ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าซางนาเงิน สำนักงานเ

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง การพัฒนาสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน

โรงเรียนบ้านป่าซางนาเงิน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3

ชื่อผู้ศึกษา นางพัชรินทร์ จันทาพูน

ปีที่ศึกษา 2559

การพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน นับได้ว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการศึกษา เพราะสามารถส่งเสริมให้นักเรียน ได้เรียนรู้อย่างมีความสุข เต็มตามศักยภาพ และมีลักษณะนิสัยที่ดีงาม

การศึกษาครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมของโรงเรียนบ้านป่าซางนาเงิน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3ให้มีบรรยากาศร่มรื่น สวยงาม สะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โดยมีกลุ่มผู้ร่วมศึกษา จำนวน 6 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลจำนวน 46 คน ทำการศึกษาโดยใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research) ของ Kemmis และ Mc Taggart โดยใช้กระบวนการ AIC (Appreciation Influence Control) ในการกำหนดดัชนีชี้วัด กำหนดผู้รับผิดชอบ กำหนดวันและเวลาในการปฏิบัติ ก่อนนำเข้าสู่การปฏิบัติการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research) ตามวงจร P-A-O-R ดำเนินการพัฒนา จำนวน 2 วงรอบ ในแต่ละวงรอบประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นการวางแผน 2) ขั้นการปฏิบัติ 3) ขั้นการสังเกต และ 4) ขั้นการสะท้อนผล กลยุทธ์ที่ใช้ ได้แก่ การประชุมระดมความคิด การจัดกิจกรรม 5 ส. การติดตามตรวจสอบและประเมินผล โดยใช้เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล 3 ลักษณะ คือ แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสอบถามความคิดเห็น และแบบประเมินผลการปฏิบัติงาน การตรวจสอบข้อมูลใช้เทคนิคการตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า และเสนอผลการศึกษาโดยวิธีพรรณนา

ผลการศึกษาพบว่า

1.สภาพก่อนการพัฒนา พบว่า สภาพพื้นที่ของโรงเรียน ยังไม่สะอาดและไม่เป็นระเบียบขาดการวางแผนที่ดีในการปลูกต้นไม้ และการตกแต่งสวนหย่อม ไม่มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ในการดูแลรักษา ครูยังขาดการจัดสภาพภายในห้องเรียนที่เหมาะสม ไม่มีการปรับปรุงป้ายนิเทศ อย่างสม่ำ เสมอ และขาดการนิเทศติดตามที่เป็นระบบ นักเรียนไม่มีความสนใจและไม่มีแรงจูงใจ ในการเรียน เนื่องมีสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนเท่าที่ควร ยังไม่เหมาะสมในอันที่จะเสริมสร้างเจตคติค่านิยมที่ดีงาม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ให้เกิดขึ้นกับนักเรียนที่จะเติบโตขึ้น เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ไม่ก่อปัญหาให้สังคม และยังไม่สอดคล้องตามแนวทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ในด้านปัจจัยนำเข้าของการบริหารสถานศึกษาที่ต้องคำนึงถึงการจัดสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน

2.กระบวนการดำเนินการพัฒนา ผู้ศึกษาใช้รูปแบบกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research)ในการดำเนินการพัฒนา ตามแนวคิดของ Kemmis และ McTaggart ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นการวางแผน (Planning) ขั้นการปฏิบัติการ (Action) ขั้นการสังเกต (Observation) และขั้นการสะท้อนผลการปฏิบัติ (Reflection) โดยดำเนินการพัฒนาเป็น 2 วงรอบ กลยุทธ์ที่ใช้ในการดำเนินการพัฒนา ได้แก่ การประชุมระดมความคิด การจัดกิจกรรม 5 ส. และการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อวิเคราะห์ผลการดำเนินการ ได้แก่ แบบสังเกตพฤติกรรมการประชุมระดมความคิด และการจัดกิจกรรม 5 ส. แบบสอบถามความพึงพอใจการประชุมระดมความคิด และการจัดกิจกรรม 5 ส. และแบบประเมินผลการปฏิบัติงาน โดยทำการศึกษาและทำความเข้าใจข้อมูลที่รวบรวมมา แล้วหาความสัมพันธ์ของข้อมูลเหล่านั้น เพื่อกำหนดทิศทาง (Trend) และสร้างข้อสรุป แล้วนำเสนอโดยการบรรยายเป็นความเรียง (Narrative Form)

3.ผลการพัฒนา โดยภาพรวมของการดำเนินการพัฒนาสภาพแวดล้อม เพื่อให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนบ้านป่าซางนาเงิน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 ประสบผลสำเร็จตามความมุ่งหมาย กระบวนการปฏิบัติและกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้ล้วนมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล ส่งผลให้โรงเรียนบ้านป่าซางนาเงิน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน สภาพแวดล้อมทั้งในพื้นที่บริเวณสนามรอบอาคาร ภายในอาคารต่าง ๆ และในห้องเรียนได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ มีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงามอยู่ตลอดเวลา บุคลากรมีการปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสมลงตัว กิจกรรมการเรียนการสอนดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ห้องเรียนทุกห้องมีการจัดตกแต่งอย่างสวยงาม เอื้อต่อการเรียนรู้ตามเนื้อหาที่ศึกษาเล่าเรียน มีการปรับเปลี่ยนป้ายนิเทศให้เป็นปัจจุบันและทันต่อเหตุการณ์ นักเรียนมีแรงจูงใจในการเรียน ทำให้มีการพัฒนาในทางที่ดีขึ้น ทั้งในด้านการเรียนรู้วิชาการต่าง ๆ และด้านความรับผิดชอบงานในหน้าที่ รักความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งถือได้ว่าโรงเรียนได้รับการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นอย่างดี เป็นที่คาดหมายได้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนน่าจะดีขึ้นในโอกาสต่อไป เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับสถาบันหรือหน่วยงานต่าง ๆ นำไปพัฒนาเพื่อยกระดับของสถาบันหรือหน่วยงานตนเอง และสามารถใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research) เป็นแนวทางในการพัฒนางานด้านอื่น ๆ ตามภารกิจของสถานศึกษาได้เป็นอย่างดี

โพสต์โดย aew : [22 ต.ค. 2560 เวลา 14:19 น.]
อ่าน [3823] ไอพี : 110.78.183.79
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,820 ครั้ง
น้ำนมถั่วเหลือง ช่วยผิวสวย-หุ่นดี จายภายใน
น้ำนมถั่วเหลือง ช่วยผิวสวย-หุ่นดี จายภายใน

เปิดอ่าน 10,293 ครั้ง
ทำไมเราถึงหาว รู้ไหม?
ทำไมเราถึงหาว รู้ไหม?

เปิดอ่าน 11,443 ครั้ง
แม่ยุคใหม่ ที่ลูกต้องการ
แม่ยุคใหม่ ที่ลูกต้องการ

เปิดอ่าน 11,519 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 พฤษภาคม 2552
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 พฤษภาคม 2552

เปิดอ่าน 12,300 ครั้ง
ความเสียหายจากมหาวิทยาลัยไทยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน
ความเสียหายจากมหาวิทยาลัยไทยปิดเปิดเทอมตามอาเซียน

เปิดอ่าน 14,703 ครั้ง
นักกฎหมายยันแชร์ภาพดอกไม้ได้ไม่ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ แต่อย่าดัดแปลง
นักกฎหมายยันแชร์ภาพดอกไม้ได้ไม่ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ แต่อย่าดัดแปลง

เปิดอ่าน 23,541 ครั้ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง

เปิดอ่าน 33,798 ครั้ง
เคยรู้บ้างมั้ยว่า GNU/GPL คืออะไร
เคยรู้บ้างมั้ยว่า GNU/GPL คืออะไร

เปิดอ่าน 9,428 ครั้ง
How to Sync Keyboard Shortcuts with iCloud in iOS 6
How to Sync Keyboard Shortcuts with iCloud in iOS 6

เปิดอ่าน 4,088 ครั้ง
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน

เปิดอ่าน 40,099 ครั้ง
บาร์โค้ด ประวัติ การประดิษฐ์บาร์โค้ด รหัสแท่งมหัศจรรย์
บาร์โค้ด ประวัติ การประดิษฐ์บาร์โค้ด รหัสแท่งมหัศจรรย์

เปิดอ่าน 18,185 ครั้ง
มาทำความรู้จัก "พริกหวาน" กันเถอะ
มาทำความรู้จัก "พริกหวาน" กันเถอะ

เปิดอ่าน 103,269 ครั้ง
วิธีซักผ้าที่มีรอยเปื้อนชนิดต่าง ๆ
วิธีซักผ้าที่มีรอยเปื้อนชนิดต่าง ๆ

เปิดอ่าน 12,613 ครั้ง
O-net ย่ำแย่ แก้ที่ใคร คลิปแนะครูไทย เปลี่ยนวิธีสอนเด็กแบบ ท่อง-จำ
O-net ย่ำแย่ แก้ที่ใคร คลิปแนะครูไทย เปลี่ยนวิธีสอนเด็กแบบ ท่อง-จำ

เปิดอ่าน 31,826 ครั้ง
"ฮาร์เล็ม เชค (Harlem Shake)" ขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดแล้ว มาชมคลิปกันครับ
"ฮาร์เล็ม เชค (Harlem Shake)" ขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดแล้ว มาชมคลิปกันครับ

เปิดอ่าน 11,509 ครั้ง
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน
มะระขี้นก ต้านเบาหวาน
เปิดอ่าน 34,308 ครั้ง
กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2555
กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2555
เปิดอ่าน 32,004 ครั้ง
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ
ทำไมหัวไม้ขีดถึงติดไฟ
เปิดอ่าน 8,826 ครั้ง
ส่ง"เอสเอ็มเอส"บ่อยไม่ดี
ส่ง"เอสเอ็มเอส"บ่อยไม่ดี
เปิดอ่าน 11,032 ครั้ง
เตือนภัยมัลแวร์อาจโจมตีเว็บไซต์ได้
เตือนภัยมัลแวร์อาจโจมตีเว็บไซต์ได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ