ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาเกมการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านสติปัญญาของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล

ชื่อเรื่อง การพัฒนาเกมการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านสติปัญญาของเด็กปฐมวัย

ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 1 “สุรินทร์วิทยาคม” สังกัดเทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์

ผู้วิจัย นางสาวชมภู รักษ์คิด

สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 1 “สุรินทร์วิทยาคม”

กองการศึกษาเทศบาลเมืองสุรินทร์ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

กระทรวงมหาดไทย

ปีที่วิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องการพัฒนาเกมการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) การวิจัยครั้งนี้มี 4 ขั้นตอนคือ 1) การวิจัย ( Research ) เป็นการศึกษาข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวกับการพัฒนาเกมการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย 2) พัฒนา (Development) เป็นการสร้างและหาประสิทธิภาพของเกมการศึกษา 3) การวิจัย ( Research) เป็นการทดลองใช้เกมการศึกษา 4) การพัฒนา ( Development ) เป็นการประเมินและปรับปรุงแก้ไขเกมการศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับพัฒนาการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย (2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของเกมการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านสติปัญญาให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (3) เพื่อทดลองใช้เกมการศึกษา (4) เพื่อประเมินผลและปรับปรุงแก้ไขเกมการศึกษา เกี่ยวกับความพร้อมทางด้านสติปัญญาและศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อเกมการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านสติปัญญาสำหรับเด็กปฐมวัย ประชากรที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 1 “สุรินทร์วิทยาคม” สังกัดเทศบาลเมืองสุรินทร์ มีจำนวน 6 ห้องเรียน 215 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล 1 “สุรินทร์วิทยาคม” สังกัดเทศบาลเมืองสุรินทร์ จำนวน 1 ห้องเรียน 32 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 257 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) เกมการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านสติปัญญา จำนวน 17 เกม ที่ผ่านการตรวจหาค่าดัชนีความสอดคล้องจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน มีประสิทธิภาพเท่ากับ 1.00 2) แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกับผู้เกี่ยวข้องด้านการศึกษา ครูผู้สอนปฐมวัยและผู้เชี่ยวชาญด้านเกมการศึกษา 3) แบบทดสอบประเมินความพร้อมทางด้านสติปัญญา แบบทดสอบมี จำนวน 2 ฉบับ ประกอบด้วยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยเกมการศึกษา จำนวน 30 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค้าสถิติร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S.D. ) ค่า t-test แบบ dependent 4) แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อเกมการศึกษา สำหรับเด็กปฐมวัย แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อเกมการศึกษา โดยกำหนดตัวเลือกภาพหน้า 3 แบบ 1. หน้ายิ้ม เห็นด้วยมาก 2. หน้าเฉย เห็นด้วยปลานกลาง 3. หน้าบึ้ง เห็นด้วยน้อย จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าทางสถิติร้อยละ (%) ค่า , S.D. แล้วนำเสนอแบบพรรณนาความ แบบแผนการวิจัยเป็นแบบ Pre Experimental One Group Pretest – Posttest Design

ผลการวิจัย พบว่า

จากการวิจัยครั้งนี้สามารถสรุปได้ดังนี้

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน พบว่า นักเรียนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องการให้มีการพัฒนาเกมการศึกษา โดยให้มีรูปที่เหมาะสม วิธีการเล่นให้มีหลากหลายวิธี เวลาในการปฏิบัติกิจกรรมที่นำมาพัฒนาเกมการศึกษาและเกมการศึกษายังสอดคล้องกับหน่วยการเรียนการสอนหลักสูตร โดยเรียนรู้จากการปฏิบัติโดยเรื่องที่นำมาพัฒนาเกมการศึกษามีเนื้อหาจากความต้องการและความสนใจของนักเรียนเป็นสำคัญ ควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนโดยยึดนักเรียนเป็นสำคัญและความแตกต่างระหว่างบุคคล

2. ผลการพัฒนาและหาค่าประสิทธิภาพเกมการศึกษาด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 พบว่า เกมการศึกษาที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย คำนำ วัตถุประสงค์ คู่มือครู ( แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน) , คู่มือนักเรียน (แบบทดสอบหลังเรียน) โดยเกมการศึกษาที่พัฒนาขึ้นมีจำนวน 17 เกม คือ 1) เกมซ่อนรูปภาพไว้ในภาพหลัก 2) เกมคชรักษ์เกมลอตโต 3) เกมจับคู่โชว์แบบเขาวงกต 4) เกมดูภาพพจน์สมมาตรกัน 5) เกมสานฝันเรียงลำดับภาพต่อเนื่อง 6) เกมลือเลื่องจับคู่ภาพคนกับเงา 7) เกม เล่าขานการเจริญเติบโตของกล้วย 8) เกมดอกไม้สวยที่เหมือนกัน 9) เกมตารางสัมพันธ์รูปร่างและสี 10) เกมดูดีดีเกมภาพตัดต่อ 11) เกมสานสัมพันธ์มั่นเหมาะอุปมา –อุปไมย 12) เกมเรากับใครที่แยกส่วน 13) เกมรวมก๊วนบวก 1-10 14) เกมจัดมาซิหมวดหมู่ผลไม้ 15) เกมจับคู่ไว้แบบอนุกรม 16) เกมชื่นชมเกมโดมิโน 17) โอ้โฮภาพซ่อนเรขาคณิต ซึ่งเกมการศึกษามีค่าประสิทธิภาพรายเดี่ยว ( Individual Tryout ) เท่ากับ 73.59 / 72.22 ค่าประสิทธิภาพแบบกลุ่มเล็ก ( Small Group Tryout ) เท่ากับ 76.30 / 75.19 และเกมการศึกษามีค่าประสิทธิภาพแบบภาคสนาม ( Field Tryout ) 81.79 / 80.11 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 1

3. ผลการทดลองใช้เกมการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมด้านสติปัญญา สำหรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ซึ่งผู้วิจัยเป็นผู้ทดลองจัดประสบการณ์โดยใช้เกมการศึกษาประกอบการสอนด้วยตนเองกับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล 1 “สุรินทร์วิทยาคม” สังกัดเทศบาลเมืองสุรินทร์ จำนวน 32 คน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 เริ่มการทดลองตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2557 ถึงวันที่ 3 มีนาคม 2558 รวมระยะเวลา 17 สัปดาห์ จำนวน 17 ครั้ง พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ กระตือรือร้น ต้องการเรียนเกมการศึกษาที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น โดยให้ความร่วมมือและตั้งใจปฏิบัติกิจกรรม ทั้งในห้องเรียนนอกห้องเรียนซึ่งมีทั้งปฏิบัติกิจกรรมเป็นรายบุคคลและเป็นกลุ่มอย่างดี จากการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน พบว่า นักเรียนรู้จักทำงานเป็นกลุ่มช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รู้จักยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นมากขึ้น ส่วนการปรับปรุงและแก้ไขเกมการศึกษาให้สมบูรณ์นั้นมีการปรับปรุงเกมการศึกษาทุกเกม โดยการปรับภาพให้สวยเหมือนจริงปรับเนื้อหาการใช้ภาษาให้เหมาะสมกับวัยของผู้เรียนและปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับเวลา

4. ผลการประเมินและปรับปรุงแก้ไขเกมการศึกษาพบว่าคะแนนความพร้อมทางด้านสติปัญญาที่เรียนด้วยเกมการศึกษาชั้นอนุบาลปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อเกมการศึกษาด้านการจัดประสบการณ์โดยใช้เกมการศึกษาประโยชน์โดยภาพรวมเห็นด้วยในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านนักเรียนเห็นด้วยในระดับมากเช่นเดียวกัน กล่าวคือนักเรียนมีความคิดเห็นว่าเกมการศึกษา มีรูปแบบที่น่าสนใจช่วยกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้

โพสต์โดย ชมภู : [24 มี.ค. 2560 เวลา 15:16 น.]
อ่าน [3665] ไอพี : 223.205.248.165
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 8,515 ครั้ง
ตำนานสงกรานต์
ตำนานสงกรานต์

เปิดอ่าน 15,941 ครั้ง
กบเฒ่านั่งเฝ้ากอบัว
กบเฒ่านั่งเฝ้ากอบัว

เปิดอ่าน 18,704 ครั้ง
อันซีนเมอร์คิวรี "ดาวพุธ" ในมุมที่ชาวโลกไม่เคยเห็น
อันซีนเมอร์คิวรี "ดาวพุธ" ในมุมที่ชาวโลกไม่เคยเห็น

เปิดอ่าน 15,259 ครั้ง
คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร
คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร

เปิดอ่าน 5,312 ครั้ง
โครงสร้างอะตอม
โครงสร้างอะตอม

เปิดอ่าน 7,925 ครั้ง
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)

เปิดอ่าน 2,153 ครั้ง
"วิศวกรเสียง สจล." แนะ 5 เทคนิคเลือกหูฟังถนอมหู
"วิศวกรเสียง สจล." แนะ 5 เทคนิคเลือกหูฟังถนอมหู

เปิดอ่าน 25,048 ครั้ง
กฎระเบียบการเดินทางไปต่างประเทศ
กฎระเบียบการเดินทางไปต่างประเทศ

เปิดอ่าน 15,052 ครั้ง
กำจัดความเครียดได้ง่าย ๆ ด้วยการกินอาหาร
กำจัดความเครียดได้ง่าย ๆ ด้วยการกินอาหาร

เปิดอ่าน 10,530 ครั้ง
ม.44 ดัน "ศึกษาธิการจังหวัด" เดินหน้าหรือถอยหลังปฏิรูปศึกษา
ม.44 ดัน "ศึกษาธิการจังหวัด" เดินหน้าหรือถอยหลังปฏิรูปศึกษา

เปิดอ่าน 13,009 ครั้ง
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ

เปิดอ่าน 220,005 ครั้ง
คำอธิบายการหาคะแนนทีเฉลี่ย (Average T score) ตามแบบ ก.ค.ศ.3/1
คำอธิบายการหาคะแนนทีเฉลี่ย (Average T score) ตามแบบ ก.ค.ศ.3/1

เปิดอ่าน 12,405 ครั้ง
ว่านชักมดลูก
ว่านชักมดลูก

เปิดอ่าน 18,274 ครั้ง
ข้าวกล้องงอก
ข้าวกล้องงอก

เปิดอ่าน 87,757 ครั้ง
โรงเรียนร่วมพัฒนา(Partnership School)
โรงเรียนร่วมพัฒนา(Partnership School)

เปิดอ่าน 11,645 ครั้ง
การใส่หน้ากากอนามัยให้ได้ผล
การใส่หน้ากากอนามัยให้ได้ผล
เปิดอ่าน 7,883 ครั้ง
เตรียมตัวก่อนพบหมอ
เตรียมตัวก่อนพบหมอ
เปิดอ่าน 15,989 ครั้ง
พสกนิกรแชร์คลิปประทับใจ "สมเด็จพระเทพฯ" ทรงกวักพระหัตถ์เรียกบัณฑิต กลับมารับปริญญา หลังปริ
พสกนิกรแชร์คลิปประทับใจ "สมเด็จพระเทพฯ" ทรงกวักพระหัตถ์เรียกบัณฑิต กลับมารับปริญญา หลังปริ
เปิดอ่าน 77,402 ครั้ง
กาลามสูตร
กาลามสูตร
เปิดอ่าน 9,182 ครั้ง
ชะตากรรมผู้ให้กำเนิด"บล็อก"
ชะตากรรมผู้ให้กำเนิด"บล็อก"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ