ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Abstract

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนกระบวนการเผชิญสถานการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาเรื่องบทบาทหน้าที่และการดำรงชีวิตของพลเมืองดีสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางสาวนันทพัทธ์ ป้องกัน

ปีที่พิมพ์ 2559

หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาลวารินวิชาชาติ กองการศึกษา เทศบาลเมืองวารินชำราบ อำเภอวารินชำราบ

จังหวัดอุบลราชธานี

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนกระบวนการเผชิญสถานการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา เรื่องบทบาทหน้าที่และการดำรงชีวิตของพลเมืองดีสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมีขั้นตอนในการพัฒนารูปแบบ 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน 2) การออกแบบและพัฒนารูปแบบการสอน 3) การทดลองใช้รูปแบบการสอน และ 4) การประเมินผล/ปรับปรุงรูปแบบการสอนโดยการวิจัยครั้งนี้ได้ทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเทศบาลวารินวิชาชาติ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 30คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม แบบแผนการทดลองคือ One Group Pretest-Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสอบถามข้อมูลพื้นฐานเพื่อการจัดการเรียนรู้ 2) แบบสัมภาษณ์ครูผู้สอนเพื่อรวบรวมแนวคิดในการจัดกิจกรรมรูปแบบการสอน 3) รูปแบบการสอนกระบวนการเผชิญสถานการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา 4) แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 7 แผน 5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 6) แบบวัดทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหา และ 7) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนกระบวนการเผชิญสถานการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1) ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน พบว่า นักเรียนมีความสนใจในการจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบการสอนกระบวนการเผชิญสถานการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา เรื่องบทบาทหน้าที่และการดำรงชีวิตของพลเมืองดีสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เนื่องจากนักเรียนต้องการที่จะพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 ที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นสำคัญในการจัดการเรียนการสอน และกำหนดสมรรถนะหลักที่สำคัญให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนคือมีภูมิคุ้มกันที่ดีต่อการเผชิญสถานการณ์และรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมอย่างมีสติปัญญาปรับตัวในการดําเนินชีวิตประจําวันได้เหมาะสม เลือกตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆ อย่างรอบด้านโดยอาศัยหลักการของเหตุผลและคุณธรรมเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ครูผู้สอนวิชาสังคมศึกษาเห็นด้วยกับรูปแบบการสอนกระบวนการเผชิญสถานการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาที่จะนำมาพัฒนาศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพเพื่อใช้ในการพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน

2) ผลการพัฒนารูปแบบการสอนกระบวนการเผชิญสถานการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา เรื่องบทบาทหน้าที่และการดำรงชีวิตของพลเมืองดีสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ได้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า PCPSPC Model โดยรูปแบบมีองค์ประกอบคือ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการกิจกรรม สิ่งที่เสริมการเรียนรู้ได้แก่ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน สำหรับกระบวนการจัดกิจกรรมรูปแบบการสอนกระบวนการเผชิญสถานการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา มีขั้นตอนดังนี้ 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน(Presentation) 2) ขั้นเผชิญสถานการณ์(Confronted by Situations) 3) ขั้นการวิเคราะห์ปัญหา(Problem Analysis) 4) ขั้นสร้างทางเลือกแก้ปัญหา(Solutions to Problem) 5) ขั้นปฏิบัติและตรวจสอบ (Practice and Verification)และ 6) ขั้นสรุปและรายงาน(Conclusion and Report)

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนกระบวนการเผชิญสถานการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา เรื่องบทบาทหน้าที่และการดำรงชีวิตของพลเมืองดีสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3พบว่านักเรียนมีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียน ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมกับเพื่อนเป็นอย่างดี นำเสนอผลงานเป็นที่น่าพอใจ ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนมีประสิทธิภาพ E1/E2 =81.23/80.33

4. ผลการประเมิน/ปรับปรุงรูปแบบการสอนกระบวนการเผชิญสถานการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา เรื่องบทบาทหน้าที่และการดำรงชีวิตของพลเมืองดีสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องบทบาทหน้าที่และการดำรงชีวิตของพลเมืองดีหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) นักเรียนมีทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05และ 3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนกระบวนการเผชิญสถานการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหา เรื่องบทบาทหน้าที่และการดำรงชีวิตของพลเมืองดีสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย Nok : [24 ส.ค. 2560 เวลา 13:51 น.]
อ่าน [4009] ไอพี : 101.51.217.157
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 97,757 ครั้ง
เปรียบเทียบข้อแตกต่าง ป.ตรี 5 ปี กับ ป.ตรี 4 ปี ในการสอบบรรจุครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ครั้งที่ 1/2560
เปรียบเทียบข้อแตกต่าง ป.ตรี 5 ปี กับ ป.ตรี 4 ปี ในการสอบบรรจุครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ครั้งที่ 1/2560

เปิดอ่าน 17,258 ครั้ง
"แก่นตะวัน" สมุนไพรที่คนไทยควรรู้จักพืชเพื่อสุขภาพ-เป็นพลังงานทดแทน
"แก่นตะวัน" สมุนไพรที่คนไทยควรรู้จักพืชเพื่อสุขภาพ-เป็นพลังงานทดแทน

เปิดอ่าน 820 ครั้ง
ปีชง 2567 มีปีนักษัตรใดบ้าง
ปีชง 2567 มีปีนักษัตรใดบ้าง

เปิดอ่าน 14,785 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2553
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2553

เปิดอ่าน 11,912 ครั้ง
เจาะนวัตกรรม 4 ล้อ ในปี 2553
เจาะนวัตกรรม 4 ล้อ ในปี 2553

เปิดอ่าน 15,455 ครั้ง
ล้างพิษด้วยตนเองใน 1 วัน‏
ล้างพิษด้วยตนเองใน 1 วัน‏

เปิดอ่าน 113,767 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 12 การเล่นที่ผิดกติกาและประพฤติผิด
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 12 การเล่นที่ผิดกติกาและประพฤติผิด

เปิดอ่าน 33,875 ครั้ง
Plasma TV คืออะไร
Plasma TV คืออะไร

เปิดอ่าน 56,543 ครั้ง
โลกนี้มีกี่ภาษา
โลกนี้มีกี่ภาษา

เปิดอ่าน 128,399 ครั้ง
น้ำค้างเกิดขึ้นจากอะไร
น้ำค้างเกิดขึ้นจากอะไร

เปิดอ่าน 16,322 ครั้ง
คลิปเณรน้อยอายุแค่ 3 ขวบ สวดมนต์ให้พรคล่องปรื๋อ (ชมคลิป)
คลิปเณรน้อยอายุแค่ 3 ขวบ สวดมนต์ให้พรคล่องปรื๋อ (ชมคลิป)

เปิดอ่าน 9,740 ครั้ง
หัวเราะฮา ฮ่า เป็นยาวิเศษ!!
หัวเราะฮา ฮ่า เป็นยาวิเศษ!!

เปิดอ่าน 145,879 ครั้ง
บัญชีเงินเดือนข้าราชการครู
บัญชีเงินเดือนข้าราชการครู

เปิดอ่าน 14,629 ครั้ง
ไม่อยากให้ลูกลำบาก!! เทคนิคง่ายๆ สอนเด็กให้เป็น "เศรษฐี"
ไม่อยากให้ลูกลำบาก!! เทคนิคง่ายๆ สอนเด็กให้เป็น "เศรษฐี"

เปิดอ่าน 8,641 ครั้ง
เรื่องเล่าดีๆ เมื่อหนุ่มทำมือถือตกในแท็กซี่ โทรไปก็ไม่มีคนรับ ผลสุดท้ายคือ...
เรื่องเล่าดีๆ เมื่อหนุ่มทำมือถือตกในแท็กซี่ โทรไปก็ไม่มีคนรับ ผลสุดท้ายคือ...

เปิดอ่าน 21,700 ครั้ง
การศึกษาประชารัฐ FOCUS ที่พัฒนาครู
การศึกษาประชารัฐ FOCUS ที่พัฒนาครู
เปิดอ่าน 19,491 ครั้ง
เหรียญปราบฮ่อ
เหรียญปราบฮ่อ
เปิดอ่าน 11,828 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จ ถ้าไม่รื้อรากความงมงาย
ปฏิรูปการศึกษาไม่มีวันสำเร็จ ถ้าไม่รื้อรากความงมงาย
เปิดอ่าน 96,633 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal):  กติกาข้อ 8  ระยะเวลาของการแข่งขัน
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 8 ระยะเวลาของการแข่งขัน
เปิดอ่าน 9,095 ครั้ง
พืชผักสวนครัว
พืชผักสวนครัว

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ