรแล้ว จำเป็นต้องมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ (Enabling environment) ซึ่งรวมถึงสภาพแวดล้อมทางกายภาพ วัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันของสังคม (หรือค่านิยมร่วมขององค์กร/ชุมชน/สังคม) และแบบอย่างที่ดีในทางปฏิบัติ (Role Model)อีกทั้งควรทำการวิจัยผลการดำเนินงานด้วย

โพสต์โดย พ่อน้องเข็ม : [6 ก.พ. 2562 เวลา 08:58 น.]
อ่าน [3036] ไอพี : 1.2.130.141
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 26,633 ครั้ง
การเรียนการสอนทางไกลแบบปฏิสัมพันธ์
การเรียนการสอนทางไกลแบบปฏิสัมพันธ์

เปิดอ่าน 18,334 ครั้ง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง

เปิดอ่าน 19,374 ครั้ง
ร่าง พรฎ.ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ....
ร่าง พรฎ.ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ....

เปิดอ่าน 10,653 ครั้ง
สมุนไพรที่ช่วยบรรเทา ไข้หวัดใหญ่‏
สมุนไพรที่ช่วยบรรเทา ไข้หวัดใหญ่‏

เปิดอ่าน 6,718 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่7
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่7

เปิดอ่าน 11,077 ครั้ง
คำสัญญาที่ว่างเปล่า
คำสัญญาที่ว่างเปล่า

เปิดอ่าน 9,789 ครั้ง
ยิงแอดบน Facebook เองกับจ้างเอเจนซี่ อันไหนเวิร์คกว่ากัน
ยิงแอดบน Facebook เองกับจ้างเอเจนซี่ อันไหนเวิร์คกว่ากัน

เปิดอ่าน 11,425 ครั้ง
สารพัดคุณค่าจาก กล้วย
สารพัดคุณค่าจาก กล้วย

เปิดอ่าน 14,847 ครั้ง
ศิลปะและสิ่งแวดล้อม
ศิลปะและสิ่งแวดล้อม

เปิดอ่าน 12,866 ครั้ง
ฟังเพลงถูกใจเหมือนร่างกายได้ออกกำลังกาย
ฟังเพลงถูกใจเหมือนร่างกายได้ออกกำลังกาย

เปิดอ่าน 10,859 ครั้ง
ดับร้อนด้วย "เสาวรส" สุดจี๊ดจ๊าด
ดับร้อนด้วย "เสาวรส" สุดจี๊ดจ๊าด

เปิดอ่าน 23,847 ครั้ง
10 กิจกรรม กระตุ้นสมองให้แอคทีฟสุด ๆ
10 กิจกรรม กระตุ้นสมองให้แอคทีฟสุด ๆ

เปิดอ่าน 9,368 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์

เปิดอ่าน 10,025 ครั้ง
คลายเครียด ด้วยการดื่มน้ำ
คลายเครียด ด้วยการดื่มน้ำ

เปิดอ่าน 29,763 ครั้ง
โรงเรียนต้องปรับตัวอย่างไร เมื่อโควิด-19 รุกรานการศึกษา
โรงเรียนต้องปรับตัวอย่างไร เมื่อโควิด-19 รุกรานการศึกษา

เปิดอ่าน 21,007 ครั้ง
รูปแบบวิธีการสอน: การเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน ปี 2562
รูปแบบวิธีการสอน: การเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน ปี 2562
เปิดอ่าน 10,869 ครั้ง
เทคนิคการเรียนรู้ของไฟยน์แมน (Feynman Learning Technique)
เทคนิคการเรียนรู้ของไฟยน์แมน (Feynman Learning Technique)
เปิดอ่าน 15,124 ครั้ง
กว่าจะมาเป็น นพวรรณ เลิศชีวกานต์
กว่าจะมาเป็น นพวรรณ เลิศชีวกานต์
เปิดอ่าน 11,684 ครั้ง
13 ความเชื่อที่ควรรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม
13 ความเชื่อที่ควรรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม
เปิดอ่าน 14,693 ครั้ง
กิน เบต้าแคโรทีน มากไป เสี่ยงมะเร็ง
กิน เบต้าแคโรทีน มากไป เสี่ยงมะเร็ง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ