|
|
การวิจัยและพัฒนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการ ในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมความสามารถในด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้หนังสือส่งเสริมทักษะการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ปริศนาการหาพื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนขั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบ การจัดการเรียนด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมความสามารถในด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้หนังสือส่งเสริมทักษะการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ปริศนาการหาพื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนขั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (3) เพื่อปรียบเทียบความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้หนังสือส่งเสริมทักษะการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ปริศนาการหาพื้นที่ผิวและปริมาตร กับรูปแบบการเรียนการสอนตามปกติ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 (เทศบาลสงเคราะห์) ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมความสามารถในด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ชุดนี้ ประชากรกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาล 3 (เทศบาลสงเคราะห์) สังกัดเทศบาลเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบยกชั้น (Cluster random sampling) 1 ห้องเรียน จำนวน 30 คน โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ คือ รูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมความสามารถในด้านการคิด อย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้หนังสือส่งเสริมทักษะการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ปริศนาการหาพื้นที่ผิวและปริมาตร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กับรูปแบบการเรียนการสอนตามปกติแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินความสามารถในการสร้างความรู้และแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมความสามารถในด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้หนังสือส่งเสริมทักษะการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ปริศนาการหาพื้นที่ผิวและปริมาตรของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติแบบไม่อิสระและแบบอิสระและการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1. ข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนาเพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการ ในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมความสามารถในด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้หนังสือส่งเสริมทักษะการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ปริศนาการหาพื้นที่ผิวและปริมาตร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ครูผู้สอนต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมความสามารถในด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้หนังสือส่งเสริมทักษะการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ปริศนาการหาพื้นที่ผิวและปริมาตรที่มีเนื้อหาที่เรียงจากง่ายไปหายาก มีสำนวนภาษาง่าย เข้าใจได้ มีภาพประกอบ มีการจัดการเรียนการสอนเป็นรายบุคคล โดยให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง
2. รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า EPPSE Model มีองค์ประกอบคือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน สาระความรู้ ทักษะกาคิด การสรุปสาระความรู้ หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน ซึ่งมีกระบวนการเรียนการสอน 5 ขั้นตอน (EPPSE Model) ได้แก่ 1. ขั้นกระตุ้นเตรียมความพร้อมในการเรียน(Encouragement= E) 2. ขั้นการนำเสนอเนื้อหาจัดประสบการณ์การเรียนการสอนและกระบวนการคิด (Presentation = P) 3. ขั้นการฝึกทักษะ (Practice = P) เช่น ฝึกทักษะโดยการชี้แนะ(Guided Practice) ฝึกทักษะอย่างอิสระ(Independent Practice) และประมวลทักษะ(Integrated Practice) 4. การดำเนินการเรียนด้วยตนเอง (Self directed reading = S) 5. ขั้นประเมินผล Evolution = (E) สาระความรู้และสิ่งที่ส่งเสริมความรู้ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.79/86.83 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 ปรากฏว่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
3. ความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้หนังสือส่งเสริมทักษะการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ปริศนาการหาพื้นที่ผิวและปริมาตร กับรูปแบบการเรียนการสอนตามปกติ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยนักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความสามารถ ในการสร้างความรู้หลังเรียนของกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุม
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างความรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเฉพาะบรรยากาศในการเรียนที่มีความสนุกสนาน ที่นักเรียนสามารถหาความรู้ได้ต่อเนื่องตลอดเวลาและนักเรียนสามารถพัฒนาวิธีการการแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง
|
โพสต์โดย นางจันทรา บุญมีประเสริฐ : [7 ม.ค. 2561 เวลา 20:52 น.] อ่าน [3409] ไอพี : 1.20.248.174
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 20,745 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,321 ครั้ง
| เปิดอ่าน 461,288 ครั้ง
| เปิดอ่าน 53,467 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,001 ครั้ง
| เปิดอ่าน 81,622 ครั้ง
| เปิดอ่าน 56,325 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,192 ครั้ง
| เปิดอ่าน 48,840 ครั้ง
| เปิดอ่าน 85,272 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,910 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,153 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,352 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,467 ครั้ง
| เปิดอ่าน 52,498 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 2,362 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,020 ครั้ง
| เปิดอ่าน 6,182 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,795 ครั้ง
| เปิดอ่าน 37,017 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|