ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ชื่อเรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทยด้านการอ่านคำตามมาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช

รายงานการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทยด้านการอ่านคำตามมาตราตัวสะกดชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด รอบรั้วโรงเรียนเรา ประกอบการจัดกิจกรรมแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิคSTAD โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ สังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1)พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านคำตามมาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่2 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด รอบรั้วโรงเรียนเรา ประกอบการจัดกิจกรรมแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STADให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2)เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านคำตามมาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด รอบรั้วโรงเรียนเรา ประกอบการจัดกิจกรรมแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD(3)ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของนักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านคำตามมาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่2 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด รอบรั้วโรงเรียนเรา ประกอบการจัดกิจกรรมแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD (4)ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านคำตามมาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด รอบรั้วโรงเรียนเรา ประกอบการจัดกิจกรรมแบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่2/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559จำนวน 32 คนได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) โดยกำหนดหน่วยเป็นห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ(1) หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดรอบรั้วโรงเรียนเรา มีจำนวน 8 เล่ม ประกอบด้วย เล่มที่ 1 เรื่อง การละเล่นของหนู เล่มที่ 2 เรื่องกิจกรรมหน้าเสาธง เล่มที่ 3 เรื่อง รู้จักประชาธิปไตยเล่มที่ 4 เรื่องกิจกรรมวันสำคัญเล่มที่ 5 เรื่อง สระน้ำโลมา เล่มที่ 6 เรื่องสวนป่าท่าโพธิ์เล่มที่ 7เรื่อง สื่อใจผ่านกายเล่มที่ 8 เรื่อง ห้องเรียนของหนู ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา 5 คน มีค่าเฉลี่ยระหว่าง 4.60 ถึง 4.65 โดยรวมเฉลี่ยเท่ากับ 4.63 มีความเหมาะสมมากที่สุด และนำไปทดลองใช้กับกลุ่มทดลองรายบุคคล (Individual Tryout) แบบหนึ่งต่อหนึ่ง จำนวน 3 คน ได้ค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 62.08/61.67 ปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องให้สมบูรณ์นำไปทดลองใช้กับกลุ่มทดลองกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) จำนวน 9 คน ได้ค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ เท่ากับ 73.37/72.78 ปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องให้สมบูรณ์ นำไปทดลองใช้กับกลุ่มทดลองภาคสนาม (Individual Try –Out ) จำนวน 30 คนได้ค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.99/81.17มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ (2) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านคำตามมาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด รอบรั้วโรงเรียนเรา ประกอบการจัดกิจกรรมแบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STADมีจำนวน 8 แผน ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา ด้านกระบวนการ5 คนซึ่งมีค่าเฉลี่ยระหว่าง 4.66 ถึง 4.72 โดยรวมค่าเฉลี่ยเท่ากับ4.69มีความเหมาะสมมากที่สุด และนำไปทดลองใช้กับกลุ่มทดลองภาคสนาม (Individual Try –Out ) จำนวน 30 คน ปรับปรุงจนมีประสิทธิภาพตามที่กำหนดไว้ (3) แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์การเรียนจำนวน 20 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย (p) ระหว่าง 0.53 - 0.60 ค่าอำนาจจำแนก (r) ระหว่าง 0.80-0.93 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ KR20 = 0.991(4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านคำตามมาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด รอบรั้วโรงเรียนเรา ประกอบการจัดกิจกรรมแบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD เมื่อนำผลมาวิเคราะห์เพื่อหาคุณภาพเครื่องมือ พบว่า แบบวัดความพึงพอใจมีค่าความเชื่อมั่น โดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบัค เท่ากับ 0.866 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้เปรียบเทียบ ได้แก่ t - testแบบ Independent

ผลการวิจัย พบว่า

1.กิจกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านคำตามมาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด รอบรั้วโรงเรียนเรา ประกอบการจัดกิจกรรมแบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิคSTAD ที่ได้รับการพัฒนามีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ84.96/84.38

2. นักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านคำตามมาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด รอบรั้วโรงเรียนเรา ประกอบการจัดกิจกรรมแบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3.นักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านคำตามมาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด รอบรั้วโรงเรียนเรา ประกอบการจัดกิจกรรมแบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STADมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6653หมายความว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น เท่ากับ 0.6677 หรือคิดเป็นร้อยละ 66.77

4. นักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านคำตามมาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด รอบรั้วโรงเรียนเรา ประกอบการจัดกิจกรรมแบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD มีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมาก( = 4.50)

แสดงว่าการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านคำตามมาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุด รอบรั้วโรงเรียนเรา ประกอบการจัดกิจกรรมแบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการเรียนรู้ภาษาไทยด้านการอ่าน สำหรับนักเรียนชั้นประถมปีที่ 2ได้เป็นอย่างดี

โพสต์โดย โจ : [2 ส.ค. 2560 เวลา 11:41 น.]
อ่าน [3745] ไอพี : 202.29.178.216
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 57,641 ครั้ง
คอมพิวเตอร์กราฟิกกับการประยุกต์ใช้ในงานด้านต่าง ๆ
คอมพิวเตอร์กราฟิกกับการประยุกต์ใช้ในงานด้านต่าง ๆ

เปิดอ่าน 86,377 ครั้ง
แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของแม็คเคลแลนด์
แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของแม็คเคลแลนด์

เปิดอ่าน 11,403 ครั้ง
5 ทริคประหยัดเงินค่าอาหารในช่วงใกล้สิ้นเดือน
5 ทริคประหยัดเงินค่าอาหารในช่วงใกล้สิ้นเดือน

เปิดอ่าน 9,825 ครั้ง
เตือน แมงกะพรุนกล่อง อาละวาด พิษแรง สัมผัสถึงตาย
เตือน แมงกะพรุนกล่อง อาละวาด พิษแรง สัมผัสถึงตาย

เปิดอ่าน 9,144 ครั้ง
สภาวการณ์การศึกษาไทยในเวทีโลก ปี 2557
สภาวการณ์การศึกษาไทยในเวทีโลก ปี 2557

เปิดอ่าน 26,825 ครั้ง
เทคโนโลยีมัลติมีเดีย
เทคโนโลยีมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 22,538 ครั้ง
อาหารยอดนิยมในอาเซียน (ลาว)
อาหารยอดนิยมในอาเซียน (ลาว)

เปิดอ่าน 9,916 ครั้ง
9 ปัญหาสุขภาพ ที่ควรบอกผ่านการขับรถ
9 ปัญหาสุขภาพ ที่ควรบอกผ่านการขับรถ

เปิดอ่าน 6,108 ครั้ง
ผลการสอบไม่สามารถบอกได้ทุกอย่าง
ผลการสอบไม่สามารถบอกได้ทุกอย่าง

เปิดอ่าน 12,466 ครั้ง
รักษาอาการท้องเสียด้วยฝรั่ง
รักษาอาการท้องเสียด้วยฝรั่ง

เปิดอ่าน 16,954 ครั้ง
"จันทรุปราคา"กับ"ทางช้างเผือก" 15มิถุนาฯ-ค่ำคืนมองฟ้าสุดอัศจรรย์
"จันทรุปราคา"กับ"ทางช้างเผือก" 15มิถุนาฯ-ค่ำคืนมองฟ้าสุดอัศจรรย์

เปิดอ่าน 28,645 ครั้ง
เลิกโทษเด็กนักเรียนได้ไหม? คอลัมน์สุจิตต์ วงษ์เทศ
เลิกโทษเด็กนักเรียนได้ไหม? คอลัมน์สุจิตต์ วงษ์เทศ

เปิดอ่าน 7,403 ครั้ง
วิธีเฟ้นคนแบบ "Google" ไม่สนปริญญา
วิธีเฟ้นคนแบบ "Google" ไม่สนปริญญา

เปิดอ่าน 24,050 ครั้ง
อาหารดีที่ควรมีติดบ้าน-ทานประจำทำสมองแล่น
อาหารดีที่ควรมีติดบ้าน-ทานประจำทำสมองแล่น

เปิดอ่าน 20,276 ครั้ง
15 เรื่องกินเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
15 เรื่องกินเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 24,446 ครั้ง
6 หนทางสู่ความร่ำรวยตั้งแต่อายุยังน้อย
6 หนทางสู่ความร่ำรวยตั้งแต่อายุยังน้อย
เปิดอ่าน 10,903 ครั้ง
ชิคุนกุนยา โรคร้าย ที่มากับยุงลาย
ชิคุนกุนยา โรคร้าย ที่มากับยุงลาย
เปิดอ่าน 9,918 ครั้ง
ราชภัฏมหาวิทยาลัยในศตวรรษที่ 21
ราชภัฏมหาวิทยาลัยในศตวรรษที่ 21
เปิดอ่าน 2,156 ครั้ง
สุขอนามัยที่ดีในการนอนหลับ 10 ประการ
สุขอนามัยที่ดีในการนอนหลับ 10 ประการ
เปิดอ่าน 5,688 ครั้ง
"#TikTokUni" ยกระดับการเรียนรู้ สู่การพัฒนาตนเองของคน Genใหม่
"#TikTokUni" ยกระดับการเรียนรู้ สู่การพัฒนาตนเองของคน Genใหม่

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ