ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดย ใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางในการเล่าเรื่อง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ

โดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางในการเล่าเรื่อง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางในการเล่าเรื่อง 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางในการเล่าเรื่อง ประชากรคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสีชมพูศึกษา อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ประจำภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 399 คน กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/9 จำนวน 36 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางในการเล่าเรื่อง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 6 แผน ใช้เวลาในการสอนแผนละ 2 ชั่วโมง รวมทั้งหมด 12 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 1 ฉบับ มี 40 ข้อ ซึ่งมีอำนาจจำแนกรายข้อ ตั้งแต่ 0.33 - 0.67 ค่าความยาก ตั้งแต่ 0..33 - 0.77 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางในการเล่าเรื่อง จำนวน 1 ฉบับ มี 20 ข้อ และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.81 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test dependent

ผลการศึกษาพบว่า

1. กิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางในการเล่าเรื่อง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 85.46/84.38 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ที่ 80/80

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางในการเล่าเรื่อง สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05

3.ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางในการเล่าเรื่อง อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.89

โดยสรุป กิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางในการเล่าเรื่องมีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนและส่งผลต่อเจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนในวิชาภาษาอังกฤษต่อไป

โพสต์โดย เก๋ : [30 ส.ค. 2561 เวลา 19:53 น.]
อ่าน [3551] ไอพี : 184.22.110.228
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,883 ครั้ง
หายใจผิด ตัวการทำลายผิว
หายใจผิด ตัวการทำลายผิว

เปิดอ่าน 7,122 ครั้ง
สอนภาษาอังกฤษแบบไม่ต้องสอนคืออะไร ไขข้อข้องใจได้ที่นี่
สอนภาษาอังกฤษแบบไม่ต้องสอนคืออะไร ไขข้อข้องใจได้ที่นี่

เปิดอ่าน 59,299 ครั้ง
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือบน E-Learning
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือบน E-Learning

เปิดอ่าน 7,420 ครั้ง
คิดยกกำลังสอง: คลังสมองกับการพัฒนาประเทศ
คิดยกกำลังสอง: คลังสมองกับการพัฒนาประเทศ

เปิดอ่าน 14,583 ครั้ง
วิธีฝึกสมาธิเพื่อให้เรียนหนังสือเก่ง
วิธีฝึกสมาธิเพื่อให้เรียนหนังสือเก่ง

เปิดอ่าน 31,428 ครั้ง
สูตรสำเร็จการเป็นข้าราชการ โดย ดร.จรวยพร ปลัดกระทรวง
สูตรสำเร็จการเป็นข้าราชการ โดย ดร.จรวยพร ปลัดกระทรวง

เปิดอ่าน 53,989 ครั้ง
พิชิตคณิตให้เป็นเรื่องง่าย
พิชิตคณิตให้เป็นเรื่องง่าย

เปิดอ่าน 57,981 ครั้ง
เทคนิคการสอนวิทยาศาสตร์ด้วยกิจกรรม Interactive
เทคนิคการสอนวิทยาศาสตร์ด้วยกิจกรรม Interactive

เปิดอ่าน 9,966 ครั้ง
นักวิจัยเผย ผู้หญิงมากกว่าชาย เกือบเก้าแสนคน
นักวิจัยเผย ผู้หญิงมากกว่าชาย เกือบเก้าแสนคน

เปิดอ่าน 19,144 ครั้ง
กฎกระทรวงการประกอบวิชาชีพควบคุม พ.ศ. 2549
กฎกระทรวงการประกอบวิชาชีพควบคุม พ.ศ. 2549

เปิดอ่าน 13,649 ครั้ง
เคล็ด(ไม่)ลับ
เคล็ด(ไม่)ลับ'หัวกะทิ'

เปิดอ่าน 19,113 ครั้ง
ชวนงดเหล้า..เข้าพรรษา
ชวนงดเหล้า..เข้าพรรษา

เปิดอ่าน 26,100 ครั้ง
ป้องกันก่อนถูก
ป้องกันก่อนถูก 'ฟ้าผ่า' เรื่องง่าย ๆ ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 56,547 ครั้ง
กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา...คืออะไร?
กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา...คืออะไร?

เปิดอ่าน 11,389 ครั้ง
อยากรู้มั้ยว่าทำไม ? คนไทยถึงรักพระเจ้าแผ่นดิน
อยากรู้มั้ยว่าทำไม ? คนไทยถึงรักพระเจ้าแผ่นดิน

เปิดอ่าน 19,756 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู
เปิดอ่าน 6,380 ครั้ง
โครงการ DifferSheet ออกฟีเจอร์ใหม่ WorkSheet (สื่อการเรียนการสอนดิจิทัล) ให้ครูใช้ฟรีช่วงโควิด
โครงการ DifferSheet ออกฟีเจอร์ใหม่ WorkSheet (สื่อการเรียนการสอนดิจิทัล) ให้ครูใช้ฟรีช่วงโควิด
เปิดอ่าน 9,938 ครั้ง
ตรวจสอบคุณภาพยางรถ
ตรวจสอบคุณภาพยางรถ
เปิดอ่าน 15,464 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย เป็นเรื่องที่เหลวไหลและเลื่อนลอย
ปฏิรูปการศึกษาไทย เป็นเรื่องที่เหลวไหลและเลื่อนลอย
เปิดอ่าน 443,827 ครั้ง
     กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘  พร้อมตัวอย่าง ง่ายต่อการจดจำ
กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ พร้อมตัวอย่าง ง่ายต่อการจดจำ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ