ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน เรื่อง การบวก ลบ

คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ผู้รายงาน นายประเทือง พลหน่าย

โรงเรียน โรงเรียนบ้านลาน อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน (Brain-Based Learning : BBL) เป็นรูปแบบการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญที่มีรูปแบบชัดเจน สามารถนำไป ปฏิบัติได้ โดยง่าย และสอดคล้องกับการดำรงชีวิต เหมาะสมกับความสามารถ และความสนใจของผู้เรียน ผู้วิจัยจึงต้องการที่จะนำการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน (Brain-Based Learning : BBL) มาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคน ให้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล อันจะส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น มีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์และทักษะ ในการทำงาน ตลอดจนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ดังนั้น วิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) เพื่อการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคน ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีจำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 75 ขึ้นไป เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติ ได้แก่ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 12 แผน 12 ชั่วโมง 2) เครื่องมือที่ใช้สะท้อนผลการปฏิบัติได้แก่ แบบสังเกตพฤติกรรมการสอนของครูแบบสังเกต พฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน แบบบันทึกหลังสอน แบบสัมภาษณ์ผู้เรียน แบบทดสอบท้ายวงจร 3) เครื่องมือที่ ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์มีวงจรปฏิบัติการ 3 วงจร การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และสรุปความเรียง

ผลการวิจัยพบว่า

1) การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามกรอบความคิด

นิราศ จันทรจิตร (2553) ได้กำหนดขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ไว้ 6 ขั้น กับการใช้หลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ช่วยให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้อย่างทั่วถึง และเป็นผู้ลงมือปฏิบัติ กิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง นักเรียนทุกคนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและร่วมอภิปราย เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกลุ่ม นักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ส่งผลให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้งและจดจำได้ดีได้เคลื่อนไหวทางกาย ทำให้นักเรียนตื่นตัว มีการกระตุ้นสมอง ช่วยให้นักเรียนได้ผ่อนคลาย มีสมาธิและความพร้อมในการเรียนส่งผลให้เรียน ด้วยความสนใจและตั้งใจเรียน ได้มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลและสิ่งแวดล้อมรอบตัว สามารถนำ ความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้จริง นอกจากนี้นักเรียนยังได้รับการพัฒนาทักษะและกระบวนการต่างๆ ที่สำคัญและจำเป็น เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการสื่อสาร ทักษะการจัดการ ทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ทักษะกระบวนการกลุ่ม และเกิดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ได้แก่ มีความกระตือรือร้นในการเรียน ใฝ่รู้ใฝ่เรียน กล้าแสดงออก ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นมีการวางแผนการทำงาน มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อกลุ่ม และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน

2) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 โดยเฉลี่ยเท่ากับ 16.56 คิดเป็นร้อย 82.78 และมีนักเรียนผ่านเกณฑ์ จำนวน 17 คน คิดเป็น ร้อยละ 94.44 ของนักเรียนทั้งหมด

3) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากเครื่องมือที่ใช้มาสะท้อนผลการปฏิบัติ นักเรียนมีทักษะ/กระบวนการใช้วิธีการที่หลากหลายในการแก้ปัญหามีทักษะการคิดวิเคราะห์ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์คือ นักเรียนมีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ มีการทำงานเป็นระบบ รอบคอบ เกิดความเชื่อมั่นในตนเอง มีความสามัคคี กล้าแสดงความคิดเห็น สามารถอภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ มีทักษะในการทำงานกลุ่ม มีความรับผิดชอบ ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการแสวงหาความรู้ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

โพสต์โดย ครูมิก : [9 มิ.ย. 2561 เวลา 08:36 น.]
อ่าน [3083] ไอพี : 223.206.251.163
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,625 ครั้ง
ชื่นชมลูก ช่วยพัฒนา
ชื่นชมลูก ช่วยพัฒนา

เปิดอ่าน 19,262 ครั้ง
ย้อนดูประวัติศาสตร์"เมืองหลวง"ของโลกจมน้ำ
ย้อนดูประวัติศาสตร์"เมืองหลวง"ของโลกจมน้ำ

เปิดอ่าน 10,550 ครั้ง
สุดยอด "สุวรรณภูมิ-พารากอน" คว้าแชมป์สถานที่ที่มีคนแชร์รูปผ่านอินสตาแกรมมากที่สุดในปี 2012
สุดยอด "สุวรรณภูมิ-พารากอน" คว้าแชมป์สถานที่ที่มีคนแชร์รูปผ่านอินสตาแกรมมากที่สุดในปี 2012

เปิดอ่าน 41,595 ครั้ง
30 สุดยอดอาหาร ที่เป็นยาดีต่อสุขภาพ
30 สุดยอดอาหาร ที่เป็นยาดีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 13,052 ครั้ง
เอาไงดี? ...หางานใหม่แล้วค่อยลาออก กับ ลาออกแล้วค่อยหางานใหม่ !!
เอาไงดี? ...หางานใหม่แล้วค่อยลาออก กับ ลาออกแล้วค่อยหางานใหม่ !!

เปิดอ่าน 9,987 ครั้ง
ริ้วรอยบนใบหน้าแก้ได้ หมอแนะควรศึกษาก่อนทำ
ริ้วรอยบนใบหน้าแก้ได้ หมอแนะควรศึกษาก่อนทำ

เปิดอ่าน 28,899 ครั้ง
ยาหม่องสามารถใช้ขจัดหมากฝรั่งเปื้อนผ้าได้ จริงหรือ?
ยาหม่องสามารถใช้ขจัดหมากฝรั่งเปื้อนผ้าได้ จริงหรือ?

เปิดอ่าน 17,537 ครั้ง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง

เปิดอ่าน 16,647 ครั้ง
5 วิธีป้องกัน ไวรัสคอมพิวเตอร์ แบบง่าย ๆ
5 วิธีป้องกัน ไวรัสคอมพิวเตอร์ แบบง่าย ๆ

เปิดอ่าน 9,552 ครั้ง
"มิเชล โอบามา" สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกา มีวันนี้ได้เพราะความเสียสละของแม่
"มิเชล โอบามา" สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกา มีวันนี้ได้เพราะความเสียสละของแม่

เปิดอ่าน 19,753 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู

เปิดอ่าน 14,187 ครั้ง
คำเตือน เมนทอส กับเบียร์ อันตรายถึงชีวิต
คำเตือน เมนทอส กับเบียร์ อันตรายถึงชีวิต

เปิดอ่าน 9,916 ครั้ง
ปัญหา คือ การเรียนรู้ ?
ปัญหา คือ การเรียนรู้ ?

เปิดอ่าน 34,771 ครั้ง
ย้อนอดีตสอนภาษาไทย : แจกลูก-สะกดคำ
ย้อนอดีตสอนภาษาไทย : แจกลูก-สะกดคำ

เปิดอ่าน 32,639 ครั้ง
ทำไมแป้นพิมพ์ ไม่เรียง A B C
ทำไมแป้นพิมพ์ ไม่เรียง A B C

เปิดอ่าน 19,229 ครั้ง
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ พระราชพิธีพระศพ
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ พระราชพิธีพระศพ
เปิดอ่าน 18,289 ครั้ง
10 อันดับ ปริศนาของโลก
10 อันดับ ปริศนาของโลก
เปิดอ่าน 35,537 ครั้ง
ปรากฏการณ์ Earth Shine คืออะไร
ปรากฏการณ์ Earth Shine คืออะไร
เปิดอ่าน 16,805 ครั้ง
การลำดับรุ่นเครื่องคอมพิวเตอร์
การลำดับรุ่นเครื่องคอมพิวเตอร์
เปิดอ่าน 11,159 ครั้ง
เหนือกว่า
เหนือกว่า 'กิมจิฟีเวอร์' 'ศัลยกรรมไทย'

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ