ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณโดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทาน

เรื่อง : การพัฒนาทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณโดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษา

ปีที่ 5

ผู้รายงาน : นางสุภาวดี แก้วเนื้ออ่อน

ปีที่ศึกษา : 2559

บทคัดย่อ

การศึกษาเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณโดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพ ของชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านคลองขุด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล ตามเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนบ้านคลองขุด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล ก่อนและหลังการสอนโดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนบ้านคลองขุด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล ที่มีต่อการเรียนรู้ใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยมีกลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559โรงเรียนบ้านคลองขุด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูลจำนวน 34 คน ซึ่งเป็นห้องที่ผู้วิจัยเป็นครูประจำชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1. ชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมโดยใช้เทคนิคการเรียนรู้ KWLH Plus ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 ชุดกิจกรรม 2. แผนการจัดการเรียนรู้พัฒนาความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านคลองขุด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล จำนวน25 แผน รวมเวลา 25 ชั่วโมง 3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้านความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นข้อสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40ข้อและ 4. แบบประเมินความพึงพอใจ ที่มีต่อการเรียนโดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้รายงานดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของกลุ่มตัวอย่าง ค่าร้อยละ (Percentage) และการทดสอบที (t-test)

จากการศึกษาเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณโดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในครั้งนี้ สรุปผลการศึกษา ได้ดังนี้

1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 คะแนนระหว่างเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 44.06 จากคะแนนเต็ม 50 คะแนนคิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 88.13 และคะแนนสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน มีค่าเฉลี่ย 33.74 จากคะแนนเต็ม 40 คะแนน คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 86.85 แสดงว่าชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.13 /86.85 เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80

2. การเปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จากการทดสอบก่อนและหลังการสอนโดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่าหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05โดยค่าเฉลี่ยของคะแนน หลังการสอนโดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนก่อนการสอนโดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านคลองขุด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล จำนวน 34คน ที่มีต่อการเรียนรู้ใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่านนิทานคติธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการจัดการเรียนการสอน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาได้แก่ ด้านเนื้อหา มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก และด้านสื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ตามลำดับ เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อนักเรียนมีความสนุกสนานกับการร่วมกิจกรรม มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยสูงสุด และข้อกระบวนการในชุดกิจรรม ส่งเสริมให้นักเรียนความสนุกสนาน กระตุ้นให้อยากรู้ อยากเรียน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการศึกษาไปใช้

1. ผู้สอนต้องคำนึงถึงพื้นฐานการเรียนรู้ของนักเรียน การแนะนำเบื้องต้นจะเป็นการกระตุ้นให้นักเรียนตระหนักถึงบทบาทของตนเอง การอภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ให้นักเรียนเกิดความตระหนักกระตือรือร้นในการเรียนรู้มากขึ้น

2. การพัฒนาทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ เป็นการคิดขั้นสูง ครูผู้สอนควรใช้สื่อที่ดี อ่าน เข้าใจง่าย มีกิจกรรมที่หลากหลาย ควบคู่กับการสอน

โพสต์โดย amonare : [8 มี.ค. 2560 เวลา 20:05 น.]
อ่าน [3752] ไอพี : 171.7.233.222
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,651 ครั้ง
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการปฏิรูปการเรียนการสอน
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการปฏิรูปการเรียนการสอน

เปิดอ่าน 9,591 ครั้ง
บังคับรถก๊าซแอลพีจีติดสติกเกอร์
บังคับรถก๊าซแอลพีจีติดสติกเกอร์

เปิดอ่าน 16,443 ครั้ง
วิธีการเรียงกระสอบทราย ให้ถูกวิธี ป้องกันน้ำท่วม ได้ผลชัวร์
วิธีการเรียงกระสอบทราย ให้ถูกวิธี ป้องกันน้ำท่วม ได้ผลชัวร์

เปิดอ่าน 41,604 ครั้ง
30 สุดยอดอาหาร ที่เป็นยาดีต่อสุขภาพ
30 สุดยอดอาหาร ที่เป็นยาดีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 10,222 ครั้ง
เด็กชายใช้เงินหมดทุกสัปดาห์ พ่อสงสัยแอบตามสืบ แต่กลับพบสิ่งไม่คาดคิด
เด็กชายใช้เงินหมดทุกสัปดาห์ พ่อสงสัยแอบตามสืบ แต่กลับพบสิ่งไม่คาดคิด

เปิดอ่าน 65,752 ครั้ง
ประติมากรรม
ประติมากรรม

เปิดอ่าน 14,553 ครั้ง
บันไดเลื่อนตัวแรกของไทย
บันไดเลื่อนตัวแรกของไทย

เปิดอ่าน 10,289 ครั้ง
“งานขาย-บริการ-อาหาร” อาชีพที่นายจ้างต้องการคนร่วมงาน
“งานขาย-บริการ-อาหาร” อาชีพที่นายจ้างต้องการคนร่วมงาน

เปิดอ่าน 3,406 ครั้ง
สลากออนไลน์ ขึ้นเงินอย่างไร
สลากออนไลน์ ขึ้นเงินอย่างไร

เปิดอ่าน 19,273 ครั้ง
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร

เปิดอ่าน 26,485 ครั้ง
ช่วยครูสอนเลขให้เด็กสนุก ด้วยสื่อดิจิตอลคณิตศาสตร์ระดับประถม
ช่วยครูสอนเลขให้เด็กสนุก ด้วยสื่อดิจิตอลคณิตศาสตร์ระดับประถม

เปิดอ่าน 14,577 ครั้ง
ปรุง...ต้านมะเร็ง ด้วยเมนูโฮมเมด
ปรุง...ต้านมะเร็ง ด้วยเมนูโฮมเมด

เปิดอ่าน 14,988 ครั้ง
แสงแดดช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
แสงแดดช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน

เปิดอ่าน 24,944 ครั้ง
"สธ."เตือนอย่าให้เด็กกิน "คลอโรฟิลล์"
"สธ."เตือนอย่าให้เด็กกิน "คลอโรฟิลล์"

เปิดอ่าน 10,343 ครั้ง
อาหารก่อมะเร็ง
อาหารก่อมะเร็ง

เปิดอ่าน 21,873 ครั้ง
จำปาดะ
จำปาดะ
เปิดอ่าน 3,694 ครั้ง
เปิดรายชื่อ 203 แอพอันตราย เตือนประชาชน อย่าโหลด!
เปิดรายชื่อ 203 แอพอันตราย เตือนประชาชน อย่าโหลด!
เปิดอ่าน 18,739 ครั้ง
เกมส์แต่งตัว
เกมส์แต่งตัว
เปิดอ่าน 12,254 ครั้ง
แนะปรับกระจก-ท่านั่งเหมาะสม ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ
แนะปรับกระจก-ท่านั่งเหมาะสม ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ
เปิดอ่าน 74,382 ครั้ง
ถึงเวลาปลุก “จิตวิญญาณ” ความเป็น “ครู” ก่อนจะไปถึงการศึกษาไทย 4.0
ถึงเวลาปลุก “จิตวิญญาณ” ความเป็น “ครู” ก่อนจะไปถึงการศึกษาไทย 4.0

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ