ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี โดยใช้กระบวนการกลุ่ม เพื่อพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ สำหรับนักเรียนชั้นม

ชื่อเรื่อง การพัฒนาโปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ โดยใช้กระบวนการกลุ่ม เพื่อพัฒนาความฉลาด

ทางอารมณ์ด้านดี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ชื่อผู้วิจัย นางดวงนภา พสุพงศ์ธร

ปีที่ศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา แนวทางการพัฒนาการจัดการศึกษา และศึกษาข้อมูลระดับความฉลาดทางอารมณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) สร้างโปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี โดยใช้กระบวนการกลุ่มเพื่อพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) ทดลองใช้โปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี โดยใช้กระบวนการกลุ่มเพื่อพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4) ประเมินผลการใช้โปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี โดยใช้กระบวนการกลุ่ม เพื่อพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/7 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเทศบาล 4 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี จำนวน 1 ห้อง นักเรียนจำนวน 36 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์ 2) โปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี โดยใช้กระบวนการกลุ่ม เพื่อพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใช้ร่วมกับโปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี 4) แบบประเมินคุณภาพของโปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ด้านดีพร้อมแผนการสอน 5) แบบประเมินผลการใช้โปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี 3 ด้าน ได้แก่ ปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลอง 16 ชั่วโมง แบบแผนการทดลองครั้งนี้เป็นแบบ One-Group Pretest–Posttest Design วิเคราะห์ข้อมูลโดยค่าสถิติ ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที (t-test dependent samples)

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนเทศบาล 4 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี ในภาพรวม พบว่า ทุกรายวิชามีคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าร้อยละ 50 ยกเว้น กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ซึ่ง มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่า ร้อยละ 50 คือ 60.22 และจากการศึกษาระดับความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัจจุบันด้านความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพื่อจะได้ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ให้นักเรียนทำแบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์ ของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารสุข พบว่า นักเรียนทั้งหมด จำนวน 364 คน มีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำ 326 คน คิดเป็นร้อยละ 94.22 และอยู่ในระดับปกติ จำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 5.78 ผลการประเมินดังกล่าวจะเห็นได้ว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ควรได้รับการพัฒนาและส่งเสริมให้มีความฉลาดทางอารมณ์ที่สูงขึ้น และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านย่อย พบว่า ความฉลาดทางอารมณ์ที่ต้องได้รับการพัฒนาจากมากไปหาน้อยเป็นดังนี้ ด้านดี ด้านสุข และด้านเก่ง ตามลำดับ ดังนั้น ผู้วิจัยมีความเห็นว่าควรพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ด้านดีให้แก่ผู้เรียน

2. ผลการพัฒนาโปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ โดยใช้กระบวนการกลุ่ม เพื่อพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนนำไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ปรากฏผลดังนี้ คุณภาพของโปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี ในภาพรวม มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.94) ส่วนแผนการจัดการเรียนรู้ตามโปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี ในภาพรวม มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.70)

3. ผลการใช้โปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ โดยใช้กระบวนการกลุ่ม เพื่อพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี ของกลุ่มตัวอย่าง ทั้งก่อนและหลังได้รับการทดลองใช้โปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี โดยใช้กระบวนการกลุ่ม เพื่อพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยความฉลาดทางอารมณ์ในองค์ประกอบด้านดี หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ว่า และเมื่อพิจารณาความฉลาดทางอารมณ์เป็นรายด้านในองค์ประกอบด้านดี นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยความฉลาดทางอารมณ์ในด้านดี หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทั้ง 3 ด้านย่อย ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ และความฉลาดทางอารมณ์ที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงไปหาต่ำเป็นดังนี้ ด้านความรับผิดชอบ ด้านเห็นใจผู้อื่น และด้านควบคุมตนเอง ตามลำดับ

4. ผลการประเมินการใช้โปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี โดยใช้กระบวนการกลุ่ม เพื่อพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ได้ดำเนินการประเมิน ผลการใช้ทั้ง 3 ด้าน ปรากฏผลดังนี้

4.1 ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน พบว่า ในภาพรวม ด้านปัจจัยนำเข้าโปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.77, S.D. = 0.42)

4.2 ด้านกระบวนการ (Process) ประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน พบว่า ในภาพรวม ด้านปัจจัยนำเข้าโปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.78, S.D. = 0.42)

4.3 ด้านผลลัพธ์ (Output) โดยการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อการเรียนด้วยโปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี โดยใช้กระบวนการกลุ่ม เพื่อพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 36 คน ในภาพรวมพบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยโปรแกรมความฉลาดทางอารมณ์ด้านดี อยู่ในระดับมาก ( x̄= 4.63, S.D. = 0.48)

โพสต์โดย จุ๋ม : [19 มี.ค. 2561 เวลา 08:35 น.]
อ่าน [3743] ไอพี : 49.48.249.141
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,842 ครั้ง
10 วิธีถนอมสายตา หน้าจอคอมพิวเตอร์
10 วิธีถนอมสายตา หน้าจอคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 10,665 ครั้ง
เตือนผู้ป่วยเบาหวานหมั่นตรวจตา ลดความเสี่ยงตาบอด
เตือนผู้ป่วยเบาหวานหมั่นตรวจตา ลดความเสี่ยงตาบอด

เปิดอ่าน 20,398 ครั้ง
กินรสจืด ยืดชีวิต
กินรสจืด ยืดชีวิต

เปิดอ่าน 16,347 ครั้ง
กำแพงกั้นเสียง
กำแพงกั้นเสียง

เปิดอ่าน 12,507 ครั้ง
เทคนิค 6 ต. เพื่อสอบแอดมิชชั่นให้ "ติด"
เทคนิค 6 ต. เพื่อสอบแอดมิชชั่นให้ "ติด"

เปิดอ่าน 13,211 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่1
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่1

เปิดอ่าน 32,746 ครั้ง
รู้จัก "อีบิดดิ้ง-อีมาร์เก็ต" ระบบจัดซื้อ "พันธุ์ใหม่"
รู้จัก "อีบิดดิ้ง-อีมาร์เก็ต" ระบบจัดซื้อ "พันธุ์ใหม่"

เปิดอ่าน 11,060 ครั้ง
ยืดอายุด้วยการเดิน
ยืดอายุด้วยการเดิน

เปิดอ่าน 11,210 ครั้ง
ฮีโร่&วายร้าย คนเด่นโลกปี 2554
ฮีโร่&วายร้าย คนเด่นโลกปี 2554

เปิดอ่าน 10,410 ครั้ง
จิบเครื่องดื่มให้ถูกจังหวะ ก็แก้ปัญหาสุขภาพได้
จิบเครื่องดื่มให้ถูกจังหวะ ก็แก้ปัญหาสุขภาพได้

เปิดอ่าน 27,678 ครั้ง
สกิมเมอร์ : เทคโนโลยีโฉดเพื่อทรชน
สกิมเมอร์ : เทคโนโลยีโฉดเพื่อทรชน

เปิดอ่าน 10,360 ครั้ง
แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัย3 - 6 ปี สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง
แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัย3 - 6 ปี สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง

เปิดอ่าน 5,225 ครั้ง
JobsDB แนะทริคสมัครงานสำหรับเด็กจบใหม่  ทำอย่างไรให้ HR สนใจเรียกสัมภาษณ์งาน
JobsDB แนะทริคสมัครงานสำหรับเด็กจบใหม่ ทำอย่างไรให้ HR สนใจเรียกสัมภาษณ์งาน

เปิดอ่าน 19,396 ครั้ง
15 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ ปาก และ ฟัน
15 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ ปาก และ ฟัน

เปิดอ่าน 29,185 ครั้ง
"หอยนางรม" บำรุง "ตับ-ไต-สุขภาพ-เพศ"
"หอยนางรม" บำรุง "ตับ-ไต-สุขภาพ-เพศ"

เปิดอ่าน 23,623 ครั้ง
เพลง "วันแม่"
เพลง "วันแม่"
เปิดอ่าน 7,931 ครั้ง
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)
เปิดอ่าน 92,477 ครั้ง
ลำดับดาวเคราะห์
ลำดับดาวเคราะห์
เปิดอ่าน 13,780 ครั้ง
การเลือกซื้อเครื่องอิงค์เจ็ตพรินเตอร์
การเลือกซื้อเครื่องอิงค์เจ็ตพรินเตอร์
เปิดอ่าน 10,448 ครั้ง
1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก
1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ