ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการพัฒนาองค์การแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาบริบทสภาพปัญหาด้านการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และสังเคราะห์ข้อมูลจากหลักฐาน แนวคิด ทฤษฎี และองค์ประกอบที่เกี่ยวกับองค์การแห่งการเรียนรู้ (2) เพื่อสร้างรูปแบบองค์การ แห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช (3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบองค์การ แห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และ (4) ศึกษาความพึงพอใจต่อรูปแบบ การพัฒนาองค์การแห่งการเรียนรู้ การศึกษาครั้งนี้ใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา ( R&D: Research and Development) เก็บข้อมูลจากครูและผู้บริหาร จำนวน 130 คน คณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน จำนวน 15 คน รวมทั้งสิ้น 145 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย (1) แบบสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) (2) แบบประเมินความพร้อมในการพัฒนารูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้ (3) แบบประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการพัฒนาองค์การแห่งการเรียนรู้ (สำหรับผู้บริหาร และครูผู้สอน) มีค่า IOC เท่ากับ 0.97 มีค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่น ของครอนบาค (Cronbach’s alpha) เท่ากับ 0.95 (4) แบบประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการพัฒนาองค์การแห่งการเรียนรู้ (สำหรับคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน) มีค่า IOC เท่ากับ 0.92 มีค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นของครอนบาค เท่ากับ 0.98 (5) แบบสอบถามระดับความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีค่า IOC เท่ากับ 0.96 มีค่าความเชื่อมั่น (Cronbach’s alpha) เท่ากับ 0.96 (6) แบบสอบถามความเหมาะสมของรูปแบบการพัฒนาองค์การแห่งการเรียนรู้ในการนำไปใช้ปฏิบัติทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ เพื่อหาค่าสถิติค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content analysis) ผลการศึกษา พบว่า

1. สภาพปัญหาด้านการจัดการเรียนการสอน ในระดับบุคคลขาดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ทักษะการใช้เทคโนโลยี การมีวัฒนธรรมในการทำงานที่ดี การมีส่วนร่วมในการบริหารการใฝ่รู้ใฝ่เรียน ในระดับกลุ่มยังไม่มีการเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม รวมทั้งการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้และการมีส่วนร่วม ในกระบวนการทำงาน

2. ผลการพัฒนารูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่ามี 11 ขั้นตอน และการขับเคลื่อน ประกอบด้วย 5 ประการ คือ (1) สร้างความตระหนัก (2) การกำกับติดตามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง (3) การจูงใจ/เงื่อนไข (4) กำหนดนโยบาย (5) การปรับโครงสร้างองค์การ

3. ผลการใช้รูปแบบองค์กรแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่พัฒนาขึ้นสามารถพัฒนาโรงเรียนให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ และเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้

4. ความพึงพอใจต่อการพัฒนารูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย นายชรินทร์ สมทรง : [17 ก.ย. 2561 เวลา 16:14 น.]
อ่าน [3338] ไอพี : 1.10.166.233
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 4,172 ครั้ง
ประวัติ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ประวัติ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

เปิดอ่าน 21,459 ครั้ง
หมอขายครีม ผิดจรรยาบรรณ?
หมอขายครีม ผิดจรรยาบรรณ?

เปิดอ่าน 26,812 ครั้ง
แนวทางจัดทำแผนปฏิบัติการ
แนวทางจัดทำแผนปฏิบัติการ

เปิดอ่าน 14,460 ครั้ง
แฉ! ภัยร้านซ่อมคอมพ์ที่คุณต้องรู้
แฉ! ภัยร้านซ่อมคอมพ์ที่คุณต้องรู้

เปิดอ่าน 8,986 ครั้ง
ระวัง "โทรจัน" จากอีเมลโอลิมปิก
ระวัง "โทรจัน" จากอีเมลโอลิมปิก

เปิดอ่าน 10,924 ครั้ง
เล่น... พัฒนาอัจฉริยภาพ
เล่น... พัฒนาอัจฉริยภาพ

เปิดอ่าน 9,508 ครั้ง
ห้องสมุดในมัสยิด อีกย่างก้าวของความรู้
ห้องสมุดในมัสยิด อีกย่างก้าวของความรู้

เปิดอ่าน 10,785 ครั้ง
9 เรื่องเล็ก ๆ ที่จะทำให้คุณก้าวหน้า
9 เรื่องเล็ก ๆ ที่จะทำให้คุณก้าวหน้า

เปิดอ่าน 18,579 ครั้ง
3 แนวทาง"พลิกโฉม"คุณภาพการศึกษาไทยสู่มาตรฐานสากล
3 แนวทาง"พลิกโฉม"คุณภาพการศึกษาไทยสู่มาตรฐานสากล

เปิดอ่าน 18,247 ครั้ง
เกมส์ต่อสู้
เกมส์ต่อสู้

เปิดอ่าน 19,505 ครั้ง
เทคนิคเลิกกาแฟ สำหรับคนอยากเลิกกาแฟ
เทคนิคเลิกกาแฟ สำหรับคนอยากเลิกกาแฟ

เปิดอ่าน 32,039 ครั้ง
ปวดหัว แก้ด้วยวารีบำบัด
ปวดหัว แก้ด้วยวารีบำบัด

เปิดอ่าน 10,544 ครั้ง
5 เทคโนโลยีสำคัญในปี 2559
5 เทคโนโลยีสำคัญในปี 2559

เปิดอ่าน 17,573 ครั้ง
มติ ครม. ให้หยุดยาว ช่วงเข้าพรรษา 4-8 ก.ค.นี้
มติ ครม. ให้หยุดยาว ช่วงเข้าพรรษา 4-8 ก.ค.นี้

เปิดอ่าน 15,081 ครั้ง
มาทำความรู้จักกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนากันเถอะ
มาทำความรู้จักกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนากันเถอะ

เปิดอ่าน 13,331 ครั้ง
11 วิธีปรับตัวเองให้เป็นคนรักงาน
11 วิธีปรับตัวเองให้เป็นคนรักงาน
เปิดอ่าน 29,424 ครั้ง
8 ตัวอย่างภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย
8 ตัวอย่างภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย
เปิดอ่าน 12,747 ครั้ง
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?
เปิดอ่าน 12,879 ครั้ง
หนอนคืบ
หนอนคืบ
เปิดอ่าน 3,244 ครั้ง
คนกินเค็มต้องระวัง "โซเดียมในเลือดสูง"
คนกินเค็มต้องระวัง "โซเดียมในเลือดสูง"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ