ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดคุณธรรมพื้นฐาน สรรสร้างเด็กดี เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย ด้านการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี

จากการประเมินคุณภาพของนักเรียน พบว่า นักเรียนโรงเรียนวัดประมุง (แจ่มราษฎร์รังสรรค์) ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยอยู่ในระดับที่ไม่น่าพอใจและนักเรียนส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องการอ่าน ผู้ศึกษาจึงได้พัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่านเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งในการศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดคุณธรรมพื้นฐาน สรรสร้างเด็กดี เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย ด้านการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดประมุง(แจ่มราษฎร์รังสรรค์) 2) เพื่อหาประสิทธิภาพหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดคุณธรรมพื้นฐาน สรรสร้างเด็กดี เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย ด้านการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดประมุง (แจ่มราษฎร์รังสรรค์) ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย ด้านการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดประมุง (แจ่มราษฎร์รังสรรค์) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการเรียน หลังเรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดคุณธรรมพื้นฐาน สรรสร้างเด็กดี เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย ด้านการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดประมุง(แจ่มราษฎร์รังสรรค์)

วิธีการศึกษาเป็นการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนที่ได้ประยุกต์ใช้แบบแผนการวิจัยเชิงทดลองเบื้องต้น (Pre-experimental design) แบบที่มีกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียว และมีการทดสอบก่อนและหลังการทดลอง (One group pretest-posttest design) โดยใช้การทดสอบค่าทีแบบกลุ่มไม่อิสระ (กลุ่มสัมพันธ์) Dependent Sample t-test หรือ Paired - Samples t-test

ประชากรที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน วัดประมุง(แจ่มราษฎร์รังสรรค์) ปีการศึกษา 2560 จำนวนทั้งหมด 15 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดโพธิ์ทอง โรงเรียนวัดประมุง(แจ่มราษฎร์รังสรรค์) และโรงเรียนวัดนาค ปีการศึกษา 2559 เป็นกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ทดลองหาประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่าน ได้มาจากการสุ่มแบบง่าย (Simple Random Sampling) ได้แก่ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองหาประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่านโดยการทดลองแบบเดี่ยว จำนวน 3 คน การทดลองแบบกลุ่มเล็ก จำนวน 10 คน และการทดลองภาคสนาม จำนวน 30 คน ได้มาจากการสุ่มแบบง่าย

เครื่องมือการวิจัยได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ด้านการอ่านคิดวิเคราะห์ หน่วยที่ 5 เรื่อง คุณธรรมพื้นฐาน สรรสร้างเด็กดี จำนวน 8 แผน 2) หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดคุณธรรมพื้นฐาน สรรสร้างเด็กดี 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 1 ฉบับ มีข้อสอบ 50 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน แบบมาตรฐานส่วนประมาณค่า จำนวน 1 ฉบับ มีข้อคำถาม 10 ข้อ

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ใช้ค่าร้อยละ (Percentage) และค่าเฉลี่ย (Mean) เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของของหนังสือส่งเสริมการอ่าน เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้การทดสอบค่าทีแบบกลุ่มไม่อิสระ (กลุ่มสัมพันธ์) Dependent Sample t-test หรือ Paired - Samples t-test และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) วิเคราะห์ระดับความพึงพอใจของนักเรียนด้วยค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยปรากฏผลดังนี้

1. หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด คุณธรรมพื้นฐาน สรรสร้างเด็กดี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดประมุง (แจ่มราษฎร์รังสรรค์) จำนวน 8 เล่ม มีคุณภาพและประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด โดยมีค่าดัชนีประสิทธิผลจากการทดลองแบบเดี่ยว(0.6400) แบบกลุ่ม (0.6292) ภาคสนาม (0.6609) และประชากรกลุ่มเป้าหมาย (0.6866) ซึ่งในการทดลอง ทุกครั้งมีค่าเท่ากับ 0.50 แสดงว่า หนังสือส่งเสริมการอ่านมีผลทำให้นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้ และมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้เพิ่มขึ้น

2. ประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด คุณธรรมพื้นฐาน สรรสร้างเด็กดีของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดประมุง(แจ่มราษฎร์รังสรรค์) จากการทดลองภาคสนามมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.46/82.63 เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้คือ 80/80 และ ผลจาก การวิจัยกับประชากรกลุ่มเป้าหมายได้ค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 85.92/85.42 และค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) เท่ากับ .50 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยในครั้งนี้

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนมีค่าคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 43.60 สูงกว่า ก่อนเรียนซึ่งมีค่าเท่ากับ 21.60 จากคะแนนเต็ม 50 คะแนน

4. นักเรียนที่เรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด คุณธรรมพื้นฐาน สรรสร้างเด็กดี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดประมุง (แจ่มราษฎร์รังสรรค์)มีความพึงพอใจต่อการเรียนภาษาไทยอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยระดับความพึงพอใจเท่ากับ 4.53 คิดเป็นร้อยละ 90.67

สรุปได้ว่า ผลการวิจัยครั้งนี้เป็นไปตามสมมติฐานของการวิจัยที่ตั้งไว้ทั้ง 4 ข้อ

โพสต์โดย ป้อม : [1 ก.ค. 2561 เวลา 00:19 น.]
อ่าน [3454] ไอพี : 223.205.185.35
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 6,245 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่5
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่5

เปิดอ่าน 10,498 ครั้ง
ปรับโฉมคนทำงาน ด้วยความสามารถด้านการเชื่อมต่อและระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัล
ปรับโฉมคนทำงาน ด้วยความสามารถด้านการเชื่อมต่อและระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัล

เปิดอ่าน 5,179 ครั้ง
JobsDB แนะทริคสมัครงานสำหรับเด็กจบใหม่  ทำอย่างไรให้ HR สนใจเรียกสัมภาษณ์งาน
JobsDB แนะทริคสมัครงานสำหรับเด็กจบใหม่ ทำอย่างไรให้ HR สนใจเรียกสัมภาษณ์งาน

เปิดอ่าน 15,274 ครั้ง
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับดวงจันทร์
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับดวงจันทร์

เปิดอ่าน 8,791 ครั้ง
กำหนดมาตรฐานใหม่เครื่องชาร์จ ครอบจักรวาล ใช้ได้ทุกยี่ห้อ
กำหนดมาตรฐานใหม่เครื่องชาร์จ ครอบจักรวาล ใช้ได้ทุกยี่ห้อ

เปิดอ่าน 11,977 ครั้ง
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย
การเรียนรู้ที่ห้ามมองข้ามกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกน้อย

เปิดอ่าน 28,172 ครั้ง
ทำความเข้าใจ เกณฑ์ย้ายครู ว16/2558 เริ่มใช้เดือนมกราคม 2559
ทำความเข้าใจ เกณฑ์ย้ายครู ว16/2558 เริ่มใช้เดือนมกราคม 2559

เปิดอ่าน 18,799 ครั้ง
ฎุมิปัญญาชาวบ้าน
ฎุมิปัญญาชาวบ้าน

เปิดอ่าน 14,491 ครั้ง
ดื่มน้ำจากขวดพลาสติก ระวังสารบีพีเอปนเปื้อน
ดื่มน้ำจากขวดพลาสติก ระวังสารบีพีเอปนเปื้อน

เปิดอ่าน 18,358 ครั้ง
เรื่องของ "ชะอม"
เรื่องของ "ชะอม"

เปิดอ่าน 24,404 ครั้ง
"เพกา" คืออะไร
"เพกา" คืออะไร

เปิดอ่าน 17,754 ครั้ง
เคาน์เตอร์ต้อนรับในโรงเรียน มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด
เคาน์เตอร์ต้อนรับในโรงเรียน มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด

เปิดอ่าน 8,627 ครั้ง
มารู้จักวิธีป้องสิวกันดีกว่า
มารู้จักวิธีป้องสิวกันดีกว่า

เปิดอ่าน 33,441 ครั้ง
จำนวนตรรกยะ
จำนวนตรรกยะ

เปิดอ่าน 110,042 ครั้ง
วิธีการปลูกพืชผัก
วิธีการปลูกพืชผัก

เปิดอ่าน 37,335 ครั้ง
วิธีเก็บ“ผักชี-รากผักชี”ใช้ได้นานขึ้น
วิธีเก็บ“ผักชี-รากผักชี”ใช้ได้นานขึ้น
เปิดอ่าน 24,283 ครั้ง
การช่างและหมู่บ้านช่าง
การช่างและหมู่บ้านช่าง
เปิดอ่าน 41,597 ครั้ง
โปรแกรมฝึกอ่านอังกฤษออนไลน์ใครก็เรียนได้ไม่เสียสตางค์กวดวิชา
โปรแกรมฝึกอ่านอังกฤษออนไลน์ใครก็เรียนได้ไม่เสียสตางค์กวดวิชา
เปิดอ่าน 406,363 ครั้ง
หน้าที่และความรับผิดชอบของครู
หน้าที่และความรับผิดชอบของครู
เปิดอ่าน 20,171 ครั้ง
การวัดระยะบนผิวทรงกลม
การวัดระยะบนผิวทรงกลม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ