ชื่อเรื่อง รายงานการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการ
สืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ
และคอมพิวเตอร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นายชัยวัฒน์ อุทธา
ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนจากการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนหลังใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนต้นแก้วผดุงพิทยาลัย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จำนวน 28 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย (1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ และคอมพิวเตอร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งมีจำนวน 10 ชุดย่อย (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใช้ทดสอบก่อนเรียน/หลังเรียน เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และ (3) แบบสอบถามความพึงพอใจนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ และคอมพิวเตอร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (x) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (ttest dependent samples)ดำเนินการโดยให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน จากนั้นจึงทำการทดลองสอนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ และคอมพิวเตอร์ แล้วบันทึกผลการเรียน หลังจากนั้นให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน และตอบแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนหลังจากใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ และคอมพิวเตอร์ จากนั้นนำผลการทดสอบไปหาค่าทางสถิติเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของคะแนนที่ได้จากการทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน และเปรียบเทียบผลการประเมินความพึงพอใจกับเกณฑ์ระดับคุณภาพ 5 ระดับ
ผลการวิจัย พบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.07/81.25 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจากใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจต่อการเรียนหลังจากใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในภาพรวมอยู่ในระดับ พึงพอใจมาก ( = 4.39, S.D. = 0.66)
โดยสรุปชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5Es) เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิ์ภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ และเป็นวิธีเสริมสร้างให้ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เป็นสื่อที่มีคุณค่า และมีประโยชน์ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีรูปภาพ รูปเล่มที่น่าสนใจ มีการเสริมแรง พร้อมทั้งมีกลวิธีกระตุ้นให้ผู้เรียนสืบเสาะหาความรู้ด้วยตนเองที่หลากหลาย จึงส่งผลต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นอย่างดี รวมทั้งมีความพึงพอใจในการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก ดังนั้นครูผู้สอนจึงควรนำวิธีการเรียนรู้แบบดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น