ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินผลโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรีย

เรื่องที่ศึกษา รายงานการประเมินผลโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริม

พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559

ผู้รายงาน นางดวงเดือน แก้วปุม

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะชำนาญการ

สถานที่ทำงาน โรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก

ปีการศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินผลโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 2) เพื่อประเมินความคิดเห็นของครู ผู้ปกครองนักเรียน และคณะคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 ในด้านการรู้จักนักเรียน

เป็นรายบุคคล ด้านการคัดกรองนักเรียน ด้านการส่งเสริมนักเรียน ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาและด้านการส่งต่อนักเรียน จากองค์ประกอบทั้ง 5 องค์ประกอบ โรงเรียนบ้านชวดบัวได้คัดกรองและดำเนินการแก้ปัญหานักเรียนในด้านที่มีปัญหาตามความคิดเห็นของครูประจำชั้น ผู้ปกครองนักเรียนคณะคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามแบบคัดกรองนักเรียน

ประชากรและกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ครูประจำชั้น ผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในปีการศึกษา 2559 จำนวน 40 คน เป็นข้าราชการครูโรงเรียนบ้านชวดบัว 3 คน ผู้ปกครองนักเรียน 30 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 7 คน รวม 40 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ของ ลิเคิร์ท ซึ่งผู้รายงานได้จัดสร้างขึ้นโดยผ่านการตรวจหาค่าความเที่ยงตรง

เชิงโครงสร้างและเชิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการประเมินผลโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียน บ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 ซึ่งประเมินโดยครูประจำชั้น ได้ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.97 และประเมินโดยคณะคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองนักเรียน ได้ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.95

การจัดเก็บข้อมูล ผู้รายงานได้ดำเนินการโดยแจกแบบสอบถามให้กับครู 3 ฉบับ ผู้ปกครองนักเรียน 30 ฉบับ และคณะคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 7 ฉบับ รวม 40 ฉบับ ได้รับคืนมา 40 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 100 แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ สถิติที่ใช้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลสรุปได้ดังนี้

จากการประเมินผลโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 ในภาพรวม ผลการวิเคราะห์ข้อมูล สรุปได้ดังนี้

1. ครูโรงเรียนบ้านชวดบัว ที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด จำแนกเป็น เพศหญิง 3 คน มีอาชีพรับราชการ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และมีอายุมากกว่า 25 ปี

2. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านชวดบัว ที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอาชีพรับจ้างในโรงงาน จบการศึกษาระดับประถมศึกษาและมีอายุมากกว่า 35 ปี

3. การประเมินผลโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 ตามความคิดเห็นของครู ผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.69 , S.D. = 0.27)

4. การประเมินผลโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 โดยพิจารณาเป็นรายด้าน ดังนี้

4.1 ครูโรงเรียนบ้านชวดบัว มีความเห็นต่อการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 ในองค์ประกอบที่ 1 ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.91 , S.D. = 0.16)

4.2 ครูโรงเรียนบ้านชวดบัว มีความเห็นต่อการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 ในองค์ประกอบที่ 2 ด้านการคัดกรองนักเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄ = 4.75 , S.D. = 0.28)

4.3 ครูโรงเรียนบ้านชวดบัว มีความเห็นต่อการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 ในองค์ประกอบที่ 3 ด้านการส่งเสริมนักเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.78, S.D. = 0.28)

4.4 ครูโรงเรียนบ้านชวดบัว มีความเห็นต่อการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 ในองค์ประกอบที่ 4 ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.88 , S.D. = 0.16)

4.5 ครูโรงเรียนบ้านชวดบัว มีความเห็นต่อการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 ในองค์ประกอบที่ 5 ด้านการส่งต่อนักเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.84 , S.D. = 0.16)

4.6 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียน บ้านชวดบัว มีความเห็นต่อการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 ในองค์ประกอบที่ 1 ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.55 , S.D. = 0.32)

4.7 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียน บ้านชวดบัว มีความเห็นต่อการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 ในองค์ประกอบที่ 2 ด้านการคัดกรองนักเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.44 , S.D. = 0.42)

4.8 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียน บ้านชวดบัว มีความเห็นต่อการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 ในองค์ประกอบที่ 3 ด้านการส่งเสริมนักเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.66, S.D. = 0.36)

4.9 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียน บ้านชวดบัว มีความเห็นต่อการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 ในองค์ประกอบที่ 4 ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.53 , S.D. = 0.32)

4.10 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียน บ้านชวดบัว มีความเห็นต่อการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อส่งเสริม พัฒนา ป้องกันและช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านชวดบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก ปีการศึกษา 2559 ในองค์ประกอบที่ 5 ด้านการส่งต่อนักเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.56 , S.D. = 0.32)

โพสต์โดย ดวงเดือน แก้วปุม : [7 พ.ย. 2560 เวลา 09:00 น.]
อ่าน [4053] ไอพี : 180.180.95.122
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,767 ครั้ง
ตัดวงจรเครียด...ก่อนระเบิด
ตัดวงจรเครียด...ก่อนระเบิด

เปิดอ่าน 20,909 ครั้ง
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับความฝัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับความฝัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้

เปิดอ่าน 12,876 ครั้ง
รับประทาน "ไก่พื้นเมือง" ดีต่อสุขภาพอย่างไร
รับประทาน "ไก่พื้นเมือง" ดีต่อสุขภาพอย่างไร

เปิดอ่าน 13,651 ครั้ง
อยากเปรี้ยวอย่างมีคุณค่า ต้องถามหา "จุลินทรีย์"
อยากเปรี้ยวอย่างมีคุณค่า ต้องถามหา "จุลินทรีย์"

เปิดอ่าน 13,199 ครั้ง
การกระตุ้นพัฒนาการลูกในครรภ์
การกระตุ้นพัฒนาการลูกในครรภ์

เปิดอ่าน 37,038 ครั้ง
ศรัทธา 4
ศรัทธา 4

เปิดอ่าน 2,533 ครั้ง
รับทำ seo ให้กับทุกเว็บไซต์ติดอันดับ Google 1 วันรู้ผล
รับทำ seo ให้กับทุกเว็บไซต์ติดอันดับ Google 1 วันรู้ผล

เปิดอ่าน 19,891 ครั้ง
กฎของก๊าซ (THE GAS LAWS)
กฎของก๊าซ (THE GAS LAWS)

เปิดอ่าน 22,559 ครั้ง
เฉลยข้อสอบผิด! บทเรียนในอดีต และปัจจุบัน
เฉลยข้อสอบผิด! บทเรียนในอดีต และปัจจุบัน

เปิดอ่าน 7,968 ครั้ง
เปิดโลกเรียนรู้เจ้าหนูจอมซน
เปิดโลกเรียนรู้เจ้าหนูจอมซน

เปิดอ่าน 15,935 ครั้ง
ปะการัง
ปะการัง

เปิดอ่าน 22,574 ครั้ง
แชร์ประสบการณ์หัดพูด อังกฤษ ฉบับ Advance ได้ผลจริง
แชร์ประสบการณ์หัดพูด อังกฤษ ฉบับ Advance ได้ผลจริง

เปิดอ่าน 30,153 ครั้ง
ล้างผักผลไม้สะอาดปลอดโรค
ล้างผักผลไม้สะอาดปลอดโรค

เปิดอ่าน 19,606 ครั้ง
วิตามิน บี
วิตามิน บี

เปิดอ่าน 70,685 ครั้ง
การวิจัยในชั้นเรียน ไม่ยากอย่างที่คิด
การวิจัยในชั้นเรียน ไม่ยากอย่างที่คิด

เปิดอ่าน 39,587 ครั้ง
ทำไมหยดน้ำจึงกลิ้งบนใบบัวได้
ทำไมหยดน้ำจึงกลิ้งบนใบบัวได้
เปิดอ่าน 19,414 ครั้ง
ทานไข่วันละกี่ฟอง ถึงจะดี?
ทานไข่วันละกี่ฟอง ถึงจะดี?
เปิดอ่าน 27,397 ครั้ง
ประโยชน์จากปูทะเล
ประโยชน์จากปูทะเล
เปิดอ่าน 13,970 ครั้ง
ผู้เรียนและสังคมได้อะไร จากนโยบาย"ลดเวลาเรียน เพิ่มการเรียนรู้"
ผู้เรียนและสังคมได้อะไร จากนโยบาย"ลดเวลาเรียน เพิ่มการเรียนรู้"
เปิดอ่าน 8,023 ครั้ง
วิตามินไม่ป้องกันโรคหัวใจ คนทั่วโลกเป็นล้านหลงกินกันมานมนาน
วิตามินไม่ป้องกันโรคหัวใจ คนทั่วโลกเป็นล้านหลงกินกันมานมนาน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ