ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
เผยแพร่การประเมินความพึงพอใจการรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2558

เผยแพร่การประเมินความพึงพอใจการรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2558

โดย นางโสภา สุภาสอน นักวิชาการศึกษาชำนาญการ สพป.ลำปาง เขต 2

------------------------------

การรายงานผลการรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2558 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง มีจุดมุ่งหมาย เพื่อรายงานวิธีการดำเนินงานการรับนักเรียน เพื่อรายงานผลการรับนักเรียนตามนโยบาย แนวทางการรับนักเรียน เพื่อรายงานความคิดเห็นต่อการดำเนินงานการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558 และเพื่อรายงานแนวทางการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2559 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 ประชากรที่ทำการศึกษาเป็นผู้บริหารโรงเรียน ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของสถานศึกษาในสังกัด ครู/บุคลากรทางการศึกษาที่ทำหน้าที่รับนักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียน ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 ทุกแห่ง รวม 139 โรงเรียน (ไม่รวมโรงเรียนเรียนรวม จำนวน 19 แห่ง) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลความคิดเห็นที่มีต่อการรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2558 ได้แก่ แบบสอบถาม จำนวน 1 ฉบับ แบ่งออกเป็น 4 ตอน คือ ตอนที่ 1 แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีต่อนโยบายการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558 ตอนที่ 3 ความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558 และตอนที่ 4 แบบสอบถามข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2559 การวิเคราะห์ข้อมูลได้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป วิธีการทางสถิติประกอบด้วย การแจกแจงความถี่ การหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

สรุปผล

ผลการดำเนินงานที่พบ ดังนี้

ผลการรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2558 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ผู้รายงานได้นำเสนอ

1. วิธีการดำเนินงานการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558 ของสำนักงานเขตพื้นที่

การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 ได้ดำเนินการรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2558 เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้ทั่วถึง ครอบคลุมผู้เรียนได้รับโอกาสในการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ ระดับอนุบาล 1 ประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยจัดทำโครงการส่งเสริมและพัฒนาการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558 ซึ่งได้ประกาศนโยบายและแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง

- 2 –

เขต 2 ประจำปีการศึกษา 2558 ประกาศให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาที่จัดการศึกษาภาคบังคับ ปีการศึกษา 2558 ประกาศการจัดสรรโอกาสเข้าศึกษาต่อในสถานศึกษาที่อยู่ในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ ปีการศึกษา 2558 แต่งตั้งคณะกรรมการรับนักเรียนระดับเขตพื้นที่การศึกษา ประจำปีการศึกษา 2558 พร้อมทั้งเชิญประชุมคณะกรรมการรับนักเรียนฯ จัดตั้งศูนย์ประสานงานการรับนักเรียนระดับเขตพื้นที่การศึกษาและระดับโรงเรียน ปีการศึกษา 2558 ขอความอนุเคราะห์ข้อมูลประชากรวัยเรียนอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 16 ปี ตาม ทร.14 จากสำนักทะเบียนในเขตอำเภอที่รับผิดชอบ รวม 19 แห่ง แจ้งจุดเน้นการรับนักเรียนให้โรงเรียนดีประจำตำบล โรงเรียนดีประจำอำเภอพร้อมทั้งให้โรงเรียนดังกล่าวขึ้นป้าย “เรียนโรงเรียนดี ดีกว่าเรียนโรงเรียนดัง” แจ้งให้โรงเรียนทุกแห่งในสังกัดเข้าร่วมอบรมโครงการการใช้โปรแกรมรายงานข้อมูลการรับนักเรียนประจำปี 2558 แจ้งให้โรงเรียนอำนวยความสะดวกในการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการรับนักเรียนของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ปีการศึกษา 2558 แจ้งให้โรงเรียนชมการถ่ายทอดสดงานมหกรรมตลาดนัดนักเรียนต่อชั้น ม.1 และชั้น ม.4 และประชุมชี้แจงเกี่ยวกับการเกณฑ์เด็กเข้าเรียน ประจำปีการศึกษา 2558 ตลอดจนประชาสัมพันธ์ การรับนักเรียนจากสถาบันต่าง ๆ ให้โรงเรียนในสังกัดทราบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

2. รายงานผลการรับนักเรียนตามนโยบายและแนวทางการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 ได้ดำเนินการรับนักเรียนตามนโยบายและแนวทางการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558 สรุปผลการรับนักเรียนในภาพรวมระดับชั้นอนุบาล 1 ประกาศรับสมัครไว้จำนวน 139 โรงเรียน 1,696 คน มีผู้มาสมัครจำนวน 1,196 คน รับไว้จำนวน 1,196 คน เมื่อเทียบข้อมูลระหว่างการสมัครไว้กับรับไว้คิดเป็นร้อยละ 100.00 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประกาศรับสมัครไว้จำนวน 139 โรงเรียน 1,638 คน มีผู้มาสมัครจำนวน 1,291 คน รับไว้จำนวน 1,291 คน เมื่อเทียบข้อมูลระหว่างการรับสมัครกับรับไว้ คิดเป็นร้อยละ 100.00 และ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประกาศรับสมัครไว้จำนวน 719 คน มีผู้มาสมัครจำนวน 587 คน รับไว้จำนวน 587 คน เมื่อเทียบข้อมูลระหว่างการสมัครไว้กับรับไว้คิดเป็นร้อยละ 100.00

- 3 -

3. รายงานความคิดเห็นที่มีต่อการดำเนินงานการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558

ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 ได้ดำเนินการติดตามการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558 ระดับความคิดเห็นที่มีต่อนโยบายการรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2558 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 โดยรวมพบว่า ระดับความคิดเห็นที่มีต่อนโยบายการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558 โดยรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด (μ= 4.57) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า มีระดับ ความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด 10 ข้อ ได้แก่ การประกันโอกาสเด็กที่อยู่ในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับได้เข้ารับการศึกษาภาคบังคับครบทุกคน ( μ= 4.72) การสนับสนุนให้เด็กก่อนประถมศึกษาได้เข้ารับการศึกษาตามความเหมาะสม (μ= 4.71) การ ส่งเสริมให้ทุกโรงเรียนมีกระบวนการรับนักเรียนที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นธรรมและเสมอภาค(μ= 4.69) การส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กพิการและผู้ด้อยโอกาสได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง และได้รับการพัฒนาอย่างเต็มความสามารถ (μ= 4.65) การส่งเสริมให้เด็กได้รับการศึกษาตามความถนัด ความสนใจและเต็มตามศักยภาพ

(μ= 4.60) การส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษด้านต่าง ๆ ได้รับการศึกษาที่เหมาะสมและได้รับการพัฒนาอย่างเต็มตามศักยภาพ (μ= 4.58) การสนับสนุนให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา แจ้งเด็ก เยาวชน และผู้ปกครองที่นักเรียนจะเข้าเรียนในระดับประถมศึกษาทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับสถานที่เรียน (μ= 4.54) การสนับสนุนให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสร้างภาคีเครือข่ายการรับนักเรียน และประสานการรับนักเรียนเพื่อการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาอย่างกว้างขวาง (μ= 4.52) การส่งเสริมให้มีการประชาสัมพันธ์การรับนักเรียนอย่างหลากหลาย เปิดให้มีการเยี่ยมชมโรงเรียนก่อนการรับนักเรียน (μ= 4.51) และการส่งเสริมให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ดำเนินการรับนักเรียนภายในจังหวัดร่วมกัน และดูแลการรับนักเรียนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (μ = 4.50) และอยู่ในระดับมาก จำนวน 2 ข้อ ได้แก่ การส่งเสริมให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ติดตามดูแลให้จำนวนนักเรียนต่อห้องเรียนมีความเหมาะสม (μ= 4.49) และการสนับสนุนให้โรงเรียนมีการระดมทรัพยากรจากเด็กที่ได้เข้าเรียนแล้ว แต่ไม่หรับเงินบริจาคโดยมีเงื่อนไชผูกพันกับการเข้าเรียน (μ= 4.38) ตามลำดับ สำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับการรับนักเรียนระดับประถมศึกษา จำนวนไม่เกิน 40 คน ต่อห้องเรียน จำนวน 573 คน คิดเป็นร้อยละ 81.30 และไม่เห็นด้วย จำนวน 122 คน คิดเป็นร้อยละ 18.70 ส่วนใหญ่เห็นด้วยการยกเลิกการนำเสนอผลคะแนน O-NET ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการเข้าศึกษาต่อใน

- 4 -

ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง จำนวน 450 คน คิดเป็นร้อยละ 63.80 และไม่เห็นด้วย จำนวน 245 คน คิดเป็นร้อยละ 36.20 ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกเขตพื้นที่บริหารของโรงเรียนระดับประถมศึกษา จำนวน 470 คน คิดเป็นร้อยละ 68.10 และเห็นด้วย จำนวน 225 คน คิดเป็นร้อยละ 31.90 และส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกเขตพื้นที่บริการของโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 431 คน คิดเป็นร้อยละ 62.60 และเห็นด้วย จำนวน 264 คน คิดเป็นร้อยละ 37.40 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2559 ได้แก่ ไม่ควรสนับสนุนโรงเรียนเอกชน (f=2) ถ้านักเรียนหรือผู้ปกครองต้องการจะนำนักเรียนไปเรียน ณ ที่ใดก็ได้ (f=4) ข้อสอบออกยากเกินไป (f=1) ควรให้นักเรียนเรียนใกล้บ้าน (f=1) การประชุม อบรม บุคลากรทางการศึกษา ควรพยายามจัดให้เหมาะสมกับเวลา ที่ไม่กระทบกับการเรียนการสอนของเด็ก เช่น วันหยุด วันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือปิดภาคเรียน เป็นต้น (f=1) ให้มีการรับเด็กได้ทั่วไป เพื่อให้โรงเรียนได้ปรับปรุงคุณภาพโรงเรียนให้ดีขึ้น (f=1) มีการประกาศรับจำนวนนักเรียนที่แน่นอนของแต่ละห้อง และจำนวนห้องเรียน (f=1)โรงเรียนประถมศึกษาส่วนมากมีแนวโน้มจำนวนนักเรียนลดลงเกือบทุกแห่ง ควรใช้ระเบียบนี้กับโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงเท่านั้น (f=1) ควร กีดกันการรับนักเรียนข้ามเขตพื้นที่บริการหรือห้ามรับ (f=1) ควรมีนโยบายและแนวทางการรับนักเรียนที่เกิดประโยชน์แก่ทุกโรงเรียนที่จะทำให้โรงเรียนที่มีอัตรานักเรียนและครูเพิ่มขึ้น ส่งผลให้งบประมาณพัฒนาโรงเรียนมากขึ้น มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น (f=2) . โรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงควรมีแนวทางเป็น 2 ส่วนได้แก่ รับตรงโดยวิธีสอบคัดเลือก 50% และพิจารณาคัดเลือกใกล้บ้าน 50% (f=1) การเปิดรับนักเรียน และการสอบคัดเลือกนักเรียนที่มีการแข่งขันสูง ให้ยกเลิกโควตาที่ไม่ได้ใช้ความสามารถของเด็ก (เด็กปกติ) ให้หมดไป และควรใช้ข้อสอบเพื่อคัดเลือก (f=1)ควรจัดการรับนักเรียนให้ชัดเจน โดยเฉาพะโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง (f=1) โรงเรียนที่มีการแข่งขัน ควรเปิดโอกาสให้มีระบบโควตา สำหรับโรงเรียน (f=1) ประถมศึกษาที่อยู่นอกเขตบริการเพื่อกระจายโอกาสให้กับนักเรียนได้เรียนโรงเรียนดี ๆ (f=1) นักเรียนสามารถเรียนโรงเรียนไหนก็ได้ ถ้าหากภาครัฐและภาคองค์กรต่าง ๆ ให้การสนับสนุนโรงเรียนแต่ละแห่งเป็น อย่างดี มีครู มีสื่อ วัสดุอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก คณะผู้บริหารทุกระดับ คณะกรรมการต่าง ๆ ทุกระดับ

ตลอดจนถึงคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะครู ผู้ปกครอง ดูแล เอาใจใส่ทุกด้าน ย่อมทำให้โรงเรียนแต่ละแห่งเจริญเท่าเทียมกันได้มากขึ้น นักเรียนก็จะไม่แย่งกันเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการเข้าเรียนมากมาย (f=1) การรับนักเรียนในปีการศึกษาต่อไปควรคำนึงถึงคุณภาพการศึกษาให้มากที่สุด เช่น โรงเรียนขนาดเล็ก ห่างไกล มีครู 1-2 คน แต่มีนักเรียนจำนวน 40-50 คน จะเอาคุณภาพการศึกษาเท่าเทียมกับ

- 5 –

โรงเรียนขนาดใหญ่ในเมืองก็เป็นไปได้ยาก แต่ถ้าคำนึงถึงในจุดนี้ เด็กไทยคงไม่ด้อยคุณภาพ จัดครูให้ครบชั้น สื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ คุณภาพเด็กบ้านนอก-ในเมือง คงไม่ต่างกัน (f=1) ไม่ควรให้นักเรียนไปเรียนเขตพื้นที่บริการของตำบลอื่น ซึ่งจะทำให้นักเรียนแต่ละโรงลดจำนวนลง (f=1) ไม่ควรนำผล O-NET ใช้ในการศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา เพราะโรงเรียนรอบนอกจะไม่ค่อยมีโอกาสที่จะได้เรียนในโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง (f=1) การศึกษารัฐ ควรให้การสนับสนุนอย่างทั่วถึงทั้งโรงเรียนรอบนอกและในเมืองโดยเฉพาะโรงเรียนบ้านนอกจะด้อยโอกาสกว่านักเรียนในเมืองหรือระดับอำเภอ รัฐให้การสนับสนุนโรงเรียนที่อยู่ในเขตในเมืองมากว่าโรงเรียนรอบนอก จึงทำให้ผู้ปกครองส่งบุตรหลานเข้าไปเรียนโรงเรียนใหญ่ ๆ ในเมือง ซึ่งจะสร้างปัญหาสังคมที่เปลี่ยนแปลง แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น มีความเห็นแก่ตัว ติดเป็นนิสัยคนในเมือง (f=1) โรงเรียนบ้านนอกหรือรอบนอก สังคมเล็ก เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือกัน มีความรักกัน อบอุ่นในครอบครัว มีความใกล้ชิดกันทุกวัน รัฐควรให้การส่งเสริมสังคมที่มีความสุขให้คงทนและยั่งยืน การศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตที่เป็นจริง (f=1) เพื่อแก้ไขปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กไม่ให้ยุบเลิก ควรให้นักเรียนในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียน เพื่อไม่ให้เด็กนักเรียนไปเรียนในโรงเรียนในเมืองหรือในอำเภอ ควรส่งเสริมให้นักเรียนเรียนในเขตพื้นที่บริการ ส่งเสริมโรงเรียนขนาดเล็กให้มีครูครบชั้น (f=2) ควรมีการเปลี่ยนแปลงอายุของการรับนักเรียน (เกณฑ์การนับอายุ) เพราะผู้ปกครองนำนักเรียนไปเรียนโรงเรียนเอกชนตั้งแต่อายุ 2-3 ปี ควรมีเกณฑ์อายุอนุบาล 3 ขวบ (f=1) ควรรับนักเรียนตามเกณฑ์ (f=1) อยากให้มีการทดสอบ O-NET ครบทุกระดับชั้น (f=1) ระยะเวลาในการเปิดรับนักเรียนไม่สอดคล้องกับช่วงเวลาจบการศึกษา เพราะช่วงเวลาการรับสมัครค่อนข้างเร็ว อยากให้เปิดรับสมัครช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี (f=1) ควรยุบเลิกสถานศึกษาหรือส่งเสริมโรงเรียนประจำตำบลต่อไป (f=1) และควรจะตามใจผู้ปกครอง อยากให้บุตรหลานเรียนที่ไหนเชิญตามอัธยาศัย (f=1)

อภิปรายผล

ผลการรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2558 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ผู้รายงานได้นำมาอภิปรายดังต่อไปนี้

1. วิธีการดำเนินงานการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 ได้ดำเนินการรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2558 เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้ทั่วถึง ครอบคลุมผู้เรียนได้รับโอกาสในการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ ระดับอนุบาล 1 ประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยจัดทำโครงการส่งเสริมและพัฒนาการ

- 6 –

รับนักเรียน ปีการศึกษา 2558 ซึ่งสอดคล้องและเป็นไปตามประกาศนโยบายและแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีการศึกษา 2558 (กระทรวงศึกษาธิการ, 2558)

2. ผลการรับนักเรียนในภาพรวมระดับชั้นอนุบาล 1 ประกาศรับสมัครไว้จำนวน 139โรงเรียน 1,696 คน มีผู้มาสมัครจำนวน 1,196 คน รับไว้จำนวน 1,196 คน เมื่อเทียบข้อมูลระหว่างการสมัครไว้กับรับไว้คิดเป็นร้อยละ 100.00 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประกาศรับสมัครไว้จำนวน 139 โรงเรียน 1,638 คน มีผู้มาสมัครจำนวน 1,291 คน รับไว้จำนวน 1,291 คน เมื่อเทียบข้อมูลระหว่างการสมัครกับรับไว้ คิดเป็นร้อยละ 100.00 และ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประกาศรับสมัครไว้จำนวน 719 คน มีผู้มาสมัครจำนวน 587 คน รับไว้จำนวน 587 คน เมื่อเทียบข้อมูลระหว่างการสมัครกับรับไว้คิดเป็นร้อยละ 100.00 แสดงว่าประเด็นดังกล่าวอาจเป็นเพราะ สถานศึกษาในสังกัดส่วนใหญ่ไม่เป็นโรงเรียนยอดนิยม คณะกรรมการสถานศึกษา จึงวิเคราะห์จำนวนที่ประกาศรับไม่เป็นไปตามประชากรวัยเรียน ทำให้จำนวนการรับนักเรียนที่รับไว้เมื่อเทียบกับจำนวนที่ประกาศรับจึงไม่สอดคล้องกัน

3. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 ได้ดำเนินการติดตามการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558 ระดับความคิดเห็นที่มีต่อนโยบายการรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2558 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 โดยรวมพบว่า ระดับความคิดเห็นที่มีต่อนโยบายการรับนักเรียนปีการศึกษา 2558 อยู่ในระดับมากที่สุด (μ =4.57) และเห็นด้วยกับการรับนักเรียนระดับประถมศึกษา จำนวนไม่เกิน 40 คน ต่อห้องเรียน จำนวน 573 คน คิดเป็นร้อยละ 81.30 และไม่เห็นด้วย จำนวน 122 คน คิดเป็นร้อยละ 18.70 ส่วนใหญ่เห็นด้วยการยกเลิกการนำเสนอผลคะแนน O-NET ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง จำนวน 450 คน คิดเป็นร้อยละ 63.80 และไม่เห็นด้วย จำนวน 245 คน คิดเป็นร้อยละ 36.20 ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกเขตพื้นที่บริหารของโรงเรียนระดับประถมศึกษา จำนวน 470 คน คิดเป็นร้อยละ 68.10 และเห็นด้วย จำนวน 225 คน คิดเป็นร้อยละ 31.90 และส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกเขตพื้นที่บริการของโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 431 คน คิดเป็นร้อยละ 62.60 และเห็นด้วย จำนวน 264 คน คิดเป็นร้อยละ 37.40 ตามลำดับ แสดงว่าประเด็นดังกล่าวอาจเป็นเพราะสถานศึกษาส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง เป็นโรงเรียนทั่วไป จึงไม่กระทบต่อการดำเนินงานการรับนักเรียนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 แต่อย่างใด

- 7 -

4. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 ได้ดำเนินการติดตามการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558 และได้เสนอความคิดเห็นที่มีต่อแนวทาง การรับนักเรียน ประจำปีการศึกษา 2559 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 2 ไว้ให้สถานศึกษาควรมีแนวทางการรับนักเรียนที่เปิดโอกาสให้นักเรียนไปสมัครเรียนในสถานศึกษาได้ทุกแห่งทั่วประเทศ (F=4) ไม่ควรสนับสนุนโรงเรียนเอกชน (F=2) ควรมีนโยบายและแนวการรับนักเรียนที่เกิดประโยชน์แกทุกโรงเรียนที่จะทำให้โรงเรียนที่มีอัตรานักเรียนและครูเพิ่มขึ้น ส่งผลให้งบประมาณพัฒนาโรงเรียนมากขึ้น มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น (F=2) และเพื่อแก้ไขปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กไม่ให้ยุบเลิก ควรให้นักเรียนในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียน เพื่อไม่ให้เด็กนักเรียนไปเรียนในโรงเรียนในเมืองหรือในอำเภอ ควรส่งเสริมให้นักเรียนเรียนเรียนในเขตพื้นที่บริการ ส่งเสริมโรงเรียนขนาดเล็กให้มีครูครบชั้น (F=2) แสดงว่า ประเด็นดังกล่าวอาจเป็นเพราะ ผู้ปกครองนำบุตรหลานไปสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง ทำให้โรงเรียนกำหนดนโยบายให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนใกล้บ้าน อีกทั้งยังเป็นการแก้ไขปัญหาการยุบเลิกโรงเรียนขนาดเล็กเนื่องจากมีจำนวนนักเรียนน้อย

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการดำเนินงานไปใช้

จากผลการดำเนินงานครั้งนี้ ผู้รายงานได้ประมวลสรุปผลและมีข้อเสนอแนะในการนำผลการดำเนินงานไปประยุกต์ใช้เกี่ยวกับการวางแผนปรับปรุงการดำเนินงานการรับนักเรียนในปีการศึกษา 2559 ดังนี้

1.1 ผู้บริหารสถานศึกษา ควรประชุมชี้แจงให้ผู้ปกครองทราบถึงแนวปฏิบัติและวิธีการดำเนินงานการรับนักเรียน โดยไม่เน้นค่านิยมการส่งบุตรหลานเข้าเรียนเฉพาะโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง และหันมาเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน ตลอดจนปัญหาการรับนักเรียนและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับแนวทางและวิธีการรับนักเรียนอย่างต่อเนื่อง

1.2 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ควรมีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางการรับนักเรียนของสถานศึกษา

- 8 -

2. ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานครั้งต่อไป

ความคิดเห็นต่อการดำเนินงานการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558 ใช้แบบสอบถาม ซึ่งไม่สามารถทำการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกได้ ควรจะศึกษาด้วยวิธีอื่น เช่น สัมภาษณ์ สังเกต ร่วมกันที่หลากหลายวิธี ก็จะทำให้สามารถศึกษาเรื่องนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

-------------------------------

โพสต์โดย ตุ๊ : [5 ส.ค. 2560 เวลา 06:52 น.]
อ่าน [3752] ไอพี : 171.4.243.91
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 8,580 ครั้ง
Smart Thailand
Smart Thailand

เปิดอ่าน 10,517 ครั้ง
ปรับโฉมคนทำงาน ด้วยความสามารถด้านการเชื่อมต่อและระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัล
ปรับโฉมคนทำงาน ด้วยความสามารถด้านการเชื่อมต่อและระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัล

เปิดอ่าน 12,286 ครั้ง
ดูให้ชัด รัฐธรรมนูญ ม.286 ให้มีการปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคนแน่ หรือ?
ดูให้ชัด รัฐธรรมนูญ ม.286 ให้มีการปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคนแน่ หรือ?

เปิดอ่าน 15,787 ครั้ง
คลิป โอบามา เต้นกังนัมสไตล์
คลิป โอบามา เต้นกังนัมสไตล์

เปิดอ่าน 38,516 ครั้ง
ภาษาน่ารู้ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาดัตช์ ภาษาอิตาเลียน
ภาษาน่ารู้ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาดัตช์ ภาษาอิตาเลียน

เปิดอ่าน 32,332 ครั้ง
ประวัติ วัน คริสต์มาส
ประวัติ วัน คริสต์มาส

เปิดอ่าน 19,084 ครั้ง
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 18,985 ครั้ง
วิธีกินอย่างฉลาด
วิธีกินอย่างฉลาด

เปิดอ่าน 10,352 ครั้ง
17 พฤติกรรมบ่งชี้ ออทิสติกในเด็ก
17 พฤติกรรมบ่งชี้ ออทิสติกในเด็ก

เปิดอ่าน 32,416 ครั้ง
ศิลปะการเห่เรือ
ศิลปะการเห่เรือ

เปิดอ่าน 19,544 ครั้ง
อยากประสบความสำเร็จต้องอ่าน ความจริง 3 ข้อที่คนทำงานไม่อาจมองข้าม
อยากประสบความสำเร็จต้องอ่าน ความจริง 3 ข้อที่คนทำงานไม่อาจมองข้าม

เปิดอ่าน 73,194 ครั้ง
การเรียนรู้ตลอดชีวิต คืออะไรและสำคัญตรงไหน แล้วเกี่ยวอะไรกับปรัชญาพิพัฒนาการนิยม
การเรียนรู้ตลอดชีวิต คืออะไรและสำคัญตรงไหน แล้วเกี่ยวอะไรกับปรัชญาพิพัฒนาการนิยม

เปิดอ่าน 19,485 ครั้ง
อวสาน อ.ก.ค.ศ. โดย อดิศร เนาวนนท์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
อวสาน อ.ก.ค.ศ. โดย อดิศร เนาวนนท์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

เปิดอ่าน 29,011 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2553
ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2553

เปิดอ่าน 14,369 ครั้ง
เทคนิคการนำเสนอเรื่องในที่ประชุม
เทคนิคการนำเสนอเรื่องในที่ประชุม

เปิดอ่าน 15,558 ครั้ง
ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น
ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น
เปิดอ่าน 25,625 ครั้ง
รอบรู้เรื่องการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย
รอบรู้เรื่องการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย
เปิดอ่าน 59,373 ครั้ง
พระพุทธรูปในศิลปะไทยสมัยต่าง ๆ
พระพุทธรูปในศิลปะไทยสมัยต่าง ๆ
เปิดอ่าน 5,906 ครั้ง
การประเมินจากภายนอกสถานศึกษาจำเป็นหรือไม่?
การประเมินจากภายนอกสถานศึกษาจำเป็นหรือไม่?
เปิดอ่าน 94,875 ครั้ง
การหาประสิทธิภาพสื่อ
การหาประสิทธิภาพสื่อ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ