ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนเทศบาล ๔ (ธนวิถี) สังกัดเทศบ

ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณภาพผู้เรียน

โรงเรียนเทศบาล ๔ (ธนวิถี) สังกัดเทศบาลนครยะลา จังหวัดยะลา

ผู้ศึกษา นางกนกภรณ์ รัตนยิ่ง

ปีการศึกษา 2557

บทคัดย่อ

การประเมินครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินบริบทของโครงการ เกี่ยวกับความต้องการจำเป็น ความสอดคล้อง และความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ของโครงการ 2) เพื่อประเมินปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ เกี่ยวกับความพร้อมด้านบุคลากร ความพร้อมของอาคารสถานที่ ความเหมาะสมของปัจจัยในการดำเนินงาน ความพร้อมด้านการบริหารจัดการ ความเหมาะสมของแหล่งเรียนรู้ ความเหมาะสมของกิจกรรมส่งเสริมการใช้แหล่งเรียนรู้ และความเพียงพอของงบประมาณ 3) เพื่อประเมินกระบวนการของโครงการ เกี่ยวกับกระบวนการมีส่วนร่วมในการวางแผน กระบวนการพัฒนา แหล่งเรียนรู้ กระบวนการส่งเสริมการใช้แหล่งเรียนรู้ และกระบวนการนิเทศ ติดตาม และตรวจสอบ โครงการ 4) เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการ เกี่ยวกับปริมาณของแหล่งเรียนรู้ที่ได้รับการพัฒนา ปริมาณของกิจกรรมส่งเสริมการใช้แหล่งเรียนรู้ ปริมาณของการใช้จ่ายงบประมาณ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผลการประเมินด้านผลผลิตโครงการตามความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง และความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้องที่มีต่อการดำเนินงานโครงการ และ 5) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการจัดทำโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณภาพผู้เรียน ประชากรที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ประกอบด้วย บุคลากรในสถานศึกษา จำนวน 75 คน ผู้แทนชุมชน จำนวน 15 คน ผู้ปกครองนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 824 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 899 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,813 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ได้กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan, 1970 : 608) และได้จากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ได้แก่ บุคลากรในสถานศึกษา จำนวน 63 คน ผู้แทนชุมชน จำนวน 13 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 269 คน และนักเรียน จำนวน 269 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 614 คน การประเมินโครงการใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์โมเดล (CIPP Model) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ แบบสอบถามการประเมินโครงการ จำนวน 4 ฉบับ แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 3 ฉบับ แบบบันทึกและแบบสำรวจ จำนวน 4 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าความถี่ และค่าร้อยละ

ผลการประเมิน พบว่า

1. ผลการประเมินด้านบริบทของโครงการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายละเอียดในแต่ละตัวชี้วัด พบว่า ทุกตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมิน คือ ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์โครงการ ความต้องการจำเป็นของโครงการ และความสอดคล้องของวัตถุประสงค์โครงการ

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายละเอียดในแต่ละตัวชี้วัด พบว่า ทุกตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมิน คือ ความพร้อมด้านการบริหารจัดการ ความเหมาะสมของแหล่งเรียนรู้ ความเหมาะสมของกิจกรรมส่งเสริมการใช้แหล่งเรียนรู้ ความเหมาะสมของกิจกรรมส่งเสริมการใช้แหล่งเรียนรู้ ความพร้อมของอาคารสถานที่ ความพร้อมของปัจจัยในการดำเนินการ ความพร้อมด้านบุคลากร และความเพียงพอของงบประมาณ

3. ผลการประเมินประเด็นด้านกระบวนการของโครงการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายละเอียดในแต่ละตัวชี้วัด พบว่า ทุกตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมิน คือ กระบวนการมีส่วนร่วมในการวางแผน กระบวนการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ กระบวนการส่งเสริมการใช้แหล่งเรียนรู้ และกระบวนการนิเทศ ติดตาม และตรวจสอบโครงการ

4. ผลการประเมินประเด็นด้านผลผลิตของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกตัวชี้วัด คือ ปริมาณแหล่งเรียนรู้ได้รับการพัฒนาตามเป้าหมาย คิดเป็นร้อยละ 100 ปริมาณการจัดกิจกรรมส่งเสริมการใช้แหล่งเรียนรู้ ในภาพรวม คิดเป็นร้อยละ 97.56 ปริมาณการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อพัฒนาแหล่งเรียนรู้คิดเป็นร้อยละ 99.20 ผลการประเมินตามความคิดเห็น และความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

5. ผลการสังเคราะห์และสรุปปัญหาและแนวทางแก้ไขในการดำเนินงานโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุณภาพผู้เรียน พบว่า

1) ปัญหาด้านบริบท คือ ช่วงระยะเวลาที่จัดโครงการสั้นเกินไป ไม่มีความต่อเนื่อง และกิจกรรมบางช่วงไม่เหมาะสม แนวทางแก้ไข คือ ขยายเวลาในการจัดโครงการและวางแผน การดำเนินงานของบุคลากรร่วมกัน

2) ปัญหาด้านปัจจัยเบื้องต้น คือ คณะทำงาน งบประมาณ และอุปกรณ์การจัดกิจกรรมไม่เพียงพอ สถานที่คับแคบ และการสรรหาวิทยากร แนวทางแก้ไข คือ วิเคราะห์ผลการรายงานของกิจกรรมที่ผ่านมาเพื่อเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา วิเคราะห์ภาระงานและแต่งตั้งคณะทำงานให้สมดุล และวางแผนขอความอนุเคราะห์งบประมาณเพิ่มเติมจากภาคเอกชน

3) ปัญหาด้านกระบวนการดำเนินงาน คือ การตรวจสอบการดำเนินโครงการและผู้รับผิดชอบโครงการขาดประสบการณ์ แนวทางแก้ไข คือ ควรเร่งรัดให้มีการรายงานผลโครงการ จัดหาที่ปรึกษาให้กับคณะทำงาน วิเคราะห์ปัญหาและจัดประชุมบุคลากรเพื่อเตรียมความพร้อมทุกด้าน

4) ปัญหาด้านผลผลิต คือ นักเรียนไม่พึงพอใจสถานที่ที่ใช้จัดกิจกรรม ปัญหาด้านระเบียบวินัย การรักษาความสะอาดและการประหยัด และกิจกรรมไม่มีความหลากหลาย แนวทาง แก้ไข คือ วางแผนการใช้และตกแต่งสถานที่ให้มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม เพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ เพิ่มกิจกรรมให้หลากหลายมากขึ้น และจัดประชุมผู้บริหารและคณะกรรมการโครงการเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการในระยะยาว

โพสต์โดย kratai : [20 มี.ค. 2560 เวลา 13:59 น.]
อ่าน [4306] ไอพี : 182.52.241.188
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 7,022 ครั้ง
เกาะติดการปิดเปิดเทอม มหาวิทยาลัยไทยตามอาเซียน
เกาะติดการปิดเปิดเทอม มหาวิทยาลัยไทยตามอาเซียน

เปิดอ่าน 9,298 ครั้ง
1 ปี "สตีฟ จ็อบส์" จากไป
1 ปี "สตีฟ จ็อบส์" จากไป

เปิดอ่าน 50,573 ครั้ง
ต้นสาคู
ต้นสาคู

เปิดอ่าน 18,833 ครั้ง
10 อันดับเมืองที่มลพิษมากที่สุดในโลก
10 อันดับเมืองที่มลพิษมากที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 49,804 ครั้ง
ศัพท์บัญญัติการศึกษา
ศัพท์บัญญัติการศึกษา

เปิดอ่าน 9,957 ครั้ง
จุฬาฯ ฉลอง อันดับ 138 มหาวิทยาลัย ชั้นนำของโลก
จุฬาฯ ฉลอง อันดับ 138 มหาวิทยาลัย ชั้นนำของโลก

เปิดอ่าน 23,841 ครั้ง
คู่มือการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
คู่มือการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา

เปิดอ่าน 28,048 ครั้ง
เซรุ่ม
เซรุ่ม

เปิดอ่าน 14,723 ครั้ง
นาคเล่นน้ำ
นาคเล่นน้ำ

เปิดอ่าน 40,687 ครั้ง
ทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว...เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่าน
ทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว...เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่าน

เปิดอ่าน 10,423 ครั้ง
คลิปนี้ต้องดูคนเดียว "พนักงานร้านอาหารก็มีแม่"
คลิปนี้ต้องดูคนเดียว "พนักงานร้านอาหารก็มีแม่"

เปิดอ่าน 6,781 ครั้ง
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก

เปิดอ่าน 8,150 ครั้ง
Google Me เตรียมชนขาใหญ่ Facebook
Google Me เตรียมชนขาใหญ่ Facebook

เปิดอ่าน 11,849 ครั้ง
15 ภาพ “หมาธรรมดา” กลายเป็น “หมายักษ์” ด้วยมุมกล้อง
15 ภาพ “หมาธรรมดา” กลายเป็น “หมายักษ์” ด้วยมุมกล้อง

เปิดอ่าน 92,659 ครั้ง
20 เรื่องวิทยาศาสตร์น่ารู้
20 เรื่องวิทยาศาสตร์น่ารู้

เปิดอ่าน 13,101 ครั้ง
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
เปิดอ่าน 14,637 ครั้ง
มนัส บุญจำนงค์
มนัส บุญจำนงค์
เปิดอ่าน 16,196 ครั้ง
ประวัติจังหวัดนครพนม
ประวัติจังหวัดนครพนม
เปิดอ่าน 18,325 ครั้ง
อาร์คิมีดีส
อาร์คิมีดีส
เปิดอ่าน 3,641 ครั้ง
กรมอนามัยแนะนำเด็กไทย ดื่มนมจืด 2 แก้ว ทุกวัน เพิ่มความสูงได้
กรมอนามัยแนะนำเด็กไทย ดื่มนมจืด 2 แก้ว ทุกวัน เพิ่มความสูงได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ