ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารเคมีกับชีวิตและสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวทางการใช้บริบ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารเคมีกับชีวิตและสิ่งแวดล้อม

ด้วยแนวทางการใช้บริบทเป็นฐาน สำหรับนักศึกษา ระดับมัธยมตอนปลาย

ชื่อวิจัย ฉันทลักษณ์ ศรีผา

ปีที่วิจัย 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการ วิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยได้กำหนดความมุ่งหมายไว้ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารเคมีกับชีวิตและสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดการใช้บริบทเป็นฐาน สำหรับนักศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารเคมีกับชีวิตและสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดการใช้บริบทเป็นฐาน สำหรับนักศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในด้าน 2.1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ 2.2) เจตคติทางวิทยาศาสตร์ และ 2.3) ความพึงพอใจของนักศึกษาต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอราษีไศล จังหวัด ศรีสะเกษ ที่ลงทะเบียนเรียนในภาคเรียนที่ 2/2559 ที่ได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) รวมจำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ ดังนี้ 1) เครื่องมือประกอบการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ 2) เครื่องมือประเมินประสิทธิผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดเจตคติวิทยาศาสตร์ และแบบถามความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน คือ t-test for Dependent Sample และ One Sample t-test

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารเคมีกับชีวิตและสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดการใช้บริบทเป็นฐาน สำหรับนักศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ขั้นสัมพันธ์ (Relating) 2) ขั้นสร้างสมมติฐาน (Hypothesis) 3) ขั้นการรวบรวมและพิจารณาข้อมูล (Concluding and Considering) 4) ขั้นสร้างองค์ความรู้ (Knowledge formation) 5) ขั้นสื่อสารและนำเสนออย่างมีประสิทธิภาพ (Effective and Communication) และ 6) ขั้นการถ่ายโอน (Transferring)

ซึ่งเป็นรูปแบบที่ได้จากการสังเคราะห์ ทฤษฎีการเรียนรู้และแนวคิดการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง รูปแบบการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และรูปแบบการเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐาน มาพิจารณาร่วมกัน โดยหลักการของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น เป็นรูปแบบที่มีขั้นตอนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ผู้เรียน ได้ฝึกการเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่น ผ่านกระบวนการกลุ่มภายใต้สถานการณ์จริงที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง และครูมีบทบาทเป็นผู้อำนวยความสะดวก ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน ผู้เรียนมีโอกาสคิดหาเหตุผลอย่างอิสระ ฝึกวิเคราะห์ คาดเดา คำตอบอย่างมีหลักการ ฝึกการวางแผน กำหนดทางเลือกที่เป็นไปได้ และลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง รวมทั้งการแสวงหาความรู้จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่เกิดจากการรับข้อมูลอย่างมีความหมาย เกิดการเรียนรู้จากการพิจารณาความสมเหตุสมผลของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน และการตีความหมายของข้อมูล นำไปสู่การสรุปด้วยตัวเอง สามารถสร้างความรู้และความคิดรวบยอดด้วยตนเอง รวมทั้งฝึกสรุปองค์ความรู้ และสะท้อนผลออกมาในรูปของการเขียน การนำเสนอโดยการการเล่า หรือการอภิปราย รวมถึงแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลภายใต้บรรยากาศ ที่มีความอิสระการหาแนวทางในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้และแก้ปัญหาภายใต้สถานการณ์ใหม่ เพื่อการพัฒนาตนเอง สู่การทำประโยชน์ให้กับสังคม และชุมชนรอบตัว อันจะจะส่งผลให้ผู้เรียนมีจิตสาธารณะ และบริการสังคมที่เกิดจากการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ต่อไป

2. ประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารเคมีกับชีวิตและสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดการใช้บริบทเป็นฐาน สำหรับนักศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สรุปได้ดังนี้

2.1 นักศึกษาที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารเคมีกับชีวิตและสิ่งแวดล้อม โดยแนวคิดการใช้บริบทเป็นฐาน มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้

2.2 นักศึกษาที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารเคมีกับชีวิตและสิ่งแวดล้อม โดยแนวคิดการใช้บริบทเป็นฐาน หลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเจตคติสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 กล่าวคือ นักศึกษาที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารเคมีกับชีวิตและสิ่งแวดล้อม โดยแนวคิดการใช้บริบทเป็นฐาน หลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเจตคติอยู่ในระดับมาก ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้

2.3 นักศึกษาที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารเคมีกับชีวิตและสิ่งแวดล้อม โดยแนวคิดการใช้บริบทเป็นฐาน หลังเรียนมีคะแนนพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 กล่าวคือ นักศึกษาที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง สารเคมีกับชีวิตและสิ่งแวดล้อม โดยแนวคิดการใช้บริบทเป็นฐาน หลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ในระดับมาก คือ เท่ากับ 4.10 เมื่อเทียบกับเกณฑ์คะแนนเฉลี่ยภาพรวม เท่ากับ 3.50 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้

โพสต์โดย เหมียว : [19 พ.ค. 2561 เวลา 14:24 น.]
อ่าน [3642] ไอพี : 1.47.137.232
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,958 ครั้ง
เคยได้ยินแต่ Copyright อย่างเดียว มาดูว่า Copyleft บ้าง
เคยได้ยินแต่ Copyright อย่างเดียว มาดูว่า Copyleft บ้าง

เปิดอ่าน 12,952 ครั้ง
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสายตาสั้น
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสายตาสั้น

เปิดอ่าน 14,333 ครั้ง
ปลา...สินสมุทร สรวงฟ้า ของเล่นใหม่ นักเลี้ยงปลาตู้
ปลา...สินสมุทร สรวงฟ้า ของเล่นใหม่ นักเลี้ยงปลาตู้

เปิดอ่าน 13,380 ครั้ง
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวเกาหลีใต้ชนะจีน 3-2 เซต คว้าที่ 3 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56
ชมย้อนหลัง วอลเล่ย์บอลสาวเกาหลีใต้ชนะจีน 3-2 เซต คว้าที่ 3 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.56

เปิดอ่าน 10,507 ครั้ง
เปิดผลวิจัยคนไทยติดแชต กระทบงาน-การเรียนหนัก
เปิดผลวิจัยคนไทยติดแชต กระทบงาน-การเรียนหนัก

เปิดอ่าน 8,105 ครั้ง
สารอาหารแห่งอนาคต
สารอาหารแห่งอนาคต

เปิดอ่าน 15,003 ครั้ง
เงินตราของเวียดนามตอนที่ 1
เงินตราของเวียดนามตอนที่ 1

เปิดอ่าน 76,511 ครั้ง
หน้ามน-หน้ามล
หน้ามน-หน้ามล

เปิดอ่าน 12,247 ครั้ง
3 ปัจจัย ให้ได้งานเมื่อเรียนจบ
3 ปัจจัย ให้ได้งานเมื่อเรียนจบ

เปิดอ่าน 27,371 ครั้ง
คำสันธาน
คำสันธาน

เปิดอ่าน 19,182 ครั้ง
คลิปการ์ตูน ก-ฮ แบบเอาฮา พล็อตเรื่องดี
คลิปการ์ตูน ก-ฮ แบบเอาฮา พล็อตเรื่องดี

เปิดอ่าน 9,624 ครั้ง
เทศกาลโคมไฟ...สีสันเมืองใต้
เทศกาลโคมไฟ...สีสันเมืองใต้

เปิดอ่าน 15,515 ครั้ง
ลายมือนักธุรกิจเงินล้าน
ลายมือนักธุรกิจเงินล้าน

เปิดอ่าน 2,432 ครั้ง
เปิดเทอม On-site ห่างไกลโควิด-19 แนะวิธีตรวจ ATK เด็ก
เปิดเทอม On-site ห่างไกลโควิด-19 แนะวิธีตรวจ ATK เด็ก

เปิดอ่าน 16,025 ครั้ง
ไม่น่าเชื่อ! คลิปอาคารโรงเรียนบ้านพะเด๊ะ อ.แม่สอด จ.ตาก พังถล่มทั้งหลัง
ไม่น่าเชื่อ! คลิปอาคารโรงเรียนบ้านพะเด๊ะ อ.แม่สอด จ.ตาก พังถล่มทั้งหลัง

เปิดอ่าน 13,415 ครั้ง
"นักวิทย์-นักคิด" ผู้ทรงอิทธิพลใน TIME 100
"นักวิทย์-นักคิด" ผู้ทรงอิทธิพลใน TIME 100
เปิดอ่าน 23,055 ครั้ง
นักวิชาการแจงข้อสอบเด็ก ป.3 สุดยาก เป็นการคัดเลือกเด็กเข้าเรียนในห้องพิเศษ
นักวิชาการแจงข้อสอบเด็ก ป.3 สุดยาก เป็นการคัดเลือกเด็กเข้าเรียนในห้องพิเศษ
เปิดอ่าน 10,450 ครั้ง
10 เคล็ดลับลดอ้วน...เมื่อเป็นเบาหวาน
10 เคล็ดลับลดอ้วน...เมื่อเป็นเบาหวาน
เปิดอ่าน 12,625 ครั้ง
สังเคราะห์ยาเสพติดรูปแบบใหม่ขึ้นอีก แรงกว่ากัญชา 5 เท่า
สังเคราะห์ยาเสพติดรูปแบบใหม่ขึ้นอีก แรงกว่ากัญชา 5 เท่า
เปิดอ่าน 31,093 ครั้ง
6 ประโยชน์ของการอาบน้ำที่คุณอาจยังไม่รู้
6 ประโยชน์ของการอาบน้ำที่คุณอาจยังไม่รู้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ