|
|
บทคัดย่อ
การศึกษา เรื่องการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการ สืบเสาะหาความรู้(5E) เรื่อง พลังงานไฟฟ้า เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่กะไน ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์1). เพื่อสร้างและหาคุณภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้(5E)เรื่อง พลังงานไฟฟ้า กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2).เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้(5E) เรื่อง พลังงานไฟฟ้า 3).เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 ที่มีต่อการใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้(5E) เรื่อง พลังงานไฟฟ้า ประชากรที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้คือ นักเรียนชาย หญิง อายุ 1112 ปีที่กำลังศึกษาอยู่ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่กะไน อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ 1). ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้(5E) เรื่อง พลังงานไฟฟ้า จำนวน 9 ชุด 2). แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 11 แผน 3). แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พลังงานไฟฟ้า จำนวน 1 ชุด 30 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน
4).แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้(5E) เรื่อง พลังงานไฟฟ้าจำนวน 1 ฉบับ 10 ข้อ
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการ สืบเสาะหาความรู้(5E)เรื่อง พลังงานไฟฟ้า มีประสิทธิภาพ E1 /E2 เท่ากับ 80.79/ 82.00 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือร้อยละ 80.00/80.00 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานข้อที่1 และสอดคล้องกับงานวิจัยของ รุ่งอรุณ เธียรประกอบ (2549: บทคัดย่อ) ได้ทำการศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมฝึกทักษะการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยชุดกิจกรรมฝึกทักษะการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01และนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมฝึกทักษะการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์มีทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และสอดคล้องกับงานวิจัยของ ศิริลักษณ์ หนองเส (2548: บทคัดย่อ) ได้ศึกษาความสามารถทางการพึ่งพาตนเองด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยใช้ ชุดกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ ผลปรากฏว่า นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์กับการสอนตามคู่มือครู มีความสามารถทางการพึ่งพาตนเองด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมศักยภาพการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์กับการสอนตามคู่มือครูมีความสามารถทางการพึ่งพาตนเองด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านความสามารถในการสร้างสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2. นักเรียนมีความสามารถทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนมีคะแนนค่าเฉลี่ย 4.20 และทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย 24.6 ซึ่งสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีผลการพัฒนามีค่าเฉลี่ย 29.88 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐาน ข้อที่ 2 และสอดคล้องกับงานวิจัยของ อรวรรณ สิทธิสิริกุลวัฒน์ (2549: บทคัดย่อ) ได้ทำการศึกษาผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมตามแนววิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคมที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์และความสามารถในการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ผลการศึกษา พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมตามแนววิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคมหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และความสามารถในการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมตามแนววิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคมหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 และสอดคล้องกับวิจัยพรศรี ดาวรุ่งสวรรค์ (2550 : บทคัดย่อ) ได้ทำการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ และความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนที่ได้รับการสอน โดยใช้ชุดกิจกรรมแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ มีความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ผลการสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้(5E) เรื่อง พลังงานไฟฟ้า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.72 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อโดยมีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.51 4.96 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานข้อที่ 3 และสอดคล้องกับงานวิจัยของ ประทับ สมบัติทอง (2558 : บทคัดย่อ) ได้ศึกษาเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ด้วยชุดการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) เรื่อง ลม ฟ้า อากาศและดวงดาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผลการศึกษาพบว่า 1. การสร้างและพัฒนาใช้ชุดการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) เรื่อง ลม ฟ้า อากาศและดวงดาว มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนการใช้ชุดการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) เรื่อง ลม ฟ้า อากาศและดวงดาว ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 83.44/82.92 2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยชุด การสอนโดยใช้กระบวนการ สืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) เรื่อง ลม ฟ้า อากาศและดวงดาว มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนการใช้ชุดการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) เรื่อง ลม ฟ้า อากาศและดวงดาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังการใช้ชุดการสอน ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 3. ผลการศึกษาความ พึงพอใจที่มีต่อการสอน ด้วยชุดการสอนโดยใช้กระบวนการ สืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) เรื่อง ลม ฟ้า อากาศและดวงดาว มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนการใช้ชุดการสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5E) เรื่อง ลม ฟ้า อากาศและดวงดาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่าผู้เรียนมีความพึงพอใจเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก
ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้(5E)เรื่อง พลังงานไฟฟ้า กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.79/ 82.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือร้อยละ 80.00/80.00 หลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้(5E) เรื่อง พลังงานไฟฟ้า นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่จัดกิจกรรมเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีความสามารถทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนมีคะแนนค่าเฉลี่ย 4.20 และทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย 24.6 ซึ่งสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีผลการพัฒนามีค่าเฉลี่ย 29.88 คิดเป็นร้อยละ 77.33 การสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้(5E) เรื่อง พลังงานไฟฟ้า ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดมีค่าเฉลี่ย 4.72 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อโดยมีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.51 4.96โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
|
โพสต์โดย อ้น : [19 มี.ค. 2560 เวลา 08:48 น.] อ่าน [3470] ไอพี : 223.24.20.112
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 18,349 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,065 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,128 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,074 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,825 ครั้ง
| เปิดอ่าน 679 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,835 ครั้ง
| เปิดอ่าน 90,531 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,004 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,136 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,969 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,101 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,316 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,411 ครั้ง
| เปิดอ่าน 190,977 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 2,996 ครั้ง
| เปิดอ่าน 62,733 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,521 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,938 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,657 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|