ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนากระบวนการสอนคณิตศาสตร์แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นปร

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนากระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อสร้างและพัฒนากระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 3) เพื่อทดลองใช้กระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) ให้มีประสิทธิผล 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล 3 (หล่ายอิงราษฎร์บำรุง) จำนวน 13 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือก แบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ การพัฒนากระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เครื่องมือที่ใช้ ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 19 แผน แบบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ การหาค่า E1/E2 การทดสอบค่า t (t-test) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัย พบว่า 1) นักเรียนส่วนใหญ่ยังไม่พึงพอใจในผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ของตนเอง นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เพราะเป็นวิชาที่ยาก น่าเบื่อ มีการคิดวิเคราะห์โจทย์ปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อน ทำให้ไม่อยากเรียน ไม่อยากคิดคำนวณ และเนื้อหาวิชาที่นักเรียนคิดว่ายากที่สุดในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ทำให้ไม่อยากเรียน คือ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง แก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณหารระคนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่โรงเรียนกำหนดไว้ นักเรียนส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นว่าครูควรจัดกระบวนการเรียนการสอน การแก้โจทย์ปัญหาที่แปลกใหม่ น่าสนใจ นักเรียนสามารถจดจำขั้นตอนได้ง่าย และนักเรียน ส่วนใหญ่ยังแสดงความคิดเห็นว่าต้องการให้ครูจัดกระบวนการสอนการแก้โจทย์ปัญหา โดยมีกระบวนการแก้โจทย์ปัญหา ดังนี้ อ่านทำความเข้าใจโจทย์ วิเคราะห์ วางแผน วาดรูปบาร์โมเดล ลงมือคิดคำนวณ ความสมเหตุสมผล และตรวจคำตอบ 2) กระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 92.96/95.16 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้กระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 19 แผน รวม 19 ชั่วโมง มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.95 แสดงว่า นักเรียนมีความรู้หลังเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 95 และเมื่อตรวจสอบความแตกต่างของคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยสถิติ t-test พบค่า t=53.57 มีระดับนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ 0.01 จึงกล่าวได้ว่ากระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงขึ้นกว่า ก่อนเรียน 4) ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสอนคณิตศาสตร์ แบบ R-A-D-T-R-C เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า โดยภาพรวมนักเรียน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.95 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.12

โพสต์โดย ครูหล้า : [28 ส.ค. 2561 เวลา 23:00 น.]
อ่าน [3658] ไอพี : 1.47.71.168
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 48,838 ครั้ง
ทฤษฎีบทขิองปิทาโกรัส
ทฤษฎีบทขิองปิทาโกรัส

เปิดอ่าน 30,837 ครั้ง
4 ทักษะสมองแห่งอนาคตที่ลูกต้องมี
4 ทักษะสมองแห่งอนาคตที่ลูกต้องมี

เปิดอ่าน 16,932 ครั้ง
11 เว็บไซต์เรียนภาษาสุดเจ๋ง ที่คนอยากเก่งอังกฤษไม่ควรพลาด!
11 เว็บไซต์เรียนภาษาสุดเจ๋ง ที่คนอยากเก่งอังกฤษไม่ควรพลาด!

เปิดอ่าน 42,145 ครั้ง
5 ข้อห้าม ในการล้างรถ
5 ข้อห้าม ในการล้างรถ

เปิดอ่าน 17,460 ครั้ง
คำว่า "เรียบร้อยโรงเรียนจีน" มาจากไหน
คำว่า "เรียบร้อยโรงเรียนจีน" มาจากไหน

เปิดอ่าน 10,478 ครั้ง
ปวดท้องตรงไหน เป็นอะไรกันแน่
ปวดท้องตรงไหน เป็นอะไรกันแน่

เปิดอ่าน 18,534 ครั้ง
ฟ้า กับ เหว
ฟ้า กับ เหว

เปิดอ่าน 9,516 ครั้ง
PISA ที่ผ่านมาบอกอะไรให้เราทราบบ้าง
PISA ที่ผ่านมาบอกอะไรให้เราทราบบ้าง

เปิดอ่าน 13,647 ครั้ง
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม

เปิดอ่าน 25,773 ครั้ง
พายุสุริยะ คืออะไร
พายุสุริยะ คืออะไร

เปิดอ่าน 18,079 ครั้ง
เทศกาล "ไหว้บะจ่าง"
เทศกาล "ไหว้บะจ่าง"

เปิดอ่าน 22,151 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาส่วนภูมิภาค 6 เดือน กศจ.ไปต่ออย่างไร? โดย อดิศร เนาวนนท์
ปฏิรูปการศึกษาส่วนภูมิภาค 6 เดือน กศจ.ไปต่ออย่างไร? โดย อดิศร เนาวนนท์

เปิดอ่าน 9,609 ครั้ง
หนังสือเสียงสร้างสุขในโลกมืด
หนังสือเสียงสร้างสุขในโลกมืด

เปิดอ่าน 28,719 ครั้ง
ทิศหก
ทิศหก

เปิดอ่าน 139,466 ครั้ง
ดาวน์โหลดที่นี่ แบบฝึกหัดเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 เริ่มใช้ภาคเรียนที่ 1/2559
ดาวน์โหลดที่นี่ แบบฝึกหัดเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 เริ่มใช้ภาคเรียนที่ 1/2559

เปิดอ่าน 10,006 ครั้ง
งานหนักมาก เหนื่อย ทำอย่างไรดี
งานหนักมาก เหนื่อย ทำอย่างไรดี
เปิดอ่าน 32,243 ครั้ง
ถอดบทเรียน ครอบครัว-การศึกษา สร้าง “เด็ก” เเตกต่าง “เก่ง” ในทางของตัวเอง
ถอดบทเรียน ครอบครัว-การศึกษา สร้าง “เด็ก” เเตกต่าง “เก่ง” ในทางของตัวเอง
เปิดอ่าน 25,763 ครั้ง
การตัดแต่งต้นไม้
การตัดแต่งต้นไม้
เปิดอ่าน 29,988 ครั้ง
ดอกดาหลา
ดอกดาหลา
เปิดอ่าน 18,600 ครั้ง
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด
สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ