การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง อาหารและการแปรรูปผลผลิต โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อประเมินบทเรียนสำเร็จรูป 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง อาหารและการแปรรูปผลผลิต โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง อาหารและการแปรรูปผลผลิต โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง อาหารและการแปรรูปผลผลิต โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน 6) เพื่อศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนหลังได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป ประชากรกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 36 คน โดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย บทเรียนสำเร็จรูป จำนวน 9 เล่ม แบบประเมินคุณภาพบทเรียนสำเร็จรูป จำนวน 20 ข้อ แผนจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน จำนวน 11 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ค่าความยาก (p) อยู่ระหว่าง 0.47-0.83 และมีค่าอำนาจจำแนก (B) อยู่ระหว่าง 0.20-0.83 ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ เท่ากับ 0.93 แบบทดสอบความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และดัชนีประสิทธิผล
ผลการวิจัย พบว่า
1. บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง อาหารและการแปรรูปผลผลิต โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.52 / 85.56 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง อาหารและการแปรรูปผลผลิต โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด
3. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง อาหารและการแปรรูปผลผลิต โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง อาหารและการแปรรูปผลผลิต โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7844 หมายความว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นหลังการเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป ร้อยละ 78.44
5. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง อาหารและการแปรรูปผลผลิต โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด
6. นักเรียนมีความคงทนในการเรียนรู้หลังเรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง อาหารและการแปรรูปผลผลิต โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เมื่อเวลาผ่านไป 7 วัน คะแนนลดลงร้อยละ 5.11 ซึ่งเกณฑ์กำหนดลดลงได้ไม่เกินร้อยละ 10 และเมื่อเวลาผ่านไป 30 วัน คะแนนลดลงร้อยละ 13.89 ซึ่งเกณฑ์กำหนดไว้ลดลงได้ไม่เกินร้อยละ 30 แสดงว่า นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูปมีความคงทนในการเรียนรู้ตามเกณฑ์