ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน
จากการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้ศึกษา นางสาวธนิตา ถาวรผล
ปีที่ศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การดำเนินงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนภูเขียว ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 75/75 (2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประชากรที่ใช้ในการดำเนินงานในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนภูเขียว ปีการศึกษา 2559 จำนวน 550 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/7 โรงเรียนภูเขียว ปีการศึกษา 2559 จำนวน 49 คน ซึ่งผู้วิจัยได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินงาน ได้แก่ (1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน จำนวน 8 ชุด (2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 19 แผน (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน จำนวน 30 ข้อ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน จำนวน 20 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดย หาค่าสถิติพื้นฐาน วิเคราะห์ประสิทธิภาพ ดัชนีประสิทธิผล การทดสอบค่าสถิติ t-test แบบ Dependent และวิเคราะห์ความพึงพอใจ
ผลการวิจัยพบว่า
(1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน
มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.75 /82.18 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้
(2) ค่าดัชนีประสิทธิผลของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.79.07
(3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .01
(4) ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน มีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.55 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.66 แสดงว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับ ค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.60 รองลงมาได้แก่ ด้านสื่อการเรียนรู้ ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.57 ด้านเนื้อหา ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.53 ตามลำดับ และด้านที่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ได้แก่ ด้านการวัดและประเมินผล ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50