ผู้วิจัย นางโสภิดา ภู่เลิศตระกูล
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่)
ปีที่ทำการวิจัย 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด หนูทำได้ (โตไปไม่โกง) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่) โดยหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด หนูทำได้ (โตไปไม่โกง) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่) ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน หลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด หนูทำได้ (โตไปไม่โกง) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่) อีกทั้งยังศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด หนูทำได้ (โตไปไม่โกง) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/5 กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่) ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ชั้นเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม (Sampling Unit) มาจำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 37 คน แบบวิจัย ใช้แบบกลุ่มเดียววัดก่อนและหลัง เครื่องมือที่ใช้ใน การวิจัยเป็นเครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นประกอบด้วยชุดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด หนูทำได้ (โตไปไม่โกง) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่) จำนวน 5 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบทดสอบปรนัยแบบเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือกจำนวน 40 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด หนูทำได้ (โตไปไม่โกง) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่) เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับจำนวน 10 ข้อ การเก็บรวบรวมข้อมูลการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเองโดยทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน-หลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด หนูทำได้ (โตไปไม่โกง) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่) และสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด หนูทำได้ (โตไปไม่โกง) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วยค่าเฉลี่ยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานสถิติหาคุณภาพเครื่องมือได้แก่ การหาค่าความสอดคล้องของชุดกิจกรรมค่าความตรงเชิงเนื้อหาของแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมโดยหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) หาค่าความยากและอำนาจจำแนกของแบบทดสอบหาค่าความเที่ยงของแบบทดสอบโดยใช้ KR-20 หาค่าความเที่ยงของแบบวัดเจตคติและแบบสอบถามความพึงพอใจตามสูตรอัลฟาของครอนบาคสถิติหาคุณภาพนวัตกรรมใช้ E1/ E2 หาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ผลการวิจัยโดยสรุปมีดังนี้
1. ชุดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด หนูทำได้ (โตไปไม่โกง) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่) ในภาพรวมมีความสอดคล้องโดยมีค่า IOC เท่ากับ 0.97
2. ชุดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด หนูทำได้ (โตไปไม่โกง) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.16/88.85
3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุด หนูทำได้ (โตไปไม่โกง) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านหาดใหญ่) โดยรวมอยู่ในระดับมาก ("X" ̅ = 4.16, S.D = 0.77)