ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนด้วยหลัก 5 E โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานเพื่อพัฒนาการคิดแก้ปัญหา เรื่อง วัสด

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ 5E) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ 5E) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนเรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ 5E) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ 5E)

กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนชุมชนบ้านดอนหัน อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 14 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ 5E) จำนวน 20 แผน เวลา 20 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดแก้ปัญหา ของนักเรียนเรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ 5E) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แบบทดสอบแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 1 ฉบับ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ 5E) ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แบบทดสอบแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือกจำนวน 40 ข้อ 1 ฉบับ 4) เครื่องมือวัดผลตามสภาพจริง ประกอบด้วย ใบกิจกรรมและแบบฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 5) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนเรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ 5E) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5โดยประเมิน 4 ด้านได้แก่ ด้านครูผู้สอน ด้านสื่อการเรียนการสอน ด้านการวัดผลและประเมินผลและด้านบรรยากาศการเรียนการสอน จำนวน 20 ข้อ 1 ฉบับ

การวิจัยครั้งนี้ใช้แบบแผนการทดลองแบบกลุ่มเดียว ทดสอบก่อนเรียนและทดสอบ หลังเรียน (One Group Pretest Posttest Design)

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ การหาค่าเฉลี่ย การหาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การเปรียบเทียบความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน จากคะแนนแบบทดสอบวัดความสามารถ ในการคิดแก้ปัญหาก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้สถิติ t-test (Dependent)และการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน จากคะแนนแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้สถิติ t-test (Dependent)

ผลการวิจัย พบว่า

ในการวิจัย เรื่อง การพัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนด้วยหลัก 5E โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานเพื่อพัฒนาการคิดแก้ปัญหา เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนชุมชนบ้านดอนหัน สรุปผลการวิจัยได้ดังต่อไปนี้

1. แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นักเรียน เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ 5E) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.04/86.87 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่กำหนดไว้

2. ความสามารถในการคิดแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นักเรียน เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ 5 E) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยแผนการ จัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นักเรียน เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ 5 E) ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นักเรียน เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ 5 E) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด

สรุปได้ว่า การเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสมบัติของวัสดุโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ 5 E) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทำให้นักเรียนมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน นอกจากนี้ยัง พบว่า นักเรียนเกิดการเรียนรู้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยความตั้งใจ กระตือรือร้น เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนักเรียนกับนักเรียน และระหว่างนักเรียนกับครู เกิดความสามัคคี มีความซื่อสัตย์ มีความอดทน และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

โพสต์โดย โอ๋ : [30 พ.ย. 2559 เวลา 14:04 น.]
อ่าน [3799] ไอพี : 182.52.135.10
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,700 ครั้ง
สู่ความสำเร็จในการทำงานตามแนวพุทธ
สู่ความสำเร็จในการทำงานตามแนวพุทธ

เปิดอ่าน 10,280 ครั้ง
เทคนิค"อ่านเร็ว"ใช้ไม่ได้ผล
เทคนิค"อ่านเร็ว"ใช้ไม่ได้ผล

เปิดอ่าน 879 ครั้ง
การตลาดออนไลน์ 2024 มีอะไรบ้างที่ต้องอัปเดต
การตลาดออนไลน์ 2024 มีอะไรบ้างที่ต้องอัปเดต

เปิดอ่าน 19,488 ครั้ง
เหรียญปราบฮ่อ
เหรียญปราบฮ่อ

เปิดอ่าน 32,136 ครั้ง
10 อันดับของคำที่มักออกเสียงผิดบ่อยๆ
10 อันดับของคำที่มักออกเสียงผิดบ่อยๆ

เปิดอ่าน 9,515 ครั้ง
PISA ที่ผ่านมาบอกอะไรให้เราทราบบ้าง
PISA ที่ผ่านมาบอกอะไรให้เราทราบบ้าง

เปิดอ่าน 11,651 ครั้ง
การใส่หน้ากากอนามัยให้ได้ผล
การใส่หน้ากากอนามัยให้ได้ผล

เปิดอ่าน 31,599 ครั้ง
ม่วงส่าหรี
ม่วงส่าหรี

เปิดอ่าน 73,916 ครั้ง
อนาคตที่เป็นไปได้ เริ่มต้นที่ความใส่ใจของคุณครูทุกคน
อนาคตที่เป็นไปได้ เริ่มต้นที่ความใส่ใจของคุณครูทุกคน

เปิดอ่าน 10,404 ครั้ง
ระวังเชื้อก่อโรคในน้ำแข็ง
ระวังเชื้อก่อโรคในน้ำแข็ง

เปิดอ่าน 11,895 ครั้ง
ฮาก๊ากคู่รักตัวกะเปี๊ยก นัดวิวาห์เหาะข้ามทวีป
ฮาก๊ากคู่รักตัวกะเปี๊ยก นัดวิวาห์เหาะข้ามทวีป

เปิดอ่าน 26,267 ครั้ง
เกษตรกรมือใหม่ต้องรู้ ระบบน้ำเลี้ยงมีความสำคัญมากยังไง
เกษตรกรมือใหม่ต้องรู้ ระบบน้ำเลี้ยงมีความสำคัญมากยังไง

เปิดอ่าน 14,647 ครั้ง
ความลับของการเลี้ยงลูก พ่อแม่ยุคนี้ ช่วยสละเวลาสัก 2 นาที อ่านหน่อยเถอะ
ความลับของการเลี้ยงลูก พ่อแม่ยุคนี้ ช่วยสละเวลาสัก 2 นาที อ่านหน่อยเถอะ

เปิดอ่าน 30,327 ครั้ง
เคล็ดลับการทำให้หน้าเรียวกระชับใน 3 นาที
เคล็ดลับการทำให้หน้าเรียวกระชับใน 3 นาที

เปิดอ่าน 9,423 ครั้ง
ชาอู่เว่ยจื่อ ป้องกันความจำเสื่อม
ชาอู่เว่ยจื่อ ป้องกันความจำเสื่อม

เปิดอ่าน 42,230 ครั้ง
สรุปสูตรไฮเพอร์โบลามุมฉาก
สรุปสูตรไฮเพอร์โบลามุมฉาก
เปิดอ่าน 32,244 ครั้ง
ทำไมแมลงปอต้องบินไปแตะผิวน้ำ
ทำไมแมลงปอต้องบินไปแตะผิวน้ำ
เปิดอ่าน 13,678 ครั้ง
ข่าวจริง! การใส่หน้ากากอนามัย ส่งผลร้ายต่อการทำงานของสมองของเด็กต่ำกว่า 12 ปี
ข่าวจริง! การใส่หน้ากากอนามัย ส่งผลร้ายต่อการทำงานของสมองของเด็กต่ำกว่า 12 ปี
เปิดอ่าน 6,609 ครั้ง
เช็คด่วน! 13 แอปฯ อันตราย "ดูดเงิน-สอดแนม" มีอะไรบ้าง ลบทิ้งทันที
เช็คด่วน! 13 แอปฯ อันตราย "ดูดเงิน-สอดแนม" มีอะไรบ้าง ลบทิ้งทันที
เปิดอ่าน 30,237 ครั้ง
น้ำแร่และน้ำเปล่าแตกต่างกันอย่างไร
น้ำแร่และน้ำเปล่าแตกต่างกันอย่างไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ