ผลการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง การประสมคำด้วยสระ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ มีวัตถุประสงค์คือ ๑) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง การประสมคำด้วยสระ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านโฉลง ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง การประสมคำด้วยสระ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา ปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านโฉลง ๓) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง การประสมคำด้วยสระ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านโฉลง ประชากรที่ใช้ศึกษาในครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านโฉลง จังหวัดยะลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๑ ในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ จำนวน ๒๗ คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ๑) แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง การประสมคำด้วยสระ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ จำนวน ๑๐ เล่ม ๒) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การประสมคำด้วยสระ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ จำนวน ๑๒ แผน ๒๒ ชั่วโมง ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การประสมคำด้วยสระ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน ๒๐ ข้อ ๔) แบบสอบถามความ พึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง การประสมคำด้วยสระ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ จำนวน ๑๐ ข้อ ดำเนินการศึกษาในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ ในระหว่างวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๙
ผลการศึกษาพบว่า
๑) ค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) มีค่าเท่ากับ ๘๓.๖๑ และผลการทดสอบหลังเรียนซึ่งเป็น
ค่าประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) มีค่าเท่ากับ ๘๙.๐๗ ดังนั้น ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง การประสมคำด้วยสระ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๓.๖๑/๘๙.๐๗ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ (E1/E2 = ๘๐/๘๐)
๒) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง การประสมคำด้วยสระ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๑๐.๐๐ คิดเป็นร้อยละ ๕๐.๐๐ ส่วนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๑๗.๘๑ คิดเป็นร้อยละ ๘๙.๐๗ โดยมีค่าพัฒนาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนเฉลี่ย ๗.๘๑ คิดเป็นร้อยละ ๓๙.๐๗
๓) ความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง การประสมคำด้วยสระ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โดยภาพรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๙๑ คิดเป็นร้อยละ ๙๘.๓๖ และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่ารายการมีสาระการเรียนรู้จากง่ายไปหายาก เป็นสื่อการเรียนรู้ที่เรียงลำดับจากง่ายไปหายากไม่สับสน และมีแบบฝึกทักษะทุกหน่วยการเรียนรู้ มีระดับความพึงพอใจเท่ากันคือมีความพึงพอใจมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๕.๐๐ คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐
ข้อเสนอแนะ
ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ หรือชั้นอื่น ๆ ควรนำแนวทางที่เป็นผลที่ได้จากการศึกษาถึงผลการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง การประสมคำด้วยสระ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ไปพัฒนาต่อยอดเป็นการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะหรือแบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทยในสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยที่นักเรียนยังมีผลการเรียนรู้ ที่ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจอยู่