ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วน สัดส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยวิธี

สินธุวา โสภะสุนทร. (2560). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วน สัดส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยวิธีการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem Based Learning). ขอนแก่น: โรงเรียนขามแก่นนคร.

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วน สัดส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยวิธีการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem Based Learning) 2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วน สัดส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้ผู้เรียนอย่างน้อยร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป และ 3) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วน สัดส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยวิธีการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก

กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/9 โรงเรียนขามแก่นนคร ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการปฏิบัติจริง ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วน สัดส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ใช้วิธีการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก จำนวน 18 แผน เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบทดสอบย่อยท้ายวงจร แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้รายบุคคล แบบประเมินผลการทำกิจกรรมกลุ่ม แบบประเมินผลงานและสะท้อนผล แบบบันทึกการสัมภาษณ์นักเรียน และเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการสอน ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วน สัดส่วนและร้อยละ และแบบสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้ค่าสถิติร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยการแจกแจง ข้อค้นพบที่สำคัญในเชิงอธิบายความหมาย

ผลการวิจัย พบว่า

กิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วน สัดส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้นด้วยวิธีการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก ประกอบด้วยขั้นตอนที่สำคัญ คือ

1) ขั้นการเสนอปัญหา นักเรียนสามารถเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมกับเรื่องที่จะเรียนรู้ใหม่ นักเรียนเกิดความมั่นใจในการตีความปัญหา เพื่อทำความเข้าใจปัญหาด้วยตนเอง นักเรียนจำเป็นต้องอ่าน สำรวจรายละเอียด วิเคราะห์ความสัมพันธ์ ความสำคัญ ความเกี่ยวโยงในปัญหาหลัก พิจารณาข้อมูล ตีความ อธิบายความ และสรุปความให้เกิดความเข้าใจว่าปัญหานั้นๆ เพื่อมาประมวลสร้างเป็นตัวแทนปัญหา และวางแผนในการแก้ปัญหาที่เป็นระบบ

2) ขั้นไตร่ตรองรายบุคคล นักเรียนทำการแก้ปัญหาคนเดียวด้วยตัวนักเรียนเอง นักเรียนอาศัยประสบการณ์เดิม นักเรียนจำเป็นต้องใช้ความพยายามในการหาวิธีแก้ปัญหาตามที่ตนเองเห็นว่าอะไรเป็นปัญหา ปัญหาของนักเรียนแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับประสบการณ์เดิมและการตีความปัญหา นักเรียนยังต้องเตรียมนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาให้เพื่อนนักเรียนในกลุ่มฟังด้วย การคิดไตร่ตรองด้วยตนเองนี้เป็นการคิดอย่างอิสระตามลำพังของนักเรียนตามศักยภาพและความแตกต่างของแต่ละบุคคล การตระหนักในปัญหาและวิธีการแก้ปัญหาของนักเรียนมีความสำคัญมากในขั้นนี้

3) ขั้นไตร่ตรองรายกลุ่ม นักเรียนแต่ละคนได้นำเสนอวิธีการแก้ปัญหาของตนเอง นักเรียนได้ฝึกทักษะการนำเสนอและทักษะการสื่อสารด้วย นักเรียนได้ทำงานร่วมกับผู้อื่นเพื่อหาวิธีการที่ดีที่สุด การร่วมกันอภิปรายช่วยให้นักเรียนเกิดความกล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าพูด และกล้าออกความคิดเห็น ด้วยความมั่นใจ นักเรียนเห็นคุณค่าและความสำคัญของตนเองและตระหนักว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ความสำเร็จของตนเองมีส่วนช่วยให้กลุ่มประสบความสำเร็จ เป็นการเน้นให้นักเรียนเกิดกระบวนการกลุ่ม พึ่งพาอาศัยกันและกัน มีความรับผิดชอบร่วมกัน มีความสามัคคี และเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

4) ขั้นนำเสนอผลงาน นักเรียนทุกกลุ่มจะได้นำเสนอผลงาน ในการนำเสนอ จะมีการจัดลำดับการนำเสนอตามลำดับแนวคิดของนักเรียน โดยเรียงจากแนวคิดพื้นฐานหรือคิดได้น้อยไปหาแนวคิดที่สลับซับซ้อนหรือคิดได้มากกว่า นักเรียนมีความพร้อมในการทำงานกลุ่มให้แล้วเสร็จก่อนนำเสนอผลงาน นักเรียนมีความรับผิดชอบร่วมกัน ตรงเวลา และเตรียมการนำเสนอหน้าชั้นเรียนด้วยวิธีการที่เหมาะสม

5) ขั้นสรุป นักเรียนได้นำเสนอสิ่งที่สรุปได้ของตนเองด้วย เป็นกิจกรรมที่ทำให้นักเรียนได้เน้นย้ำความคิดรวบยอดของบทเรียน และเรียนรู้แนวคิดของคนอื่น นักเรียนสรุปความรู้ที่ได้ในรูปแบบที่เปิดกว้างตามศักยภาพของตนเอง

6) ขั้นขยายหรือสร้างปัญหา นักเรียนยังได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อนำมาขยายหรือสร้างปัญหา นักเรียนได้แก้สถานการณ์ปัญหาอีกครั้งโดยสร้างสถานการณ์ปัญหาใหม่

7) ขั้นประเมินและสะท้อนผล นักเรียนได้ประเมินผลงานของตนเองและผลงานกลุ่ม นักเรียนต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่เรียนเป็นอย่างดี จึงจะสามารถประเมินงานของตนเองและของกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนได้สะท้อนผลการเรียนรู้ บันทึกปัญหาและอุปสรรค รวมทั้งแนวทางแก้ปัญหา

การนำรูปแบบการเรียนรู้ที่ใช้วิธีการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลักมาใช้ในการสอน 3 วงจร ทำให้นักเรียนมีการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์สูงขึ้น โดยวงจรที่ 1 มีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 74.40 วงจรที่ 2 มีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 80.50 และวงจรที่ 3 มีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 78.30 นักเรียนร้อยละ 75.00 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป โดยนักเรียนทั้งชั้นมีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 76.40 คะแนนอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ผ่านการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วน สัดส่วนและร้อยละ ด้วยวิธีการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก มีความคิดเห็นต่อตัวบ่งชี้บทบาทในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก ด้านผู้เรียนอยู่ในระดับมากทุกตัวบ่งชี้ ส่วนด้านผู้สอนอยู่ในระดับมาก 8 ตัวบ่งชี้ และอยู่ในระดับมากที่สุด 2 ตัวบ่งชี้ โดยในด้านผู้เรียน บทบาทและพฤติกรรมที่ผู้เรียนแสดงออกมากที่สุด คือ นักเรียนได้คิดอย่างหลากหลาย ลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเอง คิดเป็นร้อยละ 63.89 ส่วนด้านผู้สอน บทบาทและพฤติกรรมที่ผู้สอนแสดงออกมากที่สุด คือ ครูเปิดโอกาสให้มีการแสดงแนวคิดและให้เหตุผลอย่างอิสระ คิดเป็นร้อยละ 66.67

โพสต์โดย บอนน์ : [11 ธ.ค. 2560 เวลา 07:51 น.]
อ่าน [3339] ไอพี : 124.121.197.38
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,427 ครั้ง
อันตราย! ดื่มน้ำเกินพิกัด
อันตราย! ดื่มน้ำเกินพิกัด

เปิดอ่าน 21,879 ครั้ง
"ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน" กับความเชื่อทางสังคม
"ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน" กับความเชื่อทางสังคม

เปิดอ่าน 20,719 ครั้ง
คลิป "สมรักษ์" แพ้ "จอมโหด"
คลิป "สมรักษ์" แพ้ "จอมโหด"

เปิดอ่าน 14,965 ครั้ง
ขนส่งฯ แจ้ง เปลี่ยนทะเบียนแตกลายงา ฟรี! วันนี้ - 30 ก.ย. 56
ขนส่งฯ แจ้ง เปลี่ยนทะเบียนแตกลายงา ฟรี! วันนี้ - 30 ก.ย. 56

เปิดอ่าน 17,831 ครั้ง
อ.เจษฎา ชี้พระนั่งในน้ำเดือด เป็นแค่กลทางวิทยาศาสตร์
อ.เจษฎา ชี้พระนั่งในน้ำเดือด เป็นแค่กลทางวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 16,210 ครั้ง
การพระราชทานตราตั้งห้าง สารานุกรมไทย ฉบับกาญจนาภิเษก
การพระราชทานตราตั้งห้าง สารานุกรมไทย ฉบับกาญจนาภิเษก

เปิดอ่าน 10,174 ครั้ง
คลิปข่าว ศธ. จ่อใช้ระบบสอบกลาง ประถม-มัธยม ปี 57 หากตกต้องซ้ำชั้น
คลิปข่าว ศธ. จ่อใช้ระบบสอบกลาง ประถม-มัธยม ปี 57 หากตกต้องซ้ำชั้น

เปิดอ่าน 16,503 ครั้ง
ฮือฮา พญานาคโผล่รับเครื่องสักการะ หลังพิธีบุญกฐินน้ำ
ฮือฮา พญานาคโผล่รับเครื่องสักการะ หลังพิธีบุญกฐินน้ำ

เปิดอ่าน 13,070 ครั้ง
เข้าใจและยอมรับ... แล้วคุณจะมีความสุข
เข้าใจและยอมรับ... แล้วคุณจะมีความสุข

เปิดอ่าน 12,866 ครั้ง
ฟังเพลงถูกใจเหมือนร่างกายได้ออกกำลังกาย
ฟังเพลงถูกใจเหมือนร่างกายได้ออกกำลังกาย

เปิดอ่าน 42,003 ครั้ง
กินไข่สุก ๆ ดิบ ๆ มีโทษ
กินไข่สุก ๆ ดิบ ๆ มีโทษ

เปิดอ่าน 9,987 ครั้ง
ริ้วรอยบนใบหน้าแก้ได้ หมอแนะควรศึกษาก่อนทำ
ริ้วรอยบนใบหน้าแก้ได้ หมอแนะควรศึกษาก่อนทำ

เปิดอ่าน 13,161 ครั้ง
ยืดอายุหนูได้เท่าอายุคน125ปี อาจจะนำวิธีการมา ใช้กับมนุษย์
ยืดอายุหนูได้เท่าอายุคน125ปี อาจจะนำวิธีการมา ใช้กับมนุษย์

เปิดอ่าน 12,401 ครั้ง
วิธีถ่ายภาพแบบมโน เสมือนตัวเองไปเที่ยวมา
วิธีถ่ายภาพแบบมโน เสมือนตัวเองไปเที่ยวมา

เปิดอ่าน 47,569 ครั้ง
6P คาถาที่จะทำให้คุณครูมีความสุขกับการทำงาน
6P คาถาที่จะทำให้คุณครูมีความสุขกับการทำงาน

เปิดอ่าน 21,217 ครั้ง
ประโยชน์ของ เมล็ดดอกทานตะวัน
ประโยชน์ของ เมล็ดดอกทานตะวัน
เปิดอ่าน 282,998 ครั้ง
แบบฟอร์ม การบันทึกงานประจำวัน การรายงานประจำสัปดาห์ การส่งงวดงาน รับผู้ควบคุมงานก่อสร้างอาคารต่างๆ
แบบฟอร์ม การบันทึกงานประจำวัน การรายงานประจำสัปดาห์ การส่งงวดงาน รับผู้ควบคุมงานก่อสร้างอาคารต่างๆ
เปิดอ่าน 36,600 ครั้ง
ใบบัว มีคุณประโยชน์อย่างไรบ้าง?
ใบบัว มีคุณประโยชน์อย่างไรบ้าง?
เปิดอ่าน 12,823 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง การประชุมชี้แจงการดำเนินงานโครงการโรงเรียนประชารัฐ วันที่ 17 สิงหาคม 2559
รับชมย้อนหลัง การประชุมชี้แจงการดำเนินงานโครงการโรงเรียนประชารัฐ วันที่ 17 สิงหาคม 2559
เปิดอ่าน 44,539 ครั้ง
เช็ดตัวลดไข้ ใช้ "น้ำอุ่น" หรือ"น้ำเย็น"?
เช็ดตัวลดไข้ ใช้ "น้ำอุ่น" หรือ"น้ำเย็น"?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ