การพัฒนาผลการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยการเรียนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD เรื่อง สมบัติของจำนวนนับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์การศึกษาดังนี้ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยการเรียนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD เรื่องสมบัติของจำนวนนับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยการเรียนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD เรื่องสมบัติของจำนวนนับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยการเรียนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD เรื่องสมบัติของจำนวนนับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยการเรียนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD เรื่องสมบัติของจำนวนนับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการพัฒนา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 ภาคเรียนที่ 1ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนพิศาลปุณณวิทยา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ได้มาจากการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม(Cluster Random Sampling) จำนวน 1 ห้องเรียนจากทั้งหมด 3 ห้องเรียน โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม (Sampling Unit) จำนวน 32 คน ซึ่งมีการจัดนักเรียนแบบคละความสามารถ
เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD เรื่องสมบัติของจำนวนนับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 13 แผน ใช้เวลาในการจัดการเรียนรู้ แผนละ 1 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 1 ฉบับ มี 30 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.22 ถึง 0.86 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.97 3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยการเรียนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD เรื่องสมบัติของจำนวนนับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ค่า t-test (One sample)
ผลการพัฒนา พบว่า 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD เรื่องสมบัติของจำนวนนับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 79.95/78.54 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้ 2) ค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยการเรียนแบบ ร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD เรื่องสมบัติของจำนวนนับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.6091 หมายความว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 60.91 3) การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยการเรียนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD เรื่องสมบัติของจำนวนนับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียน คือมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน เท่ากับ 13.53 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 3.70 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 23.56 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) มีค่าเท่ากับ 3.28 แสดงให้เห็นว่านักเรียนได้รับการพัฒนาให้มีความรู้ดีขึ้น มีผลการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 4) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD เรื่อง สมบัติของจำนวนนับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.57