ครูบ้านนอก

การรายงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่

ตรงมาตราและคำที่มี ห นำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐ ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราและคำที่มี ห นำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ๓) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราและคำที่มี ห นำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒

ประชากรที่ใช้ในการรายงานเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ จำนวน ๑๖ คน

เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวบข้อมูล ประกอบด้วย ๑) แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระภาษาไทย เรื่อง การอ่านการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราและคำที่มี ห นำ ๒) แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราและคำที่มี ห นำ ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ๔) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราและคำที่มี ห นำ ผลการศึกษาพบว่า

๑) ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราและคำที่มี ห นำ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีค่าเท่ากับ ๘๙.๙๗/๘๘.๗๕ เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้

๒) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรง

มาตราและคำที่มี ห นำ มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน ร้อยละ ๕๓.๕๕

๓) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านการเขียนคำที่มี

ตัวสะกดไม่ตรงมาตราและคำที่มี ห นำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ พบว่านักเรียนมีความ พึงพอใจภาพรวมอยู่ในระดับ มาก

เว็บน่าสนใจ