ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โรงเรียนวัดราษฎร์บูรณะ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 2

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โรงเรียนวัดราษฎร์บูรณะ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 2

ผู้ประเมิน นายพรรคทวี จรีรัตน์

ปีการศึกษา 2560

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โรงเรียน

วัดราษฎร์บูรณะ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 2 ในด้าน 1) บริบทของโครงการ 2) ปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ 3) กระบวนการดำเนินงานตามโครงการ 4) ผลผลิตของโครงการพิจารณารวมถึง ผลกระทบ ประสิทธิผล ความยั่งยืน และการถ่ายโยงการเรียนรู้ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 2 คน ข้าราชการครู จำนวน 35 คน พนักงานราชการ จำนวน 2 คน ครูอัตราจ้าง จำนวน 2 คน กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน (ไม่นับรวมผู้อำนวยการโรงเรียนและตัวแทนครูผู้สอน) ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนช่วงชั้นที่

2-3 จำนวน 243 คน และนักเรียนช่วงชั้นที่ 2-3 จำนวน 243 คน รวมจำนวนกลุ่มเป้าหมาย 540 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โรงเรียนวัดราษฎร์บูรณะมี 2 ชนิดคือ

1) แบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 3 ฉบับ ฉบับที่ 1 สำหรับผู้บริหารโรงเรียน ข้าราชการครู พนักงานราชการ และ ครูอัตราจ้าง ที่มีรายละเอียดสอบถาม

ความคิดเห็นที่มีต่อโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โรงเรียนวัดราษฎร์บูรณะ ประเด็นคำถามเกี่ยวกับด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิตโดยพิจารณารวมถึง ผลกระทบ ประสิทธิผล ความยั่งยืน และการถ่ายโยงการเรียนรู้ ฉบับที่ 2 แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โรงเรียนวัดราษฎร์บูรณะ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 2 สำหรับผู้ปกครอง และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และฉบับที่ 3 เป็นแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนในการเข้าร่วมโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ของโรงเรียนวัดราษฎร์บูรณะ ข้อลักษณะของข้อคำถามเป็นแบบมาตราส่วน ประเมินค่า 5 ระดับ (Five Rating Scales) โดยประเมินความเหมาะสมมากที่สุดถึงน้อยที่สุด

2) แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างที่มีเนื้อหาครอบคลุมถึงการดำเนินงานตามโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ของโรงเรียนวัดราษฎร์บูรณะ

ผู้ประเมินเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการประเมินพบว่า

1. ด้านบริบท (Context) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนโครงการ เช่น ผู้ประกอบการธุรกิจ บริษัทเอกชน องค์การบริหารส่วนตำบล เป็นต้น รองลงมา คือ ผู้บริหารมีความเข้าใจและส่งเสริมในหลักการและรูปแบบกิจกรรมที่ดำเนินงานตามโครงการ ส่วนข้อที่ค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้ายคือ การประสานงานระหว่างบุคลากรทำให้เกิดความร่วมมือในการดำเนินโครงการ

2. ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า โรงเรียนมีเอกสารสรุปและรายงานผลการดำเนินการ รองลงมาคือ การมอบหมายงานมีความเหมาะสม กับบุคคลากร ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้ายคือดำเนินการแผนงาน โครงการกิจกรรมการขับเคลื่อน นโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ด้วย 4H สู่การปฏิบัติ

3. ด้านกระบวนการ (Process) พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมให้นักเรียนเกิดความสนใจ มีการกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ไม่เน้นแต่เพียงเนื้อหาความรู้ที่จะสอนเท่านั้น รองลงมากิจกรรมเรียนรู้ที่จัดขึ้นส่งเสริมให้ นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติอันจะก่อให้เกิดประสบการณ์ตรงกับนักเรียน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย

คือ มีการสะท้อนผลการจัดกิจกรรมแก่ผู้เรียนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น ผู้ปกครอง

4. ด้านผลผลิต (Product) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ในการปฏิบัติกิจกรรม ลดเวลาเรียน เพิ่ม เวลารู้ นักเรียนได้มีการทำงานร่วมกันเป็นทีม รองลงมามีค่าเฉลี่ยเท่ากันสองข้อ คือ ผลการทดสอบระดับชาติ (O-Net) และผลการทดสอบคุณภาพการศึกษาต่าง ๆ ของนักเรียนผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดและกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ที่ นักเรียนปฏิบัติเสริมสร้าง ไม่บั่นทอนสุขภาพกายและสุขภาพจิต และข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้ายคือนักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์ มีทักษะชีวิต และเรียนรู้ด้วยตนเองตามความถนัด ความสนใจ

4.1 ด้านผลกระทบ (Impact) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า นักเรียนมีความสุขกับการเข้าร่วมกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” รองลงมา คือผู้เรียนมีผลงานที่เป็นรูปธรรมจากโครงการ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ ผู้ปกครองและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้การส่งเสริม สนับสนุนผู้เรียนในการปฏิบัติกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่ม เวลารู้” ด้วย 4H

4.2 ด้านประสิทธิผล (Effective) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ส่งเสริม สนับสนุน ปัจจัยให้เอื้อต่อการจัดกิจกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ รองลงมา คือการคัดเลือกรูปแบบกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ตามความสนใจของผู้เรียน ตามบริบทของโรงเรียน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ การจัดระบบสารสนเทศเกี่ยวกับความสนใจ

ความถนัดและความต้องการของผู้เรียน

4.3 ด้านความยั่งยืน (Sustainability) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า การใช้ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นเป็นแหล่งเรียนรู้ รองลงมา คือส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมจริงและเกิดผลผลิตจากการปฏิบัติ สามารถเห็นผล เช่น ปลูกกล้วยน้ำว้า ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการสะท้อนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการจัดกิจกรรม

4.4 ด้านการถ่ายโยงการเรียนรู้ (Transportability) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า เป็นโครงการที่พัฒนาความสามารถด้านการแก้ปัญหาและความสามารถด้านการใช้เทคโนโลยี รองลงมาคือเป็นโครงการที่ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม (มีวินัย ซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ อดทน มุ่งมั่นในการทำงาน กตัญญู) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ

เป็นโครงการที่ตอบสนองความสนใจ ความถนัด และความต้องการของผู้เรียนตามความแตกต่างระหว่างบุคคล

ส่วนด้านความพึงพอใจของนักเรียนพบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ได้เรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมรอบตัว รองลงมา คือได้นำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ ได้ฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่น

โพสต์โดย นายพรรคทวี จรีรัตน์ : [19 ก.ย. 2561 เวลา 13:41 น.]
อ่าน [3311] ไอพี : 1.47.44.25
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,000 ครั้ง
8 นาที กับโยคะบนที่นอน
8 นาที กับโยคะบนที่นอน

เปิดอ่าน 51,540 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง การประชุมทางไกลฯ ซักซ้อมความเข้าใจในการดำเนินการสอบแข่งขัน ครูผู้ช่วย ปี พ.ศ.2561
รับชมย้อนหลัง การประชุมทางไกลฯ ซักซ้อมความเข้าใจในการดำเนินการสอบแข่งขัน ครูผู้ช่วย ปี พ.ศ.2561

เปิดอ่าน 9,400 ครั้ง
คุณรู้จริงหรือไม่ กับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
คุณรู้จริงหรือไม่ กับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

เปิดอ่าน 29,570 ครั้ง
"พระเจ้าเหา" คือใคร ?
"พระเจ้าเหา" คือใคร ?

เปิดอ่าน 12,163 ครั้ง
13 นิสัย (เสีย ๆ) ที่ทำให้ปวดหลังไม่เลิกรา
13 นิสัย (เสีย ๆ) ที่ทำให้ปวดหลังไม่เลิกรา

เปิดอ่าน 18,586 ครั้ง
ปรบมือให้เลย แชร์ไอเดียเด็ดๆ ของเด็กไทย! เลคเชอร์วิชาประวัติศาสตร์ขั้นเทพของเด็กม.3
ปรบมือให้เลย แชร์ไอเดียเด็ดๆ ของเด็กไทย! เลคเชอร์วิชาประวัติศาสตร์ขั้นเทพของเด็กม.3

เปิดอ่าน 18,594 ครั้ง
มาฝึกสมาธิเบื้องต้นกันดีกว่า
มาฝึกสมาธิเบื้องต้นกันดีกว่า

เปิดอ่าน 18,301 ครั้ง
อาร์คิมีดีส
อาร์คิมีดีส

เปิดอ่าน 13,642 ครั้ง
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม

เปิดอ่าน 11,165 ครั้ง
สำคัญที่ผู้สอน (ครู, อาจารย์)
สำคัญที่ผู้สอน (ครู, อาจารย์)

เปิดอ่าน 8,516 ครั้ง
เตรียมตัวไว้! "เฟซบุ๊ก" จะให้ใช้รูปโปรไฟล์เป็นวีดีโอสั้นๆได้แล้ว
เตรียมตัวไว้! "เฟซบุ๊ก" จะให้ใช้รูปโปรไฟล์เป็นวีดีโอสั้นๆได้แล้ว

เปิดอ่าน 9,820 ครั้ง
เคล็บลับอร่อยได้ดังใจ แต่..ไม่อ้วน
เคล็บลับอร่อยได้ดังใจ แต่..ไม่อ้วน

เปิดอ่าน 33,302 ครั้ง
ลายมือของคนจะสบายตอนบั้นปลาย
ลายมือของคนจะสบายตอนบั้นปลาย

เปิดอ่าน 36,607 ครั้ง
ใบบัว มีคุณประโยชน์อย่างไรบ้าง?
ใบบัว มีคุณประโยชน์อย่างไรบ้าง?

เปิดอ่าน 21,972 ครั้ง
เหรียญราชการชายแดน
เหรียญราชการชายแดน

เปิดอ่าน 128,221 ครั้ง
น้ำค้างเกิดขึ้นจากอะไร
น้ำค้างเกิดขึ้นจากอะไร
เปิดอ่าน 20,858 ครั้ง
สุดยอดสิ่งมีชีวิต ตอนที่ 1 สุดยอดจ้าวความเร็ว
สุดยอดสิ่งมีชีวิต ตอนที่ 1 สุดยอดจ้าวความเร็ว
เปิดอ่าน 20,769 ครั้ง
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม
เปิดอ่าน 18,077 ครั้ง
เพลง "วันพรุ่งนี้" ที่เด็กร้องแล้วผู้ใหญ่ฟังแล้วอึ้ง!
เพลง "วันพรุ่งนี้" ที่เด็กร้องแล้วผู้ใหญ่ฟังแล้วอึ้ง!
เปิดอ่าน 70,710 ครั้ง
การแบ่งเกรดดินสอตามความแข็ง
การแบ่งเกรดดินสอตามความแข็ง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ